บันทึกฝึกงาน Content Writing กับ Eventpop ฉบับเด็กยังไม่อยากโต

jantarat.mo
Eventpop
Published in
3 min readAug 2, 2019

สวัสดีค่ะ เราชื่อโม เป็นนักศึกษาที่กำลังขึ้นปี 4 คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ฝึกงานในตำแหน่ง Content writing ให้กับ Eventpop ค่ะ

บล็อกนี้คงเป็นบล็อกส่งท้ายที่เราจะได้เขียนตอนที่ยังได้นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ประจำของตัวเองในออฟฟิศแล้ว รู้สึกใจหายมากเลยค่ะ ตอนแรกเราคิดว่าระยะเวลาสองเดือนกว่า ๆ มันดูนานมากสำหรับคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ฝึกงานที่ไหนมาก่อน แต่พอมาถึงวันนี้ที่เราจะได้ทำงานที่นี่วันสุดท้ายเรากลับรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วเกินกว่าที่เราจะได้ทำความรู้จักกับพี่ ๆ กับเพื่อน กับอีเว้นท์ป็อปจนครบดี แต่ก็เป็นระยะเวลาสองเดือนที่ให้อะไรหลาย ๆ อย่างกับเรามากเช่นกัน

ขอเล่าย้อนไปตอนวันที่ได้รู้จักอีเว้นท์ป็อปนะคะ สารภาพจากใจจริงว่าเราไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน อีเว้นท์ป็อปคืออะไร ทำเกี่ยวกับอะไรแล้วออฟฟิศมันอยู่ตรงไหนฉันจะเดินทางยังไง ไม่รู้อะไรเลยค่ะ ซึ่งเราว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถ้าคิดจะเลือกฝึกงานที่ไหนควรศึกษาไว้ก่อนดีกว่า อย่างน้อยจะได้รู้ว่าสามารถเดินทางไหวไหม ต้องเตรียมอะไรบ้าง แต่ของเราตอนนั้นมันค่อนข้างฉุกละหุกเพราะต้องรีบหาที่ฝึกงานแล้ว และตอนนั้นเราเห็นประกาศรับนักศึกษาฝึกงานในทวิตเตอร์ เป็นตำแหน่งคอนเทนต์ที่เราอยากจะทำพอดีเลยลองยื่นพอร์ตฯกับเรซูเม่ดู ในใจคือคิดแค่ว่าฉันต้องได้เข้าที่นี่ เพราะที่นี่เป็นที่พึ่งสุดท้ายแล้วจริง ๆ (T_T) รอลุ้นไม่นานก็มีพี่โทรกลับมาชื่อว่า พี่ริว ถามก่อนว่าเราพอรู้จักไหมว่าอีเว้นท์ป็อปคือบริษัทอะไร เราก็เปิดหาตอนนั้นเลยค่ะ จนได้รู้ว่าเป็นบริษัทที่ดูแลเรื่องการออกบัตรให้ผู้จัดงานอีเว้นท์ทั้งไทยและต่างประเทศ แล้วก็เป็นเว็บที่มีแพลตฟอร์มต่าง ๆ นอกเหนือจากการขายด้วย แล้วพี่เขาก็ให้แบบทดสอบมาทำสองข้อ คิดว่าหลาย ๆ ที่ที่รับนักศึกษาฝึกงานตำแหน่งคอนเทนต์ก็คงมีให้ได้ลองงัดสกิลออกมาใช้ เราก็เขียนไปค่ะ ส่งแทบจะเดดไลน์เลยเพราะคิดนานมากว่าจะเขียนยังไงให้ดูมีความรู้ที่สุด 55555

รอคำตอบอยู่ประมาณสองวันในที่สุดพี่ริวก็ติดต่อกลับมาให้เราได้ฝึกงานที่ Eventpop แห่งนี้

