กล้องถ่ายโรค

EngineerInTH
Engineerinth
Published in
3 min readJan 9, 2018

การตรวจโรค >> กล้องถ่ายโรค

ปกติกว่าเราจะรู้ว่าเป็นโรคอะไร
ก็หลังจากโรคนั้นๆได้แสดงอาการเจ็บป่วย
ทางร่างกายมาแล้วในระดับหนึ่งแล้ว
ซึ่งมักจะใช้เวลานานพอสมควร
คือเราจะรู้หลังจากป่วยสักระยะแล้ว

ในความจริงเราสามารถรู้
หรือตรวจพบโรคได้
ก่อนที่โรคจะแสดงความผิดปกติ
ออกมาให้เห็นทางร่างกาย

เพราะอาการของโรคจะปรากฏให้เห็น
เป็นคลื่นพลังงานสนามแม่เหล็กไฟฟ้า
ให้เราสามารถตรวจพบได้ก่อน
ที่โรคนั้นๆจะสร้างความเจ็บป่วยให้ร่างกาย

เราสามารถสร้างกล้องถ่ายโรคได้
ด้วยความรู้ของแพทย์และวิศวกร
และความรู้ด้านวิศวกรรมการแพทย์
ร่างกายเราเป็นต้นกำเนิดคลื่นพลังงานมากมาย

ทั้งคลื่นแสงสีเสียงคลื่นพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า
เพราะก่อนเกิดโรคจะปรากฏเป็นสิ่งเหล่านี้ก่อน
เราจึงสามารถตรวจจับ แล้วใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูล
ได้อย่างแม่นยำก่อนที่โรคจะปรากฏแสดงอาการทางร่างกาย

กล้องถ่ายรูปต่างๆ และกล้องวงจรปิด
ถ่ายติดเทวดามาได้นานแล้ว
การถ่ายภาพ Aura ก็มีมานานเป็นสิบปี
เทคโนโลยีการตรวจจับแสงและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าต่างๆ
ก็พัฒนามาในระดับที่สมควรมากแล้ว

สุดท้ายแล้วด้วยความรู้ของการวิจััยใหม่ๆ
จะทำให้เราสามารถรู้สาเหตุการเกิดโรคที่แท้จริง
และทำให้เราป้องกันรักษาได้อย่างทันท่วงที
และสุดท้าย…จะทำให้โรคทั้งหลายสูญหายไป!!!

การศึกษาวิจัยแบบวิทยาศาสตร์ของจิตใจ
ที่สัมพันธ์กับการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆนั้น
จะสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนแจ่มชัด
มากขึ้นกว่าเดิมที่เราเคยรับรู้มา
เราไม่เคยรู้ว่าโรคภัยไข้เจ็บนั้นเกิดมาจากไหน
ทั้งๆที่สาเหตุนั้นอยู่ใกล้เรายิ่งกว่าปลายใจจมูก
เหตุของโรคทั้งหลายนั้นใกล้ขนาดที่ว่า
มันสร้างขึ้นมาจากใจเราทั้งหลาย!!!!

ความเข้าใจนี้เราจะรู้สิ่งใหม่อันหนึ่ง
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อไปใจภายหน้า
คือสิ่งที่เรียกว่า “ใจที่พอดีกับโรค”

เทคโนโลยีจะบอกความจริงเราว่า
คนที่ป่วยด้วยโรคเดียวกันหรือ
หรือโรคที่ให้ผลอย่างเดียวกัน
จะมีใจที่ใกล้เคียงกัน มีใจอย่างเดียวกัน

แน่นอนว่าทุกคนไม่มีใครมีใจเหมือนกัน
ชนิดที่เหมือนกันทุกประการร้อยเปอร์เซ็น
แม้แต่ฝาแฝดก็มีใจที่ไม่เหมือนกัน
ยิ่งโตก็ยิ่งสะสมพลังงานที่ดีหรือพลังพิษ
ที่ผิดแผกแตกต่างกันไปเป็นธรรมดาปรกติโลก

