8 ข้อพิจารณา ก่อนลงทุนในบริษัทใดๆ
ประมาณ 2 เดือนก่อนในคลาส ABC Talent ผู้บรรยายคือ พี่จิ๋ม สุวภา เจริญยิ่ง นักการเงินชั้นนำของเมืองไทย พี่จิ๋มได้มาแบ่งปันความรู้ในเรื่องการเงิน การใช้ชีวิต ความคิดสร้างสรรค์ ในช่วง Q&A มีเพื่อนร่วมชั้นเรียนถามว่า ในฐานะที่พี่จิ๋มอยู่วงการการลงทุนมานาน (และได้พาหลายบริษัทชั้นนำเข้าตลาด) เราควรพิจารณาอะไรบ้างก่อนซื้อหุ้นลงทุนในบริษัทใดๆ
นี่คือ 8 ข้อที่ควรพิจารณาที่พี่จิ๋มแนะนำ และผมจดบันทึกไว้ในวันนั้นครับ
- Growth — บริษัทควรมีอัตราการเติบโตที่ดี เฉลี่ยควรอยู่ที่ 5–7% ต่อปี
- CEO — เราต้องรู้ว่าเบอร์ 1 ขององค์กรนั้นๆเป็นของจริง
- Team- ทีมต้องเก่ง ซึ่งจริงๆข้อนี้มักล้อตามข้อ 2 คือ CEO ที่เก่ง ก็จะมีคนเก่งอีกหลายๆคนที่อยากทำงานด้วย
- Next 10 years — ต้องมองว่าอีก 10 ปีข้างหน้าธรุกิจที่บริษัทนั้นๆทำอยู่มันจะเป็นอย่างไร
- Capital intensive — ข้อนี้เป็นข้อที่ผมไม่เข้าใจความหมาย (เพราะไม่มีพื้นฐานการเงินแต่อย่างใด ) แต่ถามพี่จิ๋มได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ธรุกิจมีสองแบบคือ Labour intensive และ Capital intensive กลุ่มแรก labour intensive ธรุกิจที่ใช้แรงงานในการขับเคลื่อนธรุกิจเป็นหลัก เช่น ช่างทำผม การขุดเหมือง ซึ่งต่างจาก Capital intensive ที่ใช้พวกเครื่องจักรหรือเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน หรือถ้าอธิบายให้ง่ายๆคือใส่เงินเข้าไปซื้อของ ซื้อเครื่องจักร ซื้อเทคโนโลยี ธรุกิจก็โตได้เลย ต่างจาก labour ที่แม้มีเงินแต่ต้องหาคน หรือ หาแรงงาน ซึ่งอาจทำธรุกิจขยายตัวได้ยากกว่า
ลองดูคำอธิบายเพิ่มเติมได้จาก link นี้นะครับ (http://beta.tutor2u.net/business/reference/capital-and-labour-intensity )
6. Strong Financial Statement — งบการเงินต้องดี ( ซึ่งอันนี้คงต้องไปหัดดูงบการเงินกันก่อน )
7.Rival- ลองดูคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันเปรียบเทียบ หรือ ถามบริษัทคู่แข่งถึงมุมมองในบริษัทที่เราจะลงทุน
8.Governance — ธรรมาภิบาล เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือจริยธรรม ไม่ใช่ผลกำไร
ผ่านไปสองเดือนก่อนจะได้มาเขียนสรุปความรู้ในวันนี้ ขอบพระคุณพี่จิ๋ม สุวภา เจริญยิ่ง และ หลักสูตร ABC talent มา ณ ที่นี้ครับ ^^
ด้วยรักและเคารพ
:->m’26
