What is it like to be an Engineering Manager?

สวัสดีครับ ผมชื่อแทน ปัจจุบันเป็น Engineering Manager ของ RentSpree นะครับ หลายคนอาจจะเคยเห็นผ่านๆ หรือบางคนก็อาจจะยังไม่เคยได้ยินชื่อตำแหน่งนี้มาก่อน วันนี้เลยอยากมาแชร์ว่าตำแหน่งนี้ทำอะไรบ้าง มีความสนุกยังไง ปวดหัวกับเรื่องอะไรบ้าง และประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง

Engineering Manager at RentSpree

ในทีม Software Development หลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินชื่อตำแหน่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Project Manager, Product Owner หรือ Scrum Master ซึ่งแต่ละตำแหน่งก็จะมีหน้าที่รับผิดชอบที่ต่างกัน ในบางบริษัทยังใช้บางตำแหน่งสลับๆ กันหรือบางครั้งก็รวมอยู่ในคนคนเดียวเลย ซึ่ง Engineering Manager ที่ RentSpree ก็จะเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบต่างจากตำแหน่งที่ว่ามาข้างต้นด้วยเช่นกัน

ที่ RentSpree เราจะแบ่งทีมย่อยแบบ cross-functional team เรียกว่า Squad ในแต่ละ Squad จะประกอบไปด้วย 3 ตำแหน่งหลักๆ คือ Software Engineer, Product Designer, และ Engineering Manager โดยในแต่ละ squad จะมีการทำงานร่วมกับ Product Manager อีกทีนึง ซึ่งแต่ละคนจะรับผิดชอบหน้าที่ ที่ต่างกัน เพื่อช่วยกัน deliver งานและทำตาม goal & objective ที่ได้ตั้งกันไว้

แล้วหน้าที่ของ Engineering Manager ต้องทำอะไรบ้าง?

“It’s about the people, process, and culture.”

ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ เลยก็คือ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับคน เกี่ยวกับทีม คือจะทำยังไงให้ทีมทำงานได้ดี ให้ perform ได้ดีที่สุด มี conflict และ roadblocks น้อยที่สุด เพื่อที่จะผลักดันให้ Product ออกมาดีที่สุด สนุกและมีเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน

ถ้าจะแบ่งให้ละเอียดขึ้นก็จะมีทั้งหมด 7 ส่วนหลักๆ ด้วยกัน

1. Facilitate development team — หลักๆ ของที่ RentSpree จะเป็น scrum team ซึ่งก็จะมี scrum ceremonies ต่างๆ ที่ Engineering Manager จะคอย facilitate ส่วนตรงนี้ พร้อมทั้ง meeting อื่นๆ ให้เป็นไปได้อย่างราบรื่น และคอยดูแลให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
2. Monitor and solve people problem — คอยสังเกตและสอดส่องการทำงานของทีมเพื่อดูปัญหาต่างๆ ทั้งของคนในทีม ระหว่างคนในทีม และคนนอกทีม Engineering Manager จะต้องเป็นคนที่รับฟังปัญหาและหาวิธีที่ดีทีสุดในการคลี่คลายปัญหานั้นๆ
3. Collaborate with other teams — เป็นคนที่คอยประสานงานกับทีมอื่นเพื่อขอความช่วยเหลือ หรือ clear roadblock ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยจะต้องพยายามทำความเข้าใจงานที่เข้ามาให้หมดเพื่อให้ไม่เกิด miscommunication หรือ งาน overload เกินไป
4. Maintain and develop company culture — ความสนุกสนาน ความเป็นกันเอง การเปิดรับสิ่งใหม่ๆ และ core values ที่เป็น culture ของทีม คือสิ่งที่เราอยากจะให้มีอยู่ตลอดเวลา Engineering Manager จะต้องคอยช่วยให้ทุกคนทำงานและอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
5. Develop individual career path — อีกหนึ่งหน้าที่สำคัญที่จะต้องช่วยให้คนในทีมเติบโตตาม goal และ career path ของแต่ละคน ให้ได้ทำงานในสิ่งที่เหมาะสมกับสกิลของคนคนนั้น ทำให้ทีมมั่นใจว่าจะได้เติบโตต่อไปในการทำงาน ในบางครั้งอาจช่วย craft หรือช่วยคลำทาง แนะนำให้ไปคุยกับคนที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้คำแนะนำและวิธีการที่ถูกต้อง
6. Align goals and objective — ทำให้ทุกคนเห็น Goal เดียวกันและต้องพุ่งเป้าหมายไปที่จุดเดียวกัน ซึ่งเราจะมีการทำ OKR ทุกๆ Quarter และทุกข้อนั้นจะ align ลงมาจนไปถึง personal goal ของแต่ละคนเลย
7. Help with team expansion — ช่วยในการเลือกคนที่จะเข้ามาร่วมทีมของเรา โดยจะวัดในส่วนของ mindset และ attitude ที่ต้อง maintain ให้ match กับ characteristic ทีมของเรา

