เคล็ดลับ Youtuber 10 ล้านซับ ของ MKBHD
ทำไม..เรียน ?
ในช่วงหยุดยาวนี้ ผมอยากจะ Upskill เรื่องการตัดต่อคลิป เพราะผมอยากพัฒนาให้ช่อง Health at Home นำเสนอ Content เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพแบบไม่น่าเบื่อ (แล้วส่วนตัวผมก็ชอบเรื่อง Story Telling อยู่แล้วด้วย)
เพราะถ้าเราอยากให้คนแข็งแรงอยู่ที่บ้าน ตามชื่อบริษัท ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพให้คนดูแลตัวเองได้เป็นส่วนที่สำคัญ
อีกทั้ง Online Content นั้นทุกคนเข้าถึงได้ ไม่เกี่ยวกับฐานะ จึงเข้าปรัชญาหลักของผมคือ
Make Healthcare Affordable & Accessible without compromising on quality
ผมสมัคร Skillshare ไปเพราะดูแล้วมีคลาสที่อยากเรียนอยู่หลายคลาส ราคาไม่แพง ที่สำคัญคือมีให้เรียนฟรี 7 วันด้วย ใครอยากเรียนกดที่นี่ได้เลยครับ (Link นี้เขาให้ฟรี 14 วัน)
คลาสที่พึ่งเรียนจบไปคือ YouTube Success: Script, Shoot & Edit with MKBHD ที่เลือกเข้าไปเรียนเพราะชื่อ MKBHD นี่แหละ
MKBHD คือใคร ?
- MKBHD คือ Youtuber สายเทคโนโลยีที่มีคนตามมากที่สุดในโลก
- ชื่อจริงคือ Marques K. Brownlee (MKB มาจากตัวย่อ) ส่วน HD มาจาก High Definition เดาว่าสมัยก่อน Youtube ยังไม่ค่อยมีคลิป HD
- ปี 2013 VP ของ Google ได้ขนานนามเขาว่า “the best technology reviewer on the planet right now”
- ณ วันนี้เขียนบทความนี้ เขามีสมาชิก 13 ล้านคน (แต่ถ้าเทียบกับที่หนึ่ง คือ Pew die pie นั้นวันนี้เขามี 109 ล้านคน)
ถึงแม้ผมไม่ได้เป็น Geek ด้าน Gadget แต่ผมค่อนข้างประทับใจใน Content ในช่อง Youtube ของเขามากเลยทีเดียว โดยเฉพาะ Production ที่แบบเนี๊ยบมาก
พอเห็นคลาสนี้ก็อยากรู้ว่า วิธีคิด และ Process ในการทำงานของเขาเป็นอย่างไร โดยเป็นคลาส online สั้นๆครับ ระยะเวลาแค่
ขอสรุปเกล็ดที่ได้จากคลาสนี้ไว้ตรงนี้นะครับ
1.เริ่มต้นก่อนว่าเราอยากเล่าอะไร เล่าเรื่องที่เราอยากเล่า
2.ถ้าได้ไอเดียแล้ว ก็ค่อยๆทำไปเลย ไม่ต้องรอ Perfect รออุปกรณ์ ไม่งั้นเสียเวลา ถ้าไปไล่ดูคลิปแรกของเขา ที่เริ่มรีวิว เป็นการเปิดกล้องแล้วพูดธรรมดาเลย ไม่มี Production อลังการใดๆ
3.ทำ Research ก่อนจะพูดเสมอ เพราะสิ่งที่สำคัญไม่ใช่เราได้พูด แต่คือผู้ชมเขาได้ประโยชน์อะไร การจะทำ Content ให้ดีจึงคือการมีข้อมูลที่รู้จริง รู้ลึก
4.รู้จักผู้ชมของเรา เราต้องรู้ว่าคนที่มาดู Channel เรานั้นเป็นใคร อย่าง MKBHD บอกว่า เขาคิดว่ามีสองกลุ่ม คือกลุ่มที่เป็นแฟนช่องเขาที่ค่อนข้าง Geek กับคนทั่วๆไปที่หาข้อมูลว่าจะซื้ออุปกรณ์ไอทีชิ้นนี้ดีหรือไม่ เวลาเขาเตรียม Content เขาก็จะคิดว่า เขาจะพูดกับคนสองกลุ่มนี้อย่างให้ แล้วก็พยายามหาสมดุล
5.เขียน Full Script ก่อนพูดเสมอ ไม่ใช่พูดสด เพราะการเขียนก่อน ทำให้เราเห็นภาพรวม อีกทั้งสิ่งสำคัญคือ ความกระชับ การเขียนทุกอย่างลงมาหมด จะทำให้เราเห็นภาพว่า ตรงไหนสำคัญตรงไหนควรตัดออก จริงๆเทคนิคการเขียนนี่สำคัญจริงๆ เวลาผมเตรียมเทศนา หากผมเขียนก่อนก็มักจะทำได้ดี หรือในการประชุมหรือการ Townhall กับทีมงาน หากเราเขียนทุกอย่างที่เราสื่อสาร มันจะมีประสิทธิภาพกว่าอย่างเห็นได้ขัด การสดหน้างานมักจะเทียบไม่ค่อยได้ MKBHD บอกว่าเขาเขียน Script ตั้งแต่ทักทาย จนถึง พูด Bye Bye แบบทุกตัวอักษรเลยทีเดียว