ก้าวแรกที่เข้ามา

ก็เหมือนก้าวแรกที่เราได้ลองออกจากมหาวิทยาลัยเข้าสู่ช่วงการทำงาน สำหรับเด็กที่เคยอยู่ในกรอบเสมออย่างโม ตื่นเช้ามาไปมหาวิทยาลัยเข้าเรียนวันละไม่กี่วิชา เย็นกลับมางีบต่อที่หอ ไม่ค่อยมีการสังสรรค์กับคนอื่น ๆ นอกจากเพื่อนสนิท การมาทำงานวันแรกจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก! อย่างที่บอกว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่เลย เราจะเข้ากับพี่ ๆ ได้ไหม จะมีคนดุเก่งเหมือนอาจารย์ที่มหาลัยหรือเปล่า 55555 ( อาจเพราะติดภาพมาจากละครมากไป… ) พอได้เข้ามาจริง ๆ กลับพบว่าคนที่ทำงานส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง ยังมีความเป็นแบบรุ่นพี่ ที่เราสามารถพูดคุยเป็นภาษาเดียวกันได้ ยังมีความ Work hard , Play hard กันอยู่ อาจเพราะตัวบริษัทเองก็ถือเป็นบริษัทแบบ Startup ทำงานกับไอทีกันเป็นหลักด้วยค่ะ

โต๊ะทำงานของเราเป็นโต๊ะยาวที่ใช้ร่วมกับพี่ ๆ ในทีม ไม่มีอะไรกั้นเลย และมีวิวที่สวยมาก ๆ เพราะออฟฟิศตั้งอยู่บนชั้น 26 ของตึก Bangkok Business Center ย่านเอกมัย เห็นวิวของตึกรามบ้านช่องและวิวรถติดตอน 6 โมงเย็น (ที่ทำให้รู้สึกว่า อื้มม.. นี่เราเข้ามาอยู่ในสังคมเมืองหลวงจริง ๆ แล้วสินะ ) ออฟฟิศอีเว้นท์ป็อปเป็นออฟฟิศแบบชั้นเดียว มีพนักงานประมาณ 50–60 คน ด้วยความที่มันไม่มีอะไรกั้นทำให้เราพูดคุยกันได้ง่าย เจออะไรก็ตะโกนบอกกันอย่างนั้นเลย บรรยากาศมันเลยไม่ตึงเครียดแถมบางทีเปิดเพลงให้ฟังด้วย ซึ่งมันก็ดีนะ แต่ถ้าอยากได้มุมเงียบ ๆ เราสามารถจองห้องทำงานกับ พี่ปุ้ม แอดมินของบริษัทพ่วงตำแหน่ง HR ชั่วคราวที่ทำหน้าที่เหมือน คุณรุจในเนื้อคู่ประตูถัดไป ก็ไม่ต่าง เป็นคนน่ารัก ใจดี ถึงจะไม่ได้คุยกับพี่ปุ้มเลยแต่เราก็รู้สึกได้ว่าพี่เป็นคนสำคัญอีกคนในอีเว้นท์ป็อปจริง ๆ

มาถึงมุมที่เรารักและอยากนำเสนอมากที่สุดนั่นก็คือ ห้องครัว ที่ตุนขนมนมเนยไว้เยอะมากและเป็นขุมสมบัติชั้นดี มีโต๊ะไว้สำหรับกินข้าวและ Company meeting ทุกสิ้นเดือน มีทีวีสำหรับ Presentation และเป็นจอสำหรับเล่นเกมไปพร้อม ๆ กัน และเป็นพื้นที่สำหรับ พี่ ๆ ที่จะหาเรื่องต่าง ๆ มาแชร์ Session กันทุกวันศุกร์ หรือเปรียบง่าย ๆ ก็คงเหมือนวิชาเสรีที่มีตั้งแต่การตีความหนัง, กล้องฟิล์มเล่นยังไง, ความรู้ด้านภาษาก็มี สุขภาพก็มา เป็นเกร็ดความรู้สนุก ๆ นอกเหนือจากการทำงาน ซึ่งเอาจริง ๆ ก็แอบเสียดายเพราะเราเข้าฟังแค่ไม่กี่ครั้งเอง