ถึงตรงนี้แล้วน่าจะพอเห็นภาพกันบ้างแล้วใช่มั้ยว่า หน้าที่ของ Engineering Manager มีอะไรบ้าง ซึ่งสังเกตุได้ว่ามันจะโฟกัสเกี่ยวกับคนและทีมเป็นหลักเลย จะไม่ค่อยได้ทำในส่วน product management และ requirement สักเท่าไร แล้วใครรับผิดชอบงานส่วนตรงนั้นล่ะ? คำตอบก็คือคนในทีมทำกันเองเลย Software Engineer จะได้เป็นคน lead project เอง ควบคู่กับ Product Manager หรือ Product Designer เพื่อที่จะ deliver งานตาม roadmap โดยจะมี Manager ที่คอย support และ facilitate ตามความเหมาะสม

From Software Engineer…. to Engineering Manager

หลังจากเรียนจบมา ผมได้เลือกที่จะมาทำในสายงานของ Software Engineer โดยเลือกที่จะทำงาน Frontend เป็นหลักเพราะตอนนั้นรู้สึกว่าชอบที่ได้สร้าง website ขึ้นมาให้ใช้งานได้ และมองว่าเป็น path ที่จะนำให้เราเข้าไปอยู่ในแวดวง IT Startup ได้ รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ทำเว็บอันแรกออกมาให้ใช้งานได้ ถึงจะได้เงินไม่มาก (3 หมื่นบาททำ 3 เดือน) และทำอะไรได้ไม่ค่อยเยอะก็ตาม 555+

“Becoming Engineering Manager is not a promotion, it is a start of a new responsibilities and goals”

ตอนที่เข้ามาทำที่ RentSpree ก็ยังเป็น Software Engineer อยู่ แต่ก็เริ่มมองว่าจริงๆแล้วเราไม่ได้เก่ง coding มากและไม่ได้มี passion ขนาดนั้นเมื่อเทียบกับคนอื่น ผมจึงได้ลองปรึกษากับทาง Director ดู และมันมี opportunity ที่จะสามารถ convert มาเป็น Engineering Manager ได้ ตอนแรกก็ได้ลองทำบางส่วนดูก่อนว่าชอบมั้ย เช่น เป็น backup ให้เวลาพี่เค้าไม่อยู่ และ facilitate ทีม meeting และ process ต่างๆ จนมั่นใจว่าเราทำได้แล้ว จึงเข้ามาทำเต็มตัว ผมได้เรียนรู้จากทำงานจริง มันอาจจะลำบากในช่วงแรก แต่ก็ผ่านมาได้ดี และได้ทีมที่ดีคอยสนับสนุนผมตลอด และพร้อมจะลุยไปด้วยกัน

ทำไมถึงเลือกที่จะเป็น Engineering Manager

เหตุผลหลักของผมเลยก็คือ ผมภูมิใจและ happy มากที่เห็นคนในทีมโตขึ้น เก่งขึ้น และ enjoy กับการทำงานด้วยกัน ผมอยากจะสร้างทีมที่ทำงานอย่างมีความสุขพร้อมกับช่วยกับทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผมชอบที่จะมองภาพรวมของทุกคนและคอย support คอยเค้นให้แต่ละคนไปถึงจุดหมาย ผมโชคดีที่ได้เห็นตั้งแต่การตั้งทีม ทำทุกอย่างแบบมั่วๆ งงๆ จนปัจจุบันมี process ที่ชัดเจน และสามารถทำงานได้โดยบางครั้งผมไม่ต้องเข้าไปช่วยเหลือเลยด้วยซ้ำ อีกเหตุผลนึงเลยคือ ผมอยากจะเรียนรู้ skill management ต่างๆให้ได้ในหลายๆด้านโดยเฉพาะงานที่ต้องทำกับคนหลายๆประเภทและมองภาพรวมให้เก่ง เพื่อที่จะเอาไปต่อยอดในธุรกิจครอบครัวหรือธุรกิจในอนาคตได้

“Leading teams becomes a lot more joyful, and the teams more effective, when you know and care about the people.”

ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของตำแหน่งนี้ คือ empathy และ care for team ผมเชื่อว่าถ้าเราช่วยเค้าให้เก่งขึ้น ทำงานแบบมีความสุข เค้าก็จะทำตอบแทนให้กับเราเหมือนกัน ผมจะทำให้ทุกคนสนิทกับผม ให้รู้ว่าสามารถ trust ผมได้ และรู้ว่าผมจะคอย support เค้าเสมอในทุกเรื่อง

“If you’ve been blessed, be a blessing.” — Bill Cambell

Challenge ของ Engineering Manager

อย่างแรกเลย งาน management ยังไงก็หนีไม่พ้น Meeting ทั้งวี่ทั้งวันแน่นอน เพราะต้องคุยกับคน คุยกับทีม เพื่อประสานงานและสื่อสารกับคนที่เกี่ยวข้อง ทำให้ Communication คือ หัวใจหลักที่ Manager ต้องทำให้ดี เพราะการสื่อสารผิดเพียงเล็กน้อย อาจจะทำให้มีผลเสียที่ใหญ่ตามมาได้

เรื่องต่อมาคือ Variety of work ถึงจะเรียงงานออกมาได้ตามด้านบนว่ามีงานแบบไหนบ้าง แต่งาน day-to-day ก็จะไม่เหมือนกันเลย ต้องคุยกับคนหลายๆ parties บางวันก็จะต้อง เตรียมงานใน sprint กับคนในทีม บางวันต้องนั่งจับเข่ารับฟังปัญหาของแต่ละคน หรือกระทั่งต้องวิ่งแก้ปัญหาให้ได้เร็วที่สุด

การ Coach หรือให้คำแนะนำต่างๆ ก็จะเป็นอีกหนึ่งงานที่จะมีเข้ามาบ่อยๆ เราควรเป็น supportive leader ที่ดี คอยดูภาพรวม สังเกต roadblock ต่างๆและผมคิดว่าสิ่งสำคัญเลยคือเราต้อง ฟัง ให้เข้าใจ แล้วพยายาม guide หรือตั้งคำถามให้ทีมคิด จนได้ออกมาเป็น solution ที่ทีมเข้าใจตรงกันและเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหานั้นๆด้วยตัวเอง

สุดท้ายผมคิดว่าเรื่องของคนมันมีร้อยแบบพันแบบ แต่ละคนก็มีปัญหาเล็กใหญ่ ถ้าเจออะไรที่ให้คำปรึกษาได้ก็ดี แก้ได้ก็ดี แต่ครั้งไหนเจอปัญหาใหญ่ๆ แก้ยากๆ ก็เครียดได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงต้องเตรียมใจให้แข็งนิดนึง เพื่อรับแรงกระแทกจากแต่ละคนให้ได้

ทิ้งท้าย

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ก็น่าจะเข้าใจเกี่ยวกับตำแหน่งนี้มากขึ้น และปิดหนีกันไปหลายคนแล้วแหละ 555+ สำหรับผมรู้สึกงานของ Engineering Manager มีความ challenge ที่ต่างกับ Software Engineer มันไม่ง่ายเลยและไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ แต่ถ้าคุณรู้ว่าคุณอยากจะสร้างทีมที่แข็งแกร่ง ชอบช่วยเหลือคน ชอบที่เราไม่ได้โตไปคนเดียว ชอบการจัดการแก้ปัญหาหลายๆอย่างให้ง่ายขึ้น ตำแหน่งนี้อาจจะเหมาะกับคุณก็ได้ ผมเชื่อว่าแต่ละคนมีด้านที่เก่งไม่เหมือนกัน แต่จะทำยังไงให้เราได้ใช้ความสามารถของเราในงานให้ถูกต้อง และมีความสุขกับการทำมัน

“Your title makes you a manager; your people make you a leader.”

สุดท้ายแล้วก็ขอขายของหน่อยนะครับ RentSpree ยังขยายทีมอยู่ เรามีแผนที่จะเพิ่ม squad อีกเยอะ และแน่นอน Engineering Manager จะเป็นตำแหน่งที่ขาดไม่ได้เลย คุณอาจจะเป็น Software Engineer ที่มี skill management ที่ดี หรือเป็น Manager ของ software product team อยู่แล้ว Engineering Manager อาจจะเป็น role ที่คุณมองหาอยู่ก็ได้ หากคุณต้องการคนที่จะร่วมโตและร่วมสนุกไปด้วยกัน สามารถส่ง profile มาได้ที่ join@rentspree.com หรือนัดมาพูดคุยกันได้เลยนะครับ :)
หรือจะเข้าไปดูตำแหน่งอื่นๆ ที่น่าสนใจใน Rentspree ก็สามารถเข้าไปดูได้เลยครับที่ https://www.rentspree.com/careers-th/ :)