แต่การที่คนที่เป็นโรคอย่างเดียวกัน
ถ้าดูที่ใจแล้วจะเห็นได้อย่างชัดเจน
ว่าคนเหล่านี้มีจุดร่วมกันอย่างนึง
คือมีใจอย่างเดียวกัน!!!!
ซึ่งเราจะรู้ได้เห็นได้จริง
จากเทคโนโลยีกล้องถ่ายโรคนี้แหละ

ในตัวเรานี้มีและเป็นแหล่งกำเนิด
ของคลื่นพลังงาน…มากมายหลากหลายชนิด
เรียกได้ว่ามีเป็นจำนวนที่นับไม่ถ้วยเลยด้วยซ้ำ

ทั้งคลื่นเสียง คลื่นแสง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
คลื่นรังสี คลื่นความร้อน
และแทบจะกล่าวได้ว่าคลื่นพลังงาน
แทบทุกชนิดที่เราค้นพบกันแล้วบนโลก
มีแหล่งกำเนิดจากตัวเราทุกๆคนอยู่แล้วทั้งสิ้น
แม้แต่คลื่นแรงโน้มถ่วง และคลื่นอื่นๆอีกที่ยังนึกไม่ถึง
มันมีอยู่ในตัวเราทั้งนั้น
คลื่นพลังดี คลื่นพลังชั่ว คลื่นพลังพิษ
คลื่นความสุขใจ คลื่นความเสียใจ
คลื่นความโกรธ คลื่นความรัก
สิ่งเหล่านี้ก็เป็นคลื่นพลังงาน
ที่กำเนิดไปจากตัวเราทุกคนได้
เช่นเดียวกับคลื่นพลังอื่นๆทั่วไปที่วิทยาศาสตร์สังเกตได้

คลื่นพลังงานที่นักวิทยาศาสตร์เคยตรวจจับวัดได้
เราจะพบว่าคลื่นพลังงานเหล่านั้นมีกำเนิด
และหมุนเวียนอยู่ในตัวเราด้วยทั้งหมดทั้งสิ้น

วิศวกรไฟฟ้าสามารถตรวจจับ
และวัดคลื่นกระแสไฟฟ้า
วัดคลื่นแรงดันไฟฟ้าได้
ในโลกปกติทั่วๆไป

แน่นอนว่าคลื่นพลังทุกชนิดที่เรารู้จักและตรวจวัดได้
เราจะพบคลื่นพลังนั้น
มีแหล่งกำเนิดในตัวเราอย่างแน่นอน

ไฟฟ้าก็เช่นกัน
ตัวเราเป็นแหล่งกำเนิดคลื่นพลังแม่เหล็กไฟฟ้า
มีคลื่นกระแสและแรงดันไฟฟ้า
กำเนิดส่งถ่ายหมุนเวียน
อยู่ภายในตัวเรา
เป็นจำนวนมาก
และทำการทำงานส่งผลกระทบส่งการสืบต่อ
เป็นไปอย่างลื่นไหลสมดุล

แค่คลื่นไฟฟ้าคลื่นเดียว
ก็กระทบทุกสิ่งทุกอย่าง
ในร่างกายเรา
อารมณ์ กล้ามเนื้อ ความจำได้หมายรู้ สัญญา ความคิด

+++++

การทำงานของคลื่นไฟฟ้า
ส่งผลกับทุกสิ่งทุกอย่างในตัวเราทั้งสิ้น

ใจ-การทำงานของใจ-คลื่นพลังงานของใจ
ส่งผลกระทบและมีอิทธิพลโดยตรง
กับคลื่นพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดในตัวเรา
และมีอิทธิพลกับการทำงานของคลื่นพลังอื่นๆ
ทั้งหลายทั้งปวงที่มีอยู่ในตัวเราทั้งหมด

วิทยาศาสตร์จะค้นพบความจริงที่ว่า
ใจกับแรงดันและกระแสไฟฟ้า
เกี่ยวเนื่องกันอย่างใกล้ชิด
สัมพันธ์กันโดยตรง
วิทยาศาสตร์จะก้าวหน้าอย่างแท้จริง
เมื่อมีการค้นพบพิสูจน์และวิจัย
จนเข้าใจความจริงข้อนี้อย่างแจ่มแจ้ง
สุดท้ายวิทยาศาสตร์จะบอกความจริงได้ว่า
ฝนตกเกิดจากใจ!!!!!

