การเดินทางของเด็กฝึกงานทั้ง 9 สายอาชีพ กับ EdVISORY ในปี 2023–2024

Bhoomiphatthra Ruengphrathuengsuka
EdVISORY
Published in
3 min readMar 13, 2024
Internship, EdVISORY

“อยากฝึกงานที่ได้ประสบการณ์จริงๆ”

“กลัวเข้ากับที่ฝึกงานไม่ได้”

“จบไม่ตรงสายแต่อยากเปลี่ยนงาน”

ความกังวลเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทุกคนต่างก็คิดไม่ตกกันทั้งนั้น แต่ไม่เป็นไรนะ เพราะในบทความนี้ เราได้นำประสบการณ์ตรงของเพื่อนๆ ที่กำลังฝึกงานที่ EdVISORY มาเล่าให้ทุกคนฟังกัน

EdVISORY คืออะไร?

คือบริษัท Tech Start-up ที่มุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรบุคคลและการศึกษา EdVISORY เชื่อว่า ทุกคนมีศักยภาพและเติบโตได้

เมื่อพูดว่า เกี่ยวกับ Tech Start-Up ทุกคนก็คงจะนึกภาพถึงการเขียนโค้ด พัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่างๆ แต่ EdVISORY ไม่ได้รับเด็กฝึกงานแค่สาย IT อย่างเดียวนะ ยังเปิดโอกาสให้เพื่อนๆ ในสายอาชีพอื่นอีกด้วย นอกจากการพัฒนา Software แล้ว บริษัทยังทำเกี่ยวกับการบ่มเพาะ (Incubation) นวัตกรรมเพื่อสังคม (Social Enterprise) และสตาร์ทอัพ (Start-up) อีกด้วย

ทำไมเพื่อนๆ ถึงอยากมาทำงานที่ EdVISORY กันนะ?

กิจกรรมตามเทศกาล/วันสำคัญ (ในรูปคือวันตรุษจีน)

“ดูเป็นบริษัท Culture คนรุ่นใหม่ น่าจะได้ประสบการณ์ที่ดี และที่นี่เปิดรับคนที่ย้ายสายด้วย เราเป็นคนนึงที่ตัดสินใจย้ายสายจากวิศวะมาเป็น UX/UI Designer” — เอื้อง (UX/UI Designer)

“ต้องการออกจากเซฟโซนของตัวเองด้วยการทำงานในบริษัทที่มีความเป็น Tech ซึ่งเด็กสายแอนิเมชันไม่น่าจะมาฝึก เป็นการก้าวข้ามขีดจำกัดทั้งตัวเองและการทำงาน" — เขตต์ (Video Content Creator)

สิ่งหนึ่งที่ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันเลยก็คือ ได้ทำงานจริงและได้ประสบการณ์จริง อยากเข้ามาทำงาน เพราะหลังจากที่สอนเรื่องการสื่อสารและการนัดหมายงานเรียบร้อย ก็ได้จับงานจริงทันทีเลย (แน่นอนว่ามีพี่เลี้ยงคอยดูแลอยู่ ไม่ต้องกังวลนะ)

ถ้าหากให้บอกอีก 3 อย่างที่โดดเด่นออกมา ก็คือ

  1. Culture ของบริษัท ที่เป็นแบบคนรุ่นใหม่ คือ การแต่งกายที่ค่อนข้างสบายๆ ไม่เคร่งครัด พี่ๆ มีความเป็นกันเอง การที่ทุกคนเห็นคุณค่าของการ Feedback และรับฟังเสียงของทุกคน
  2. การเข้าออฟฟิศแบบ Hybrid จะมีการ Work from home 2 วัน และเข้ามาที่ออฟฟิศ 3 วัน โดยจัดการเข้าออฟฟิศตามทีมและโปรเจกต์ที่รับผิดชอบเพื่อให้สามารถทำงานกันได้สะดวกมากขึ้น
  3. การรับคนที่เรียนมาไม่ตรงสาย กว่าครึ่งของเด็กฝึกงานเป็นคนที่ต้องการจะย้ายไปสายงานที่ต่างจากที่เรียนมา EdVISORY ก็เปิดโอกาสให้มาหาประสบการณ์และเอาไปใส่ลง Resume ได้ โดยปีที่ผ่านมานี้ ได้เปิดรับถึง 9 สายอาชีพด้วยกัน คือ 1. Business Development/Sales Coordinator 2. Content Creator 3. Project Management Officer (PMO) 4. Business/System Analyst 5. UX/UI Designer 6. Translator 7. Software Developer 8. Software Tester 9. DevOps

