รีวิว: Knight 35 Clincher
Knight เป็นแบรนด์ใหม่จากอเมริกาที่เกิดจากการรวมตัวของอดีตวิศวกรจาก Reynolds, Enve, และ Cervelo เรียกได้ว่ารวมดาววงการแอโรได้นามิกกันสุดๆ และทีมเชื่อว่าพวกเขาสามารถผลิตล้อคาร์บอนขอบสูงที่ประสิทธิภาพดีไม่แพ้ใครแน่นอน
ต้องเกร่ินก่อนว่าในการรีวิวล้อที่ไม่มีอุโมงค์ลมนั้น สิ่งที่ DT จะอธิบายก็เป็นเรื่องของความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ นะครับ ถึงจะลองเทสแบบจับวัตต์เทียบกับล้ออื่น margin of error มันก็เยอะและตัวแปรคุมยาก แต่ก็จะพยายามบรรยายประสบการณ์การใช้เจ้าล้อตัวนี้ให้ละเอียดที่สุดครับ
1. สเป็คล้อ
อันดับแรกเลยเจ้าล้อตัวนี้ขอบสูงแค่ 35mm เท่านั้น สูงกว่าล้อขอบต่ำนิดเดียวครับ เพราะงั้นจะคาดหวังให้มันไหลคงความเร็วได้ดีเหมือนล้อขอบ 50mm++ นั้นเป็นไปไม่ได้ ขอบล้อจะโปรไฟล์ซิ่งแค่ไหนก็ไม่มีทางฉีกกฏฟิสิกส์ได้ครับ
ล้อ Knight 35 Clincher หรือยางงัดเป็นล้อคาร์บอนขอบสูงที่ขอบต่ำที่สุดที่ Knight ผลิต (ในไลน์อัปมี Knight 35, 65, 95) มีให้เลือกทั้งแบบยาง tubular และ clincher ครับ
เมื่อเป็นขอบ 35mm ก็แน่นอนว่าเป้าหมายการใช้งานจะเป็นสไตล์ all round คู่เดียวเที่ยวทั่วโลกมากกว่าทำความเร็วสูงต่อเนื่องยาวนาน เอาเป็นว่าอย่างน้อยๆ ก็ช่วยให้ไหลเบาขากว่าล้ออลูขอบต่ำรูปทรงไม่แอโรทั่วไป ผสมผสานน้ำหนักที่กำลังดีไต่เขา เร่งสปรินต์ได้ไม่เป็นตัวถ่วงเหมือนล้อขอบสูงๆ ครับ
ขอบล้อด้านนอกกว้าง 25.5mm และด้านในกว้าง 17mm เหมาะกับการใช้ยางกว้าง 25mm เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพดีที่สุดในเรื่องแอโรไดนามิกและความสบายครับ
2. ดุม/ ซี่
ดุมล้อเป็น Chris King R45 และซี่ล้อ Sapim CX Ray หน้า 20 ซี่ หลัง 24 ซี่ ชั่งออกมาแล้วหนักอยู่ที่ 1,505 กรัม เกินกว้าที่เคลมมาเล็กน้อย และไม่ได้เบาที่สุดที่ระดับราคานี้ครับ แต่ก็ไม่น่าเกลียด (ตัวเปรียบเทียบ: Enve 3.4 ยางงัดหนัก 1,405g, Campy Bora Ultra 35 ที่ 1,370g และ Zipp 202 Firecrest ที่ 1,395g)
ซี่ลวดที่ใช้นั้นเป็นแบบ J Bend ครับ ซึ่งอาจจะไม่ร่วมสมัยเท่าไรแต่ข้อดีคือเซอร์วิสง่ายและรองรับดุมหลายประเภทหลายรุ่น แต่ล้อนี้ใช้ nipple แบบฝังในครับ (เพื่อความแอโร) เพราะงั้นเวลาตั้งล้อก็ต้องรื้อถอดยางกันทั้งชุด ก็ยังดีที่เป็นล้องัด ไม่วุ่นวายเหมือนล้อยาง tubular ครับ
3. ขอบล้อ