เพราะใจมีอิทธิพลกับคลื่นพลังงานทั้งหมด
และฝนตกเพราะคือปรากฏการณ์ที่สมดุลย์
เป็นอิทธิพลจากคลื่นพลังงานทั้งหลาย

วิทยาศาสตร์จะรู้ความจริง
ว่าฝนตกเพราะ
คลื่นพลังงานจำนวนมาก
ทำงานประสานสมดุลกัน
จนพอดีเป็นปรากฏการณ์
ฝนตกฟ้าร้องฝนฟ้าคะนอง
ทั้งหมดเป็นอิทธิพล
จากคลื่นพลังงานทั้งสิ้น

ฝนตกเป็นสมดุลย์ของปรากฏการณ์
จากอิทธิพลคลื่นพลังงานจำนวนมาก
มากกว่าคลื่นไฟฟ้าอย่างเดียว
มีทั้งคลื่นพลังงานที่เครื่องมือปัจจุบัน
ละเอียดพอจะตรวจวัดได้
และยังไม่ละเอียดพอเพียงจะตรวจวัดได้
แต่สุดท้ายวิทยาศาสตร์และเครื่องมือ
จะละเอียดเพิ่มขึ้นเรื่อย

และเราจะรู้ความจริงทั้งหมด
ของโลกของจักรวาลของทุกสิ่ง
ได้เท่ากันกับหรือเสมอกันกับความรับรู้ของเรา
การรับรู้ที่ละเอียดขึ้นก็คือการรับรู้ที่กว้างขึ้น

ฝกตกเกิดจากใจ!!!!
วันนึงมนุษย์ทุกคนก็จะรู้ความจริงข้อนี้
และเป็นความจริงที่ไม่ใครจะปฏิเสธได้
เป็นความจริงที่จะปรากฏเอง
เมื่อการรับรู้เรากว้างมากยิ่งขึ้น

เหมือนโลกแบนและโลกกลม
ทั้งสองอย่างนั้น
ล้วนเป็นความจริงทั้งคู่
แต่อยู่บนการรับรู้ที่แคบกว้างต่างกันเท่านั้นเอง

ไม่มีใครปฏิเสธว่าโลกกลม
และไม่มีใครปฏิเสธว่าโลกแบนถ้ามองด้วยตา
ฝนตกเกิดจากใจ โรคร้ายเกิดจากใจ
จะเป็นความจริงธรรมดาๆ
เหมือนความจริงว่าโลกกลม

แม้จะฝืนความรู้สึกฝืนความเชื่อเดิมหรือไม่
ก็ไม่สำคัญ สำคัญคือความจริง…จะเป็นความจริงเสมอ
ที่รอได้และทนทานได้กับการค้นพบ
การพิสูจน์ การิจัย การวิจารณ์เสมอๆ

เหมือนแต่เดิมความจริงเรื่องโลกกลม
เคยฝืนความรู้สึกฝืนความเชื่อ
ฝืนสายตาเราเองที่เห็นชัดๆว่ามันแบนอยู่ตำสองตา
แต่สุดท้ายความจริงก็เป็นของจริง
ที่ไม่เคยจะมาสนใจเลยว่าเราจะเชื่อหรือไม่อย่างไร
ธรรมชาติก็เป็นธรรมชาติธรรมดา
อยู่อย่างนั้นไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่รู้กัน

เราจะเชื่อว่าโลกกลมหรือแบน
มันก็ไม่ได้มีผลทำให้ความจริงมันเปลี่ยนแปลงไป
แต่ความจริงในธรรมชาติ
จะเป็นของจริงอยู่อย่างนั้นเสมอ!!!

เรื่องฝนตกเกิดจากใจหรือเกิดจากอะไร
เราะคิด จะเชื่อ จะรู้อะไรเท่าไหร่
ก็ไม่ได้ทำให้เหตุและผล
ไม่ทำให้ความจริงเปลี่ยนไป

กบร้องแล้วฝนตกอันนี้จริง
เพราะฝนตกเกิดจากคลื่นพลังงานที่มากมาย
และสัตว์จำนวนมากสามารถจะ
รับรู้ตรวจวัดสัมผัสรู้สึกคลื่นพลังงานนั้นๆได้
ดังนั้นก่อนฝนตกกบจะร้องอันนี้จริง
ก่อนฝนตก…มดและสัตว์นานาชนิดจะเคลื่อนย้าย
ตัวเองสู่ที่ๆปลอดภัยอันนี้จริง

แต่ฝนตกเพราะกบร้องอันนี้จริงแค่นิดเดียว
กบร้องเพราะท้องมันปวด..ยิ่งไม่ค่อยจะจริงแล้ว
ภัยพิบัติและโรคร้ายเกิดจากใจเรานี่จริง!!!
แค่การรับรู้ของเราและของวิทย์ยังไม่กว้างไม่ละเอียดพอ

เคยมีหนังฝรั่งเรื่องนึงพูดถึงสภาพอากาศ
ที่แปรเปลี่ยนตามคลื่นพลังของใจคนๆนึงในเรื่อง
ต้องยอมรับว่าฝรั่งนั้นเก่งมากที่สังเกตเห็นได้
หนังเรื่องหนึ่งคือเรื่องกรีนไมล์
ที่ตัวเอกรักษาโรคต่างๆได้
ลักษณะต่างๆในหนังใกล้เคียงความจริงจนน่าตกใจ
น่าตกใจที่วิทยาศาสตร์ตามยังไม่ทัน
ยังรับรู้ได้ไม่กว้างและละเอียดเท่าคนและสัตว์จำนวนมาก

เปรียบไปแล้ว นิวตันก็เห็นของจริง
ไอสไตน์ก็เห็นของจริงที่ละเอียดกว่ากว้างกว่า
สตีเฟ่น ฮอส์คิง ก็เห็นของจริงที่ละเอียดกว่ากว้างกว่า
แต่ทั้งหมดก็ยังไม่เข้าใจ แรงพื้นฐาน และทฤษฎีสรรพสิ่ง
แม้ว่าจะค้นหากันจนสุดชีวิต
ก็ไม่อาจพัฒนาการรับรู้ได้กว้างได้ละเอียดพอ
จนเข้าใจไปรู้ความจริงในธรรมชาติ
ที่มันเปิดเผยอยู่ตลอดเวลา
อย่างใกล้ตัวใกล้กว่าปลายจมูกและขนตาเราเสียอีก
หารู้ไม่ว่าเพียงแต่เราเข้าใจสิ่งที่ละเอียด
เพียงแต่เราเข้าใจสิ่งที่อยู่ใกล้เรามากที่สุด
จะแทบจะทับซ้อนตัวเราเสียด้วยซ้ำ
ถ้าเราเข้าใจสิ่งเหล่านี้แจ่มแจ้งชัดเจน
เราจะเข้าใจสิ่งอื่นทั้งหมด
เราจะเข้าใจสิ่งอื่นไกลทั้งหมดจดขอบจักรวาล
เพราะเราเข้าใจสิ่งใกล้จนถ่องแท้แล้ว
เราจะเข้าใจสิ่งหยาบทุกชนิดในจักรวาล
เพราะเราถ่องแท้สิ่งที่ละเอียดที่สุดแล้ว
เราจะเข้าใจธาตุ-สสาร-พลังงาน ทุกชนิด
เข้าใจความสัมพันธ์ การเปลี่ยนรูป การเปลี่ยนสมดุล
เราจะรู้ทฤษฎีสัมพันธภาพภาคสมบูรณ์
ที่เป็นอันเดียวกันกับทฤษฎีแห่งดุลยภาพ
และทฤษฎีสรรพสิ่งที่เราทั้งหลายพยายามกันมาตลอด

เมื่อเราเข้าใจธาตุ สสาร คลื่น และพลังงานทั้งหมดทั้งมวลแล้ว
ว่าด้วยเรื่องของการเจ็บป่วย
การป้องกันรักษา สรรพคุณทางยา