* แต่ตอนถ่ายจริง เขาไม่ได้อ่าน Script แต่เขียนเป็น Bullet note ไว้ดูประกอบ
6.หากจะให้ตัวเลข ต้องมี Context เสมอ ไม่ใช่เอาตัวเลขมาลอยๆ คนฟังจะ Relate ไม่ได้ ต้องเปรียบเทียบว่า ถ้ากล้องนี้ขายได้ 5 พันล้าน ก็ต้องบอกว่า รุ่นก่อนขายได้ 1 พันล้าน เพิ่มมา 5 เท่าหรือ เปรียบเทียบกับคู่แข่งว่า ขายได้เท่าไหร่ เช่น Samsung ราคาเท่านี้ เทียบกับ Apple เป็นอย่างไร ตัวอย่างของ Content Creator เมืองไทยที่ทำเรื่องนี้ได้ดีก็คือ ลงทุนแมน เพราะเสน่ห์ของลงทุนแมนคือ การให้บริบท เราจะเห็นบ่อยๆ ว่าลงทุนแมนยกตัวอย่างเปรียบเทียบเสมอ เช่นบริษัท Grab ที่กำลังจะเข้าตลาด จะมีมูลค่า 1 ล้านล้าน บาท ……. (ซึ่งถ้าให้ด้วนๆแค่นี้ เราอาจจะจินตนาการไม่ออกว่าใหญ่ขนาดไหน) แต่ลงทุนแมนจะตัวอย่างมาเทียบว่า มันจะพอ ๆ กับ ปตท. และใหญ่เกือบ 2 เท่าของ CPALL (พอเป็นแบบนี้เราก็จะเห็นภาพได้ชัดขึ้นทันที)
7.มี Process ในการทำงาน ไม่ใช่ตัดไปเรื่อยๆ ดังนั้นเมื่อ Script เสร็จ ก็ต้องทำ Story board เพื่อจะได้ดูว่ามี Visual อะไรที่มาต้องใช้เสริมบ้าง จากนั้นก็เป็นการถ่าย ยิ่งวางแผนดี ยิ่งแก้ไขน้อย และในทางตรงข้าม หากวางแผนน้อย ก็แก้ไขเยอะ นั่นเป็นสิ่งคู่กัน
8.Step การตัด VDO ของ MKBHD เริ่มจาก A-Roll->B-Roll->แก้สี->ใส่ Graphic
- A-Roll คือมุมกล้องหลัก ที่คนเล่าเรื่องพูดกับกล้อง (อันนี้เป็นคำศัพท์ใหม่สำหรับผมเลย) พูดง่ายคือ เส้นเรื่องหลักนั่นเอง
-B-Roll คือภาพ Insert เพื่ออธิบายให้คนเข้าใจได้ดีขึ้น
-Color Correct แก้สี
-Graphic ใส่ text กับ Effect ประกอบสุดท้าย
9.คุณภาพของคลิปนั้น เสียงคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นจงลงทุนกับไมค์ให้ดี เอาไมค์ให้ใกล้ตัวผู้พูดที่สุดก็ได้
10.อุปกรณ์ไม่สำคัญ แต่…..อุปกรณ์ของเขานั้นโหดมาก โดยเฉพาะ หุ่นยนต์ถ่ายภาพ เพราะสามารถให้ภาพที่คนไม่สามารถถ่ายได้ เช่นมุมแปลกๆ หรือการ Repeat มุมกล้องเดิมแบบเหมือนกัน 100% ซึ่งผมมองว่า เรื่อง Production นี้เป็น unfair advantage ของช่องนี้นะ
11.จบคือจบ ไม่ควรรอให้ Perfect เพราะมันแก้ได้เรื่อยๆแหละ ถึงจุดหนึ่ง เราปล่อยไป รอ Feedback แล้วแก้ไขคลิปหน้า ดีกว่ามัวแต่ทำคลิปนี้ให้ดีไปเรื่อยๆ
12.ถ้าอยากทำหลาย Platform แนะนำว่า ตั้งใจทำ Native Content ดีกว่า ถ่ายทีเดียวแล้วไปปล่อยทุกอัน เพราะแต่ละสื่อมีธรรมชาติไม่เหมือนกัน Facebook, IG, Ticktok, Snapchat ก็ขนาดคนละแบบ
13.จะรู้ได้อย่างไรว่า งานเราดีหรือยัง ตัวชี้วัดที่ดีที่สุดคือ ตัวเรานั่นแหละ ว่า Content นั้นๆที่เราปล่อยออกไป มันคือ Content ที่เราอยากดูรึเปล่า
The Life of a YouTuber is repeating and improving this process over and over.
ผมชอบประโยคนี้ แต่ผมคิดว่าไม่ได้เฉพาะกับ Youtuber หรอก มืออาชีพสาขาใดๆก็ต้องดำเนินในหลักการนี้ มันคือการทำอะไรซ้ำๆ มีวินัย แล้วปรับปรุงไปเรื่อยๆไม่มีวันหยุด
14.หากคุณอยากจะเป็น Youtuber หรือ Content Creator เต็มตัว ต้องถามตัวเองว่า หากสิ่งนี้ไม่มีคนจ่ายเงินให้คุณทำ คุณยังสนุกกับมันไหม? คุณยังจะตื่นมาทำมันไหม หากคำตอบคือ “ใช่” คุณน่าจะมาถูกทาง
ก็จบไปแล้วสำหรับการรีวิวนะครับ หวังว่าจะมีประโยชน์นะครับ
ใครสนใจเรียนก็ไปสมัครที่ Link นี้ได้นะครับ ได้ Free 14 วันเลย https://skl.sh/3a2pE1Y
ด้วยรักและเคารพ