รูปลักษณ์ภายนอกมาแบบล้อคาร์บอนเปลือยนู้ดสีด้านแบบ unidirectional พ่นเคลียร์โค้ท งานออกมาดิบๆ ไม่นิ้งๆ วิ้งๆ เหมือน Enve ให้อารมณ์ดิบๆ ล้อมากับสติกเกอร์ Knight สีดำดุดัน โดยรวมภาพลักษณ์หน้าตาและความเนี้ยบน่าจะดีได้กว่านี้ในราคานี้ครับ
โปรไฟล์ล้อไม่ใช่ล้อขอบตัว ‘U’ ตามสมัยนิยมเสียทีเดียว Knight ทดสอบขอบล้อหลายประเภทในอุโมงค์ลมแล้วพบว่ารูปทรงพาราโบลิคหรือระฆังคว่ำนั้นได้ประสิทธิภาพดีที่สุด รวมเอาข้อดีของทั้งล้อขอบ V และขอบ U เข้าด้วยกัน ซึ่งเขาอ้างว่ามันช่วยให้โฟลว์ของลมไหลราบรื่นไม่ก่อแรงฉุด (drag) ตลอดความยาวของขอบล้อ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือล้อที่เร็วกว่ารูปทรงอื่นนั่นเอง
4. การตอบสนองแรง: 4.5/5
สัมผัสแรกเลยสำหรับล้อนี้ที่ประทับใจคือเรื่องการตอบสนองแรงครับ ถึงขอบล้อจะไม่สูงมากแต่ตอบสนองแรงกดได้ทันทีทันใจมาก ไม่แพ้ล้อขอบสูงทุกรุ่นที่เคยลองหละ (อาจจะยกเว้น Lightweight ไว้หนึ่งราย แต่นั่นก็คนละระดับราคา) ซึ่งจุดเด่นตรงนี้น่าจะมาจากขอบล้อที่ใช้เนื้อคาร์บอนเกรดดี และสำคัญสุดคือจำนวนซี่ล้อที่ 20/24 ซี่ครับ ปกติล้อ 35mm สมัยใหม่ที่เน้นน้ำหนักเบามักจะมากับซี่ล้อแค่ 16/20 ซึ่งก็ทำให้น้ำหนักเบาจริงแต่ก็จะเสียความสติฟไปนิดนึงด้วยเหมือนกัน ซี่ล้อที่มากขึ้นก็ช่วยเรื่องความแข็งแรงด้วย
จะยกสปรินต์ ยืนโยกขึ้นเขา ล้อ Knight ก็ตอบสนองแรงได้ดีไม่มีอาการย้วยโยกสีขอบเบรคครับ แต่ผมหนัก 64kg และแรงกดไม่ได้เยอะมหาศาลนะครับ ฟีลลิงของคนที่น้ำหนักตัวเยอะหรือแรงกดดีๆ อาจจะออกมาอีกแบบ แต่เรื่องสติฟนี่ต้องยกนิ้วให้ครับ
5. การซับแรงสะเทือน: 4/5
ตอนเทสล้อคู่นี้ผมใช้ยาง Vittoria Corsa G+ 25mm ซึ่งเป็นยางประจำที่เราใช้ทดสอบล้อทุกคู่ครับ ใส่ยางออกมาแล้วขอบล้อยังล้นออกมานิดนึงจากความอ้วนของมัน แต่ไม่เยอะ ผมว่าขอบล้อด้านในมันน่าจะกว้างกว่านี้สัก 19mm ซึ่งใส่ยาง 25mm รูปทรงยางบนล้อจะสวยฟิตกันกำลังดีและทำให้เราไม่ต้องเติมลมยางเยอะมาก ช่วยเรื่องซับแรงสะเทือนพื้นถนนได้ดีกว่านี้ครับ
โดยรวมแล้วล้อ Knight ซับแรงสะเทือนได้ดีครับ ผมลองขี่รูดหลุมตามถนนในเมืองและทางลูกรังบ้าง ไม่สะท้านทรวงเหมือนล้ออลูมิเนียม (ขอบล้อด้านในกว้าง 17c เป็นต้นไปช่วยตรงนี้เยอะเพราะมันทำให้เราใส่ยางหน้ากว้างที่ไม่จำเป็นต้องเติมลมแข็งๆ แตะ 100psi เหมือนล้อขอบในกว้าง 15c แล้ว) ผมเติมลม 85/90psi ซึ่งไหลเกาะถนนกำลังดีครับ ขี่นานๆ บนถนนแย่ๆ ไม่ล้า เรื่องความสบายให้ผ่าน
6. ไหลมั้ย? สู้ลมข้างเป็นยังไง?
