บุกออฟฟิศ Tech ยักษ์ใหญ่ใน Silicon Valley กัน #2

Putt Potsawee
LifeatRentSpree
Published in
4 min readAug 7, 2020

สวัสดีครับทุกคน จากครั้งที่แล้วที่ผมได้พาทุกคนไปชมบรรยากาศในการทำงาน ความสวยงามของออฟฟิศยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Apple และ AirBnB ครั้งนี้ผมไม่รอช้าที่จะถ่ายทอดเรื่องราวที่ผมได้ไปเห็นและได้ไปเรียนรู้ อีก 3 บริษัท ที่พอพูดชื่อแล้วทุกคนคงรู้จักกันดีอย่างแน่นอน

ติดตามเรื่องราวครั้งที่แล้วได้ที่นี่เลยครับ

Omnivirt

ถ้าพูดถึงบริษัทที่ Pioneer เกี่ยวกับเทคโนโลยีวีดีโอ 360 องศาบนเว็บไซต์ หรือบนมือถือ จะเป็นบริษัทไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก Omnivirt ตั้งอยู่ที่ California แถมยังมีออฟฟิศอยู่ในประเทศไทยอีกด้วย หลายๆคนอาจจะไม่คุ้นชื่อ แต่บริษัท Omnivirt ก็เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงอยู่พอสมควร บริษัทนี้ เป็นเจ้าแรกๆ ที่นำเทคโนโลยี วีดีโอ 360 องศา และ คนเทนต์แบบ 3D มาแสดงผลบนเว็บให้ดูง่ายขึ้น (ก่อนที่เราจะเห็นฟีเจอร์นี้ใน Facebook อีก) เดี๋ยวผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับ Omnivirt ให้มากขึ้นกันนะครับ

Omnivirt นั้น ถูกก่อตั้งโดย “พี่แบดด์ ปรัชญา ไพศาลวิภัชพงศ์” ใช่ครับ อ่านไม่ผิด คนไทยนั่นเอง ทำให้ทีมงานคุณภาพในบริษัทจะเป็นคนไทยซะส่วนใหญ่

จะเห็นว่า โครงสร้างของ RentSpree นั้นมีโครงสร้างทีมที่คล้ายคลึงกับ Omnivirt เป็นอย่างมาก พวกเราชาว RentSpree จึงถือโอกาสนั่งคุย แลกเปลี่ยนข้อคิด ประสบการณ์การการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศกับพี่แบดด์โดยตรง เพื่อนำมาปรับใช้พัฒนาทีม และออฟฟิศของเราอีกด้วย ต้องขอขอบคุณพี่แบดด์มากๆ เลยนะครับ

หลังจากนั้นไม่นานเราก็ได้ยินข่าวดีว่า Omnivirt ถูก Acquire โดย Facebook ทางเราชาว RentSpree เราขอแสดงความยินดีกับทางทีม Omnivirt ด้วยนะครับ

เฟสบุค Wall แบบของจริง ถ้าใครที่ใช้เฟสบุคมานานคงต้องรู้ความหมายของคำว่า Wall แน่ๆ

Facebook

อ่านมาถึงตรงนี้หลายๆ คนคงเดาได้แล้วว่าเราต้องไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมชมยักษ์ใหญ่ของวงการ tech กับแพลตฟอร์มที่แทบจะเป็นปัจจัย 5 ของมนุษย์ แน่นอนครับนั่นก็คือ Facebook ด้วยแพลตฟอร์มที่น่าสนใจของเค้าทำให้ Facebook กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเราไม่ว่าจะไปไหน ทำอะไร ก็จะอัพเดตทันที แล้วอย่างนี้เราจะพลาดที่จะไปบุกออฟฟิศเค้าได้ยังไงละครับ

Campus สุดใหญ่

สิ่งแรกที่เราเข้ามาแล้วเจอเลยก็คือ แคมปัสของเฟสบุคที่ใหญ่มาก มีตึกสำนักงานเรียงกันเป็นจำนวนมากเหมือนเป็นเมืองเมืองนึงเลยก็ว่าได้ และเมื่อเข้ามาในตึกแรกเราก็ได้เจอกับการตกแต่งออฟฟิศแบบ Loft ตกแต่งด้วยเพดานเปลือยไม่มีฝ้า มีข้อความต่างๆ ที่ถูกเขียนประดับอยู่บนผนัง มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่นที่แขวนจักรยานสำหรับพนักงาน หรือตู้ Vending Machine ที่สามารถกดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์​ (เช่น Apple Mouse) ออกมาได้ฟรี โดยใช้แค่บัตรพนักงาน

ตึกที่เราได้ไปเยี่ยมชมกัน

แต่พอเดินมาทางโซนออฟฟิศ สิ่งที่น่าตื่นเต้นและตกใจมากคือ โต๊ะทำงานที่ต่อกันยาวมาก ยาวเหมือนเดินเท่าไหร่ก็ไม่เจอโต๊ะสุดท้ายซักที แล้วจะบอกว่าเห็นโต๊ะทำงานเยอะขนาดนี้ ตึกนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของแคมปัสนี้เท่านั้น ถ้าเดาขนาดไม่ออกลองดูภาพที่เป็นสนามหญ้านะครับ สนามหญ้าอันนี้คือหลังคาของตึก ที่ถูกเอาหญ้ามาปูและทำเป็นสวนพักผ่อนของพนักงาน ดูจากความกว้างสนามแล้วเราสามารถเตะบอลได้ครบทีมอย่างสบายๆ

ดาดฟ้าตรงนี้เป็นสนามหญ้า

เนื่องจากออฟฟิศใหญ่ และพนักงานเยอะมาก สิ่งอำนวยความสะดวกย่อมไม่ธรรมดา ข้างในแคมปัสจะเหมือนเมืองเล็กๆ มีถนนตัดตรงกลาง คนเดินกันพลุกพล่านไปหมด(ตรงนี้ที่เห็นคือโซนข้างใน ต้องแสกนบัตรพนักงานก่อนถึงจะเข้าได้นะครับ) ตามข้างถนนสองฝั่งก็จะมีร้านอาหารเยอะแยะไปหมด พนักงานก็สามารถเลือกได้ว่าอยากกินอะไร เหมือนตอนอยู่มหาวิทยาลัยเลยครับ ร้านอาหารต่างๆ จะมีทั้งแบบ ร้านอาหารฟรี และแบบเสียเงิน ระหว่างทางผมก็แอบแวะชิมไอติมร้านนึงในแคมปัส คือมันอร่อยมาก อร่อยจนผมไม่อยากกลับเลยครับ

ภายในแคมปัสเหมือนเมืองย่อมๆ

แต่ที่เจ๋งสุดคือ ในแคมปัสมีร้าน Arcade หรือบ้านเราเรียกว่าร้านเกมตู้ ข้างในมีเกมตู้มากมาย ตั้งแต่ พินบอล, เกมส์เต้น, Street Fighter, Metal Slug ไปจนถึง Winning (PES) โอ้ยยยย มีขนาดนี้เรียกว่าสวรรค์ของผมเลยครับ แล้วที่พีกคือเล่นฟรีครับไม่เสียเงินซักบาท! เล่นยาวๆ กันไปได้เลยจ้า

Arcade เกมแบบไม่ต้องหยอดเหรียญ

ตำนานเตือนใจ

ป้ายนี้ตั้งข้างหน้าเลย

ตรงป้ายหน้าเฟสบุคที่เป็นแลนมาร์คที่สำคัญ ใครได้มาเยี่ยมต้องแวะเวียนมาถ่ายรูปกับไอคอนมือยกนิ้ว หรือปุ่มไลค์ที่เราคุ้นเคย มองจากข้างหน้าป้ายก็ดูปกติ แต่ถ้ามองเห็นหลังป้ายเราจะรู้ว่ามีความหมายซ่อนอยู่