แล้วถ้าไม่ใช่สาย IT แล้วจะได้ทำงานอะไรในบริษัท Tech แบบนี้กันนะ?

“ทุกๆ ความสำเร็จเริ่มต้นมาจากการตัดสินใจที่จะลองพยายาม” — John F. Kennedy

Business Development/Sales Coordinator รับผิดชอบการเขียน Sales Process การวิเคราะห์งบการเงิน การเขียนอีเมลส่งลูกค้า การติดต่อลูกค้าเพื่อเสนอขายงาน และการพัฒนา Product เชิงต่างๆ

Content Creator รับผิดชอบการวางแผนงาน คิดคอนเทนต์ ทำกราฟิกให้เพจ รวมถึงทุกขั้นตอนการผลิตวิดีโอแนะนำ Product ของบริษัท เช่น storyboard, text animation หรือ motion graphic

Project Management Officer (PMO) รับผิดชอบดูแลการทำงานของโปรเจกต์ต่างๆ วางแผนการทำงาน ตามงาน และคุมงานให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ประสานงานทั้งภายในและระหว่างทีม รวมถึงสื่อสารกับลูกค้า

Business/System Analyst รับผิดชอบการทำ Business Requirements Document (BRD), Test Case, User Acceptance Test (UAT) นอกจากนี้ยังมีการทำ Data Visualization อีกด้วย

UX/UI Designer รับผิดชอบการเขียน UX/UI ให้กับ Product ของบริษัทคือการเชื่อม JobS กับ JobH และ Redesign เว็บไซต์ต่างๆ ตามสัญญาว่าจ้าง รวมถึงทำโปรเจกต์ต่อจากที่พี่ๆ ในทีมทำไว้

Translator รับผิดชอบเรื่องการแปลเป็นหลัก มีทั้งแปลเว็บไซต์ลูกค้า(ควบคู่กับการ Redesign โดย UX/UI Designer) และแปลเว็บไซต์ที่เป็น Product ของบริษัท อย่าง WE Space (ส่วนเนื้อหาภาษาไทยของแต่ละโปรเจกต์ พี่ๆ Full-time เป็นคนทำจ้า)

การประชุมประจำ Sprint

“ระยะห่างระหว่างความฝันและความจริงคือการลงมือทำ” — Ben Francia

แล้วคนที่เรียน IT มาโดยตรงล่ะ จะได้ทำงานเกี่ยวกับอะไรบ้าง?

Software Developer แบ่งตามตำแหน่งงาน โดย Front-end รับผิดชอบการทำหน้าเว็บไซต์ให้สวยงาม การเชื่อมต่อ API จากฐานข้อมูล การทำ Responsive สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ ส่วนทางด้าน Back-end รับผิดชอบทำ API ผ่าน Node.js, GraphQL และ Wordpress รวมถึงสร้างเว็บไซต์ พัฒนาเว็บไซต์ และปรับปรุงเว็บไซต์ ทั้ง Product ของบริษัทและของลูกค้า

Software Tester รับผิดชอบการเขียน test case ทดสอบระบบแล้วส่งต่อข้อมูลให้ทีม Software Developer นำไปแก้ไข เพื่อให้คุณภาพงานออกมาดีที่สุด

DevOps รับผิดชอบงานเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ เช่น การใช้งาน Docker, Gitlab CI/CD, Rancher, Kubernetes, VM, Cloud และคอยสนับสนุน Software Developer อีกที