ข้อนี้เป็นฟีลลิ่งล้วนๆ ละครับเพราะเราไม่มีอะไรจะมาวัด
- ความเร็ว 25–30kph — ไม่ต่างจากล้ออลูขอบต่ำนัก
- ความเร็ว 32–35kph — เริ่มไหล รู้สึกล้อคงความเร็วดีกว่าล้อขอบต่ำอย่าง Zonda/ C24 ไหลได้เรื่อยๆ ไม่ต้องเติมเยอะ
- ความเร็ว 35–42kph — ยังไหลอยู่ เติมพลังน้อยกว่าล้อขอบต่ำอย่างเห็นได้ชัด
- ความเร็ว 42kph ขึ้นไป — ถ้าเทียบกับล้อขอบสูง 45mm+ ก็ยังไหลสู้ไม่ได้ครับ แต่จุดเด่นคือถ้าจะเติม ยัด กระชากที่ความเร็วสูง เรียกว่ากดแล้วมาเลยหละ ตรงนี้ใกล้เคียงหรือเทียบเท่า ENVE 3.4/ 4.5 ครับ
เรื่องลมข้างอยู่ในเกณฑ์ดีมาก แต่ขอบล้อมันก็สูงแค่ 35mm น่ะนะ อย่างไรก็ดี ถ้าไม่เจอรถบรรทุกเฉี่ยวข้างจริงๆ ล้อตัวนี้สู้ลมได้ดีไม่แพ้อลูขอบต่ำครับ
7. เบรค: 4/5
ล้อ Knight ไม่ได้ใช้ขอบเบรคพิเศษหรือมีลวดลาย texture เหมือนล้อไฮเอนด์แบรนด์อื่นๆ จุดเด่นของเขาคือพอกขอบเบรคมาหนาซึ่งอ้างว่ากันความร้อนสะสมได้ดี ล้อไม่บวมง่ายๆ ซึ่งผมก็ไม่ได้กล้าเอาไปรูดลงเขาเพื่อดูว่ามันจะทนได้แค่ไหนอะนะ แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้ล้อขึ้นลงเขาบ่อยจริงๆ จะยี่ห้อไหนก็ไม่แนะนำให้ใช้ล้อคาร์บอนขอบงัดอยู่ดีครับ เซฟไว้ก่อนดีกว่าเพราะคู่นึงราคาไม่ถูก
ความหนาขอบเบรคล้อ Knight อยู่ที่ 3mm ซึ่งมากกว่าล้ออื่นๆ ถึงสองเท่า (น้ำหนักก็มากขึ้นด้วย)
ที่สภาพแห้ง ล้อเบรคพอๆ กับล้อคาร์บอนอื่นๆ แต่ไม่เท่าล้อที่ทำขอบเบรคแบบมี texture (ซึ่งกินผ้าเบรคไวกว่าเยอะ)
ผ้าเบรคของ Knight ยางค่อนข้างแข็ง เวลาผ้าเบรคกัดขอบฟีลมันจะไม่นุ่มเท่าไร แต่ก็ให้การหยุดที่ไวทันใจอยู่ curve การเบรคค่อนข้างนิ่งและแน่นอนครับ ไว้ใจได้
เบรคเวลาฝนตกนั้นก็พอๆ กับล้อคาร์บอนยี่ห้ออื่น คือดี แต่ไม่ดีเท่าล้ออลู แต่ก็เซฟพอจะไม่ผวาว่าจะเบรคไม่อยู่เวลาลงเขาครับ อ้ออีกอย่างคือเบรคแล้วไม่ร้องโหวยหวนเหมือนล้อ Mavic
8. สรุป: 4/5
Knight 35 เป็นล้อที่ดีมากคู่นึงครับและมาในราคาที่ประหยัดกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันเล็กน้อย (ราคาอยู่ที่ดุมที่คุณเลือกด้วย) เป็นล้อรอบด้านที่เล่นได้ทุกสภาพสนาม ออกจะแนวเป็ดนิดนึง เหมาะกับคนที่ไม่อยากมีล้อหลายคู่ ตัวเดียวเปรี้ยวทุกเส้นทาง ขึ้นเขาไม่เลว ทางราบคงไม่สู้ล้อขอบ 45mm+ แต่ก็ใช้งานได้หลายย่านความเร็ว และที่เจ๋งสุดคือความสติฟครับ ตอบสนองแรงดีที่ความเร็วสูง ตั้งก้ามเบรคชิดๆ เวลาโยกก็ไม่ติดให้เห็น และเบรคหยุดรถได้โอเค งานวิจัยเชื่อได้จากวิศวะผู้คร่ำหวอดในวงการ
ไม่เหมาะกับสายหัวลาก สาย Time Trial/ ไตรกีฬา/ ไครทีเรียม ที่เน้นความเร็วต่อเนื่องระดับปีศาจ
ข้อด้อยคงเป็นความเป็ดของมัน เพราะไม่ได้เบาที่สุด แอโรที่สุด สวยที่สุด เอาจริงๆ หน้าตาก็จัดว่าธรรมดาครับ ไม่ได้ดึงดูดมากนัก (ส่วนตัวนะ) มาแนวล้อนอกกระแสเพราะเพิ่งทำตลาดครับ
ถามว่าถ้ามีล้อระดับ Zipp Firecrest / ENVE / Campy Bora Ultra อยู่แล้วน่าเปลี่ยนมาลองมั้ย? ผมว่าไม่ต่างอย่างเป็นนัยสำคัญครับ ล้อตัวนี้ให้ฟีลใกล้เคียง ENVE มากกว่า Zipp
- Zipp เบรคดีกว่า แต่ไม่ให้ฟีลสติฟเท่า
- ENVE งานสวยกว่า ENVE รุ่นใหม่เบรคดีกว่า แต่แพงกว่า
- Knight อยู่ตรงกลางระหว่างสองยักษ์ใหญ่นี้ ก็ถือว่า position ตัวเองได้ดีครับ อาจจะขาดเรื่องภาพลักษณ์และความคุ้นเคยไปบ้าง แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยซื้อล้อตัวท็อปและไม่อยากเหมือนใคร ก็เป็นทางเลือกที่โอเคเลยทีเดียว
ขอบคุณบริษัท Cycle Boutique สำหรับล้อทดสอบครับ
และสุดท้ายรีวิว DT ไม่มีการรับเงินเหมือนเดิมครับ ปั่นแล้วเป็นยังไงก็ว่ากันตามนั้น เคนะ