เมื่อเราเดินไปดูข้างหลังของป้ายจะเห็นว่า ป้ายนี้เคยเป็นของ Sun Microsystem บริษัทผลิตคอมพิวเตอร์ และชิปยุคแรกๆ ในปี 1982 ผู้ต้นคิดภาษา Java ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก และเป็นผู้เริ่มพัฒนา ระบบปฏิบัติการ Solaris ก่อนที่บริษัทจะถูกซื้อไปโดย Oracle ในปี 2010

แคมปัสนี้เคยเป็นที่ตั้งของ Sun Microsystem และต่อมาเฟสบุคได้เข้ามาเช่า และซื้อที่ดินต่อ ทางเฟสบุคก็ได้สั่งให้รีไซเคิลป้าย ให้ยังเห็นชื่อ Sun Microsystem ทางด้านหลังของป้าย เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจให้กับตัวเองว่าเทคโนโลยีนั้นเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เราต้องไม่หยุดคิดและไม่หยุดพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ไล่ตามเทคโนโลยีให้ทันอยู่เสมอ และถ้าไล่ตามเทคโนโลยี ไล่ตามโลกไม่ทัน บริษัทที่เคยใหญ่มากก็อาจจะล้มลงได้

รวมภาพแคมปัสเฟสบุค

บรรยากาศ

พูดถึงบรรยากาศการทำงาน จากคำบอกเล่าของพนักงานที่ทำงานอยู่ในเฟสบุคกันบ้าง ที่นี่บรรยากาศและการทำงานจะค่อนข้างแบ่งเป็นทีมตาม function ของ platform facebook เน้นการทำงานแบบ Individual ทุกคนจะต้องทำงานและรับผิดชอบงานในส่วนของตัวเองเป็นหลัก อย่างเช่น ทีม Messaging ก็จะดูแลเฉพาะฟังก์ชั่นแชท แบ่งเป็นส่วนทำ API, Application และ Website เป็นต้น

ที่นี่เค้าทำงานกันค่อนข้างกดดัน เพราะเฟสบุคมีระบบการประเมินที่ทำให้ทุกคนต้องคอยพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาเพราะการแข่งขันในออฟฟิศค่อนข้างสูง เลยทำให้พนักงานบางคนอาจจะกดดันได้

Uber

มาถึงที่สุดท้ายที่เราไปเยี่ยยมชมกันแล้วนะครับ นั่นคือ Uber ต้องบอกก่อนว่าแคมปัสที่เราไปเยี่ยมชมเนี่ยเป็นแคมปัสย่อย ซึ่งเป็นส่วนที่ Uber เช่าตึกร่วมกับบริษัท VMWare

ตัว Uber นั้นเป็นบริษัทน้องใหม่ แต่ก็นับว่าเป็น Unicorn ตัวนึงในยุคนี้ มีช่วงหนึ่งที่ Valuation ของบริษัทขึ้นไปสูงมาก Impact จากแพลตฟอร์มของ Uber ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคในอเมริกาเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ ผู้ใช้อูเบอร์สามารถเรียกรถได้อย่างสะดวกสบาย จากแท็กซี่ราคาสูงไปสู่การนั่งรถส่วนบุคคลราคาที่จับต้องได้ ตัวบริษัทเองก็ไม่เคยหยุดพัฒนา และออกฟีเจอร์ใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา และยังขยายไปเป็น Uber Car แบบต่างๆ และ Uber Eat โมเดลธุรกิจแทบจะเหมือนกับ Grab บ้านเราเลยทีเดียว ที่มีทั้ง Grab Car และ Grab Food

บรรยากาศภายใน Uber

มาพูดถึงออฟฟิศ Uber กันบ้างนะครับ เค้าก็ตกแต่งออฟฟิศแบบเรียบง่ายพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างครบครัน รวมถึงยังมี Pantry และ Micro kitchen เพื่อให้ทุกคนได้ทานอาหาร และใช้เวลาร่วมกัน แถมยังมีโซนขนมขบเคี้ยวอีกด้วย ที่ผมชอบมากคงเป็น Phone booth อันนี้เป็นพื้นที่ที่เวลาใครอยากทำงานหรือคุยโทรศัพท์ ก็สามารถเข้าไปในนี้ได้เลย เพราะจะไม่มีเสียงจากข้างนอกไม่เข้าไปเลยครับ

Phone Booth

สถานการณ์

ช่วงที่เราเดินทางเป็นช่วงต้นปี (มค. 2020) สถานการณ์ของ Uber ยังไม่สู้ดีนัก เนื่องจากประเด็นร้อนจาก ความล้มเหลวจากการ IPO ของ WeWork ซึ่งสองบริษัทนี้มี SoftBank เป็นนักลงทุนใหญ่เจ้าเดียวกัน เมื่อมีปัญหาจาก WeWork ทำให้นักลงทุนต่างเป็นห่วง Uber เนื่องจากตัวเลข และรายได้ของบริษัท หรือแม้แต่ราคาหุ้นของบริษัท ก็ยังไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ รวมไปถึงบริษัทพึ่งจะมีการประกาศลดพนักงานไปเมื่อปลายปี 2019

ด้วยเหตุนี้ทำให้บรรยากาศการทำงานค่อนข้างจริงจังและดูเคร่งเครียดเป็นทวีคูณ มาตรการรัดเข็มขัดที่กำลังถูกนำมาปรับใช้ทำให้บรรยากาศในออฟฟิศค่อนข้างดูอึมครึมกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมเราสัมผัสได้ถึงการทำงานร่วมกันเป็นทีมที่ค่อนข้างเหนียวแน่น โต๊ะที่เราเดินผ่าน เจอคนจับกลุ่มคุยงานกัน เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจของทีมเป็นอย่างดีมาก

การเดินทางในครั้งนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรดีๆ มากมาย ได้เห็นการทำงานของออฟฟิศยักษ์ใหญ่ทุกที่ และถึงแม้ออฟฟิศจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะขนาดไหน แต่งานที่พนักงานทุกคนต้องรับผิดชอบนั้นก็ถือว่าทั้งเยอะ ยาก และต้องใช้ความรับผิดชอบสูงมากเลยทีเดียว บริษัทต่างๆ ต้องผลิตนวัตกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคให้ได้อย่างสม่ำเสมอ วัฒนธรรมองค์กรที่เน้นการพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เน้นการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและชาญฉลาด ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ทุกองค์กรที่ไปถึงระดับยักษ์ใหญ่แบบนี้ได้ เมื่อใดที่เราหยุดพัฒนา เราก็จะไล่ตามโลกไม่ทัน

สุดท้ายนี้ขอฝากทีม RentSpree ไว้ด้วยนะครับ เราทำแพลตฟอร์มเพื่อช่วยในกระบวนการเช่าบ้านระยะยาวเพื่ออยู่อาศัยในอเมริกา เราตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงกระบวนการเช่าบ้านโดยใช้เทคโนโลยีที่นำสมัย เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพในการใช้งาน แพลตฟอร์มของเรารันอยู่ที่อเมริกา แต่ทีมพัฒนาของเราทั้งหมดอยู่ที่ประเทศไทย เรามุ่งมั่นที่จะสร้างทีมที่มีความสามารถทัดเทียมกับทีมยักษ์ใหญ่ใน Silicon Valley และไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเองเพื่อสร้างนวัตกรรมที่ล้ำสมัยตลอดเวลา

ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่คิดจะหยุดพัฒนาตัวเอง อยากทำงานในระดับโลก สนใจมาร่วมทีมกับเราส่งเรซูเม่มาได้ที่ join@rentspree.com หรือดูข้อมูลเพิ่มเติม https://www.rentspree.com/careers/

--

--

Putt Potsawee
LifeatRentSpree

Lead Developer at RentSpree. Passionate programmer who specialized in Backend and Infrastructure.