Product Designer at RentSpree
“การเป็น Product Designer ที่ RentSpree มีข้อดีที่สำคัญมาก ๆ คือบริษัทให้ความสำคัญในเรื่องของ UX คือแคร์การใช้งานของ User จริง ๆ จึงทำให้ดีไซเนอร์ได้ทำตาม Design Process ได้อย่างที่ควรเป็น”
สวัสดีครับ ผมชื่อลูกชิ้น เป็น Product Designer ที่ RentSpree มาเป็นเวลา 6 เดือน สำหรับท่านผู้อ่านที่ยังไม่รู้ว่าเราทำอะไร สามารถอ่านเรื่องราวของ RentSpree ได้ที่นี่ก่อนนะครับ
แต่สำหรับท่านที่รู้จักแล้ว และสนใจในการเป็น Product Designer ที่บริษัท Rentspree (ซึ่งเรากำลัง hiring อีกจำนวนเยอะมาก ๆ) ผมเลยเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อทำให้คุณได้เห็น “การออกแบบ” ของบริษัทเรามากขึ้น
“We care about users, because good UX means good business”
ผมคิดว่าคอนเซปต์ของ UX ยังเป็นเรื่องที่ใหม่สำหรับหลายบริษัทในประเทศไทย ซึ่งทำให้กระบวนการของชาว UX/UI Designer หลายบริษัทเป็นไปอย่างยากลำบาก เช่นปัญหาคลาสสิกคือการต้องออกแบบภายใต้คำสั่งจากคนในองค์กร ซึ่งระบุมาแล้วว่า solution หน้าตาเป็นยังไง แล้วก็เข้าสู่การ dev ทันที
ผลลัพธ์ที่มักจะตามมาคือ ใช้งานไม่ได้ หรือใช้งานไม่สะดวก จบที่บริษัทต้องเสียเงินเพิ่มจาก Cost of Change เพื่อชดใช้ technical debt ซึ่งดีไม่ดีแพงกว่าค่า research หลายเท่านัก
User-Driven Culture
ที่ RentSpree เรามีความเข้าใจและให้ความสำคัญในเรื่อง UX ในระดับ UX Maturity Model ที่เข้าใกล้ระดับ 6 “User-Driven” แล้ว เพราะทุกการพัฒนาฟีเจอร์ใด ๆ ถ้าทำได้ เราจะให้เวลากับการ research เพื่อหา user need จริง ๆ ก่อน
ในกระบวนการ UX ที่สำคัญ ๆ อย่างการ brainstorm หรือ ideation จะมีสมาชิกในบริษัทในหลาย ๆ ตำแหน่งเข้ามาร่วมกันเสนอและมองหาไอเดียที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งานโดยไม่มีอคติ ซึ่งบ่งบอกถึงการให้ความสำคัญของบริษัทกับผู้ใช้เป็นอย่างดี
And also Hypothesis-Driven
นอกจากเราจะพยายามเก็บ feedback จากผู้ใช้จริง ๆ ด้วยการพูดคุยกับผู้ใช้โดยตรง เรายังทำการทดลองโดยตั้งสมมติฐานต่าง ๆ เกี่ยวกับผู้ใช้ แล้วใช้ข้อมูลในการสะท้อนพฤติกรรมของผู้ใช้ผ่านการทำ Event Tracking เพื่อพิสูจน์สันนิษฐานเหล่านั้นอีกด้วย
การทำ Hypothesis Experiment เป็นการส่งเสริม Core Value ด้าน Data-Driven Decision ของ RentSpree เป็นอย่างมาก ส่งผลให้ให้การออกแบบต่าง ๆ มีเหตุผลและที่มาที่ไปอย่างชัดเจน
ไม่เผางาน เพราะเราไม่เผา user
เมื่อบริษัทมีความเข้าใจในเรื่อง UX ก็ส่งผลให้ทางบริษัทให้เวลากับ Designer เพื่อมองหา Specific Problems จริง ๆ จากผู้ใช้ และให้เวลาในการช่วยกันระดมไอเดียในการออกแบบที่เป็น problem-solution fit
ความเชื่อของเราคือการให้ Designer ต้องออกแบบอะไรออกมาแล้วรีบ ๆ dev ให้เสร็จเร็ว ๆ แบบลัดขั้นตอน เท่ากับการทำงานเผา ๆ ส่งไปให้ผู้ใช้ ซึ่งจะตามมาด้วยผลเสียมากมาย
ถ้าโชคดีก็มีคนใช้ของในระบบแต่ให้ Negative Feedback กลับมา แต่ถ้าโชคไม่ดีก็อาจไม่มีคนใช้เลยแล้วก็กลายเป็น Feature ที่ไม่มีการ Adoption (หรือพูดง่าย ๆ ว่าเจ๊ง) ในที่สุด
Design System
ถึงแม้ว่า RentSpree จะยังเป็น Startup แต่เราให้ความสำคัญกับการสร้าง Design System ที่ Solid และใช้งานได้จริงทั่วกันทั้งบริษัท ซึ่งเรามุ่งหวังจะให้ Designer สามารถใช้อิสระในการสร้างสรรค์ได้ภายใต้กรอบของ Design System และยังคง Consistency กันในทุกฟีเจอร์
ภายในทีมดีไซน์ เราเข้าใจอย่างดีว่า Design System ของเรายังไม่สมบูรณ์แบบ 100% แต่เราพร้อมที่จะให้ Designer ทุก ๆ คนสามารถเสนอไอเดียขึ้นมาได้เสมอว่าแต่ละ component ควรมีการใช้งานอย่างไร หรือควรมี Component แบบไหนเกิดใหม่ขึ้นมาใน Design System เพื่อรองรับการใช้งานแบบที่ไม่เคยมีใน Product
Work with cross-functional squad
Product Designer ทุกคนของ RentSpree จะถูก dedicate ลงใน SCRUM Team ต่าง ๆ ภายในบริษัท ทำให้มีโอกาสได้ร่วมงานกับกับสมาชิกตำแหน่งอื่น ๆ ในบริษัทอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น Product Manager, Engineering Manager และ Software Engineer ทำให้เกิดการสื่อสารและชั่งน้ำหนักระหว่าง UX ที่ดี และความเป็นไปได้ในการพัฒนา (Technical Feasibility) จนออกมาเป็นผลลัพธ์จากการออกแบบที่ pixel-perfect และผู้ใช้สามารถใช้งานได้จริง
We are growing!
หลังจากที่ RentSpree ได้รับ Funding รอบ Series A มูลค่ากว่า 250 ล้านบาทเมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา เรามีแผนที่จะขยายทีม และเปิดรับเพื่อนนร่วมงานหลายตำแหน่ง ซึ่ง Product Designer ก็เป็นหนึ่งในตำแหน่งที่เราเปิดรับอีกหลายคนเลย
RentSpree กำลังรับ Product Designer อีกจำนวนมาก ใครกำลังมองหาโอกาสที่จะได้ทำงานในสาย UX/UI พร้อมอยากสร้าง Digital Product ที่ท้าทาย สามารถสมัครเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ RentSpree ได้ที่นี่เลย 😊💖 หรือจะเข้ามาทำความรู้จักเราผ่าน Social Media ของ Rentspree ก็สามารถเข้ามาดูได้ที่นี่เลยครับ https://www.facebook.com/RentSpreeThailand