เพื่อนๆ จะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังว่า เจออุปสรรคอะไร แล้วผ่านมันมาได้อย่างไร

“กดดันเพราะว่าไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน แต่ก็ลุยกับมันสักตั้ง เวลาไม่รู้อะไรก็ยอมรับว่าตัวเองไม่รู้ กล้าที่จะผิดพลาด จดจำ และแก้ไขในครั้งต่อไป” — หงษ์ (PMO)

“บางอย่างเป็นสิ่งที่เพิ่งเคยรู้จักเคยทำ การเรียนรู้ใหม่จะต้องเสียเวลาไปกับการหาข้อมูลหรือแก้ปัญหา ก่อนอื่นก็พูดคุยกับพี่ๆ ในทีมแล้วค่อยๆ ทำไปทีละอย่าง” — มิ้นท์ (Software Developer)

ปัญหาหลักๆ ที่ทุกคนเจอก็คือ การสื่อสาร และ การจัดตารางงาน

สิ่งหนึ่งที่เพื่อนๆ ส่วนมากเป็นกันคือ ติดนิสัยความเกรงใจ ความไม่กล้าทักไม่กล้าถาม แต่ที่ EdVISORY นั้นการันตีความเป็นกันเองของพี่ๆ ได้เลย ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ หรือจะเป็นพี่คนที่ไม่ได้อยู่ทีมเดียวกันก็พร้อมจะช่วยเสมอ แนวคิดของคนที่นี่จะมองว่าการปรึกษาและขอให้คนอื่นช่วยจะเป็นการทำให้งานเดิน พี่ๆ จะชอบมากเวลาที่น้องเดินมาถาม

อีกปัญหาหนึ่งที่ทุกคนเจอ คือ ไม่รู้จะทำอะไรก่อนดี ไม่สามารถคาดคะเนได้ว่า งานชิ้นนี้ใช้เวลาแค่ไหนจึงจะเสร็จ ทำให้พอถึงเวลาทำจริงก็ทำไม่ทัน ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เพื่อนๆ สามารถปรึกษาพี่ๆ หรือเด็กฝึกงานคนอื่นได้นะ ทุกคนพร้อมจะช่วยเราแน่ๆ ตั้งแต่หาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร แล้วจะแก้ไขยังไง รวมถึงมาถามต่อในภายหลังว่าเรายังเจอปัญหาแบบนี้อยู่มั้ย อีกด้วย

ฝึกงานกับ EdVISORY ไม่ต้องกลัวหรือกังวลเลย ถ้าเพื่อนๆ เจอปัญหาอะไร พี่ๆ ทุกคนพร้อมใจกันพุ่งเข้ามาช่วยแน่นอน

กินขนมกัน

นอกจากนั้นแล้ว เพื่อนๆ ยังอยากมาบอกเล่าความประทับใจให้ทุกคนฟังอีกด้วย

ความประทับใจที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของ EdVISORY มีอยู่ 3 ข้อด้วยกันก็คือ

  1. การได้ทำงานจริงๆ ได้เรียนรู้และทำงานประหนึ่งว่า เป็นพนักงานของบริษัทนี้เลย การทำงานที่นี่ยังทำให้ได้เรียนรู้เรื่องการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และการวางแผนงานให้เป็นระบบอีกด้วย
  2. วัฒนธรรมและสังคมในบริษัท ที่เป็นกันเองและซัปพอร์ตกันตลอด ทั้งพี่ๆ และเด็กฝึกงานต่างก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือหรือให้คำแนะนำ และมีความเป็นกันเอง คุยเล่นกันได้ ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้สามารถ Feedback กันได้อย่างจริงใจ ทำให้ทุกคนสามารถพัฒนาตัวเองต่อไป
  3. การแบ่งปันความรู้ เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของ EdVISORY เลยทีเดียว บริษัทจะมีกลุ่ม Line ให้ทุกคนมาแบ่งปันความรู้ อัปเดตข่าวสารใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยี การใช้โปรแกรมพื้นฐานต่างๆ หรือทักษะทั่วไปที่ไม่เกี่ยวกับการทำงานก็ตาม และยังมีการจัดชั่วโมงที่พี่ๆ จะมาแบ่งปันความรู้ให้กับเพื่อนพนักงานและเด็กฝึกงานอยู่เรื่อยๆ
Meeting, Session, Class
Session การสอนของฝ่าย Operation

ถ้าอยากรู้ว่าเพื่อนๆ คิดยังไงกันบ้าง อ่านต่อไปได้เลย

“แค่เราพร้อมที่จะเรียนรู้ ที่นี่ก็พร้อมเปิดโอกาสให้ เราได้พัฒนาตัวเองไม่ใช่แค่ในด้านการทำงาน แต่รวมถึงพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ให้เป็นระเบียบ ได้ฝึกการจัดสรรเวลาของตัวเอง และชอบวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดโอกาสให้เราได้เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ Feedback และพร้อมที่จะแสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนความคิดกัน” — แพรว (Software Developer)

“ชอบที่พี่ๆ มีการมา sharing ความรู้ต่างๆ โดยไม่จำกัดแค่ฝ่ายที่ตัวเองทำงานอยู่ และชอบการทำงานของพี่นันและพี่พริมที่มีวิธีการตรวจงานอย่างทะลุปรุโปร่ง ช่วยให้ได้ข้อมูลที่นำไปปรับใช้ได้จริงๆ อีกอย่างคือชอบเพื่อนที่มาฝึกด้วยกัน รู้สึกว่าคุยกับทุกคนได้โดยไม่มีติดขัด และสนุกสนานมากๆ ครับ” — ไตเติ้ล (Business Development)

“ประทับใจที่พี่สอนว่า [เราไม่ต้องกลัวความผิดพลาด พี่ไม่ได้ต้องการความสมบูรณ์แบบ] เพราะพี่ต้องการเห็นว่า เราคิดอะไรอยู่ และจะปรับปรุงยังไง แล้วเราไม่ต้องกลัวพลาด เพราะถ้าพลาดแล้วแก้ไข แสดงว่าเรากำลังพัฒนาอยู่” — ฟังก์ชั่น (Translator)

“ปุ้นประทับใจความเป็น Teamwork และการที่มี Feedback มีเวลาให้เพื่อนร่วมงานได้อัปเดตหรือปรึกษาปัญหาต่างๆ ทำให้สามารถลดช่องว่างของกันและกันได้ ทุกคนสามารถพูดคุยปัญหากันได้อย่างเปิดอก และไม่กลัวที่จะขอความช่วยเหลือ ซึ่งปุ้นมองว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากในสังคมการทำงานในปัจจุบัน”— ข้าวปุ้น (PR Marketing Content Creator)

กิจกรรมออกกำลังกาย (นอกจากเตะบอลแล้ว ยังมีตีแบดด้วยนะ)

หลังจากฝึกงานจบแล้ว บางคนก็ได้บรรจุเป็นพนักงานประจำด้วยนะ! หลังจากได้อ่านบทความนี้แล้ว ถ้าหากถูกใจ อยากมาเป็นส่วนหนึ่งของ EdVISORY สามารถทักเข้ามาที่เพจเฟซบุ๊ก หรือ หย่อนใบสมัครได้ที่นี่ เราเปิดรับสมัครอยู่ตลอดเลยนะ!

ช่องทางการติดต่อ/ติดตาม

  1. EdVISORY : https://edvisory.co.th/
  2. Facebook Page EdVISORY : https://web.facebook.com/edvisory.co.th
  3. Medium EdVISORY: https://medium.com/edvisory

“ฉันไม่เฝ้าฝันถึงความสำเร็จ ฉันลงมือทำเพื่อความสำเร็จ”-Estée Lauder

--

--