เราไม่ได้เกลียดวันจันทร์ แต่เราเกลียดวันทำงานต่างหาก
ประโยคข้างบนผมพูดเองแหละ
ผมเป็นคนที่โคตรเห็นต่างกับ Gen Y ในสมัยนี้หลายเรื่องเลยนะ (แต่ถ้านับตามหลัก Demographic ผมก็ยังเป็น Gen Y นะครับ)
หนึ่งในเรื่องนั้น คือ Gen Y หมดยุคสมัยของการทำงานด้วย Passion แล้ว ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วย “สิ่งของที่จับต้องได้” ทั้งหมด
ที่ผมบอกว่าไม่ค่อยเห็นด้วยกับหลักคิดข้างต้น ส่วนหนึ่งคงเพราะงานวิจัยในระดับปริญญาโทที่ทำไว้ ผมทำเรื่อง Factor (ปัจจัย) ที่ทำให้เกิด Passion
Passion ถ้าแปลห้วนๆ ก็จะแปลว่า หื่น แต่ถ้าแปลแบบเซเลปๆ หน่อยก็จะแปลว่า “ความมุ่งมั่นทุ่มเทในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง”
ผมมีความเชื่อว่า Gen Y ในประเทศไทยยังคงทำงานผสานกับ Passion บางอย่างของตนเองอยู่เสมอ สังเกตได้จากการเติบโตของบริษัท Start up หลากหลายหน้าตา รวมถึงแคมเปญจ์สนับสนุนการระดมทุนที่มีอย่างต่อเนื่อง และ กลต. เองก็หันมาเอาจริงเอาจังกับการระดมทุนมากขึ้น
http://www.slideshare.net/Bangkok-Entrepreneurs/thailand-startup-ecosystem-q4-2015
ส่วนตัวแล้วผมมองว่า Gen Y ที่เป็นเจ้าของผลงานบริษัท Start up เหล่านี้ ริเริ่มความคิดของตนเองมาจากสิ่งที่ตัวเองชอบทั้งนั้น (เรียกเท่ห์เท่ห์ว่า Ignite ละกัน เผาไหม้ให้เหมือนกับคอสโม่!)
เชื่อมั้ยว่าความใฝ่ฝันอย่างหนึ่งของผม (รองลงมาจากการได้ออกเดทกับ Scarlet Johanson) คือการได้เป็น HR Consult ในแวดวง Start up ลองคิดดูสิว่าถ้าเราได้ทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วย Passion มันจะรู้สึกฮึกเหิม ขนาดไหน (ถ้าสมัยก่อนต้องใช้ wording “ปลุกใจเสือป่า”) แน่นอนว่า การตั้งธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ที่ยากกว่าคือการเข็นมันไปต่อให้ได้ และคุณจะเข็นมันต่อไปยังไงให้มันไปเตะตาใครสักคน หรือกลุ่มสักกลุ่มให้หันมาสนใจสิ่งที่คุณปลุกปล้ำ-ปั้น!-มากับมือ
ผมเชื่อว่า “ทรัพยากรบุคคล” ในองค์การที่มีสภาพแบบ Start up นั้น ไม่แตกต่างอะไรกับในองค์การอื่นๆ แต่ผมเชื่อว่า เปลวไฟในการทำงานของเขาเหล่านั้น มันมี “สี” ที่แตกต่างออกไป เพราะว่า วันทำงานของพวกเรา และวันทำงานของพวกเรา -ไม่เหมือนกัน-
แต่ที่ผมแอบสังเกตเห็นคือ ความเป็น Agile ในองค์การเหล่านี้มันสูงมาก สูงเสียจนที่ ตำแหน่งงานที่ดูอหังการ์อย่าง HR กลับไม่มีที่ยืนในองค์การพวกนี้เลย เพราะพวกเค้าต่างเอา Passion ที่มีมาคลุกเคล้าเค้นคลึงรวมกัน สร้างเป็นระบบบริหารงานบุคคลยุคใหม่ เช่น การตั้ง University ในองค์การ (ซึ่งแม่งก็คือการทำ Learning Organization ตามตำราเป๊ะเลย) การทำ Flexi-Ben หรือ การทำ QWL (Quality of Work Life) เช่น work at home (ที่ HR บางบริษัทก็คิดมาได้ชาติเศษแล้ว แต่ไม่ลงมือศึกษา หรือลงมือทำจริงๆ สักที) หรือการทำ flexi-workplace / flexi-work hour
สิ่งเหล่านี้คือ “ปรากฏการณ์” ที่กำลังจะมาถึงประเทศไทยไม่ช้าก็เร็ว (จริงๆ ถ้าใครเริ่มรู้จักคำว่า start up ตอนนี้ คุณก็ช้าไปแล้วล่ะนะ) แล้วถ้า HR Professional ทั้งหลายยังยึดติดกับกรอบอะไรบางอย่างโดยที่ไม่ได้พัฒนาตนเองให้ถึงขีดสุด คุณจะเสียพื่นที่ทางวิชาชีพให้กับบริษัท Consult ที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดในปัจจุบันแน่นอน
ฟันธงครับ