เราจะพบความจริงที่ว่า
สสารทุกชนิด ธาตุทุกธาตุ สถานะทั้งหลาย
ทั้งแข็ง ทั้งเหลว ทั้งไอ และอื่นๆ
ทั้งคลื่นพลังงานทุกชนิด
สิ่งเหล่านี้เปลี่ยนรูปไปมาได้ (E=mc2)
และทุกอย่างล้วนมีสรรพคุณทางยาทางการป้องกันและรักษา
พลังไฟฟ้าเอามาช๊อตกระตุ้นหัวใจ
พลังรังสี พลังเคมี พลังความร้อน พลังไมโครเวฟ พลังเสียง พลังแสง
เหล่านี้เอามารักษาบำบัดได้ทั้งหมดทั้งสิ้น
เหล่าจุลชีพทั้งหลายที่มีอยู่พัฒนามารักษาบำบัดได้ทั้งสิ้น
สสารทุกชนิด ธาตุทุกธาตุ สถานะทั้งหลาย
ทั้งแข็ง ทั้งเหลว ทั้งไอ และอื่นๆ เอามาบำบัดรักษาได้ทั้งหมด
ต้นไม้ทุกๆ ต้น ทุกๆสิ่งบนโลกนี้ พลังของเวลา
แม้กระท้่งพลังของใจก็เอามาบำบัดรักษาโรคได้
อย่างหนังเรื่องกรีนไมล์ อย่างพระเยซู หรืออย่างพีททองเจือ
จึงกล่าวได้ว่าทุกอย่างบนโลกนี้มีสรรพคุณทางยา
เอามาใช้บำบัดรักษาป้องกันโรคได้ทั้งสิ้นเลย

คำถามคือแล้วอะไรที่ทำให้เกิดโรคได้บ้าง
คำตอบคือทั้งหมดทุกสิ่งทุกอย่างเช่นกัน
สิ่งที่รักษาโรคได้ สิ่งนั้นก็ทำให้เกิดโรคได้
ทั้งหมดที่กล่าวข้างต้น ที่มีสรรพคุณทางยา
บำบัดรักษาป้องกันโรคได้นั้น
สามารถเป็นพิษ เป็นเหตุของโรคเช่นกัน
สิ่งสำคัญคือความสมดุลของสรรพสิ่ง
คือทฤษฎีแห่งดุลยภาพ
ว่าสมดุลแห่งโรค และสมดุลแห่งพิษ
นั้นสมดุลเคลื่อนไปจุดใดและอะไรเป็นเหตุ
สุดท้ายจะพบว่าสมดุลของใจคือคำตอบทั้งหมด
และเป็นคำตอบความจริงที่ใกล้ตัวที่สุดแต่เป็นเหตุของเรื่องทั้งหมด

ในอดีตเราตรวจจับโปรตรอนอิเล็กตรอน
ได้ด้วยการยิงบางสิ่งเข้าไปในโมเลกุล
กล้องถ่ายภาพออร่าที่มีเป็นสิบปี
ก็ส่งคลื่นไฟฟ้าผ่านมือแล้วจับคลื่นแสงมาเป็นภาพ
ทำให้เราเห็นคลื่นออร่าซึ่งก็เป็นคลื่นพลังของใจ
วิธีการวิทยาศาสตร์ง่ายๆแบบนี้แหละ
ที่เราจะสามารถเอามาสร้างเป็นกล้องถ่ายโรคได้
เพราะสิบปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีเราก้าวหน้าไปมาก
การประมวลผลภาพ ประมวลผล AI เราก็มาไกล

การตรวจวัดคลื่นพลังงานที่มีมากมาย
จากแหล่งกำเนิดแหล่งสะสมในตัวเรา
ด้วยการใส่คลื่นบางอย่างเข้าไป
แล้ววิเคราะห์ถ่ายมาเป็นภาพ
ให้เรารู้การสะสมคลื่นพลังของโรค
ก่อนที่โรคจะแสดงออกมาทางร่างกาย
จึงเป็นวิธีง่ายๆทางวิทยาศาสตร์
ด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ที่มีปัจจุบัน
จนสุกท้ายเราจะรู้ความลับ
ที่จะทำให้โรคทุกโรคหายไป
สูญพันธุ์ไปหมดได้พร้อมๆกัน

--

--