เวลา Company Meeting เราก็จะอยู่กันตรงนี้ค่ะ วิวดีมาก

น้องใหม่แห่งทีม Content

เข้าสู่เรื่องงานของโมบ้าง อย่างที่บอกว่าเราเข้ามาฝึกงานในตำแหน่ง Content Writing ก็จะอยู่กับพี่ ๆ ในทีมซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 คนคือ พี่ริว พี่โจ้ พี่แหวน แต่หลัก ๆ เราจะคุยงานกับพี่ริวที่เป็นพี่เลี้ยงและพี่โจ้ที่เป็นมือกราฟิกเพียงหนึ่งเดียวในทีมคอนเทนต์ ส่วนพี่แหวนจะเป็นพี่ที่ดูแลน้องฝึกงานอีกคน แต่จริง ๆ เราก็คุยกันได้หมดนะ

หน้าที่ของเราคือเขียนคอนเทนท์ Recap, Promote และ How-to ลงในบล็อกของอีเว้นท์ป็อปซะส่วนใหญ่ ซึ่งจะแบ่งเป็น 4 ประเภทคือ Entertainment, Education, Sports และ Activities แต่เราเลือกเขียนเป็นแนวไลฟ์สไตล์และสัมมนาเพราะค่อนข้างถนัดและมั่นใจว่าเขียนมันออกมาได้เต็มที่ ตรงนี้เราสามารถบอกพี่เค้าไปตรง ๆ ได้เลยว่าอยากทำอะไร เพราะพี่ริวก็คอยถามตลอดว่า ชอบอะไร ไม่ถนัดอะไรบ้าง แนะนำว่าให้บอกพี่ไปตรง ๆ เลย เพราะถึงแม้จะดันทุรังเขียนเรื่องที่ไม่ชอบไปเราก็คงรู้สึกเฟลทีหลัง แบบตอนแรก ๆ ที่เราคิดว่าเราคงเปิดรับงานได้ทุกอย่าง พี่ให้ทำอะไรเราทำหมด บอกมาเลยค่าาา สุดท้ายมานั่งคิดว่าเราเขียนอะไรลงไปก็ไม่รู้ เขียนด้วยความไม่เข้าใจยังไงมันก็ออกมาได้ไม่ดี

พี่ริว เป็นพี่เลี้ยงที่ดูแลภาพรวมของงานเราทั้งหมด

อยากขอบคุณพี่ริวที่ไม่ให้โมฝืนทำอะไรที่มันไม่ใช่ทางของโม แล้วก็เปิดโอกาสให้ได้ทำในสิ่งที่อยากทำนะคะ อย่างพวกงานศิลปะ นิทรรศการ เป็นงานที่ตั้งใจเขียนจริง ๆ ดีใจมากเลยค่ะที่พี่บอกว่าโมช่วยทำให้มีคอนเทนต์ใหม่ต่อยอดไปได้

และอย่างงานสัมมนาที่มีมาบ่อย ๆ อันนี้ถือว่าเป็นกำไรในการฝึกงานของเรา เพราะตอนเรียนคงไม่มีเวลามากพอไปฟังบรรยายทั้งวันขนาดนั้น ถึงบางงานบางอีเวนท์ต้องใช้เวลาช่วงวันหยุดไปแต่ก็รู้สึกคุ้มค่าที่จะแลกมา แต่ยอมรับว่าช่วงระหว่างกลางทางมันเหนื่อยมากเพราะเป็นช่วงที่เราพอรู้งานแล้ว ต้องหาคอนเทนต์มาเสนอไม่ให้มันว่าง บางครั้งมันตันจริงเราก็นั่งงมในเว็บไปเรื่อย ๆ ว่ามีอะไรอัพเดทให้เราจับมาเล่นบ้าง อยากบอกให้โลกได้รู้ว่าการทำคอนเมนต์มันไม่ง่ายเลย มันไม่ใช่การเขียนส่ง ๆ แต่ต้องมองถึงคนอ่านด้วยว่าเขาจะได้อะไรจากเรา

อีกงานที่เราอยากลองทำก็คือ Infographic สำหรับลง Facebook กับ Twitter ตรงนี้เราจะปรึกษาพี่โจ้อยู่บ่อย ๆ เพราะเป็นงานที่ต้องใช้ Corporate Identity ของอีเว้นท์ป็อปเป็นหลัก ตั้งแต่ฟอนต์, ไซส์, สี และวิธีการจัดวาง มันเยอะมากจริง ๆ ยังไงก็ทำเองไม่ได้ โปรแกรมที่ใช้คือ Sketch ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่รู้จัก 5555 อินโฟหนึ่งชิ้นเราใช้เวลามากกว่า 1 วันในการทำเพราะเป็นงานที่ยากและต้องให้พี่โจ้คอยทุบตีบ่อย ๆ ให้เข้าที่เข้าทาง บางครั้งเราก็ดื้ออยากทำตามใจตัวเองบ้าง แต่พอมาคิดว่ามันเป็นหน้าตาของบริษัท บางอย่างมันเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถเอาความคิดของเราเป็นหนึ่งได้อยากให้เชื่อคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนดีกว่า ตรงนี้พี่โจ้เขาก็สอนเรามาเยอะเหมือนกัน ขอบคุณมาก ๆ นะคะ

พี่โจ้ กราฟิกมือฉมังของทีมคอนเทนต์
พี่แหวน สาวสวยเพียงหนึ่งเดียว ยินดีกับตำแหน่งลีดคอนเทนต์ด้วยนะคะ

ขอบคุณพี่ทั้งสามคนในทีมที่ใจดีแล้วก็พร้อมช่วยเหลือกันมาตลอดระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมานี้จริง ๆ เป็นเราด้วยซ้ำที่ไม่ได้ปรึกษามากเพราะเกรงใจ มารู้สึกทีหลังว่าเราคงพลาดอะไรหลายอย่างเพราะความอมพะนำของเรานี่แหละค่ะ จริง ๆ ถ้าอยากรู้เรื่องไหนควรถามเลยนะ เพราะระยะเวลาการฝึกงานไม่กี่เดือนมันไม่พอให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่อยู่นอกห้องเรียนได้ทันแน่นอน กล้าสงสัยก็กล้าถามไปเลยบางเรื่องที่เราว่าถูกมันอาจจะไม่ทั้งหมดก็ได้

น้องปาล์มเพื่อนร่วมงานเพียงหนึ่งเดียวของเรา น่ารักมากค้าบบ

อีกสิ่งหนึ่งสำคัญที่ช่วยให้งานของเราราบรื่นไปด้วยดีแล้วก็อยากขอบคุณมาก ๆ เช่นกันก็คือเพื่อนฝึกงานด้วยกัน ช่วงที่เราฝึกคือช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นสิงหาคม มีนักศึกษาฝึกงานแค่เราและปาล์มสองคนเท่านั้น สำหรับเราแล้วการได้เพื่อนที่ดีก็เหมือนตกปลาแล้วได้ทอง เพราะไม่ใช่ทุกคนที่พร้อมจะเป็นมิตรแล้วเข้าใจไปกับเราทุกเรื่อง บางคนทำงานร่วมกันแต่สไตล์มันต่างกัน บางคนชอบเหมือน ๆ กันดันทำงานด้วยกันไม่ได้ แต่กับปาล์มที่เป็นเพื่อนใหม่ เรามีหลายเรื่องที่สามารถคุยด้วยกันได้ โดยเฉพาะ K-pop (เรื่องใหญ่มาก 😤) ตรงนี้แหละที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราโชคดีมาก ๆ ที่ได้มาเจอกัน

ภาพนี้เราถ่ายตอนพี่ ๆ Co-Founder จับมือกันตัดเค้กครบรอบ 4 ปีของ Eventpop น่ารักมากกก

ขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนที่โมอาจจะไม่ได้กล่าวถึงด้วยนะคะ ทั้งพี่ ๆ C-Level และพี่ทุกทีมไม่ว่าจะ AE, Product, Account, Marketing, Customer Support, Production Dev, BD แต่แอบเสียดายที่ช่วงเวลาสองเดือนนี้ไม่ค่อยได้ทำความรู้จักกันเลย

Eventpop ทำให้รู้ว่าเรายังเป็นน้องใหม่และมีอีกหลายอย่างที่เราต้องไปค้นหาก่อนจะไปทำงานเต็มตัวในอีกหนึ่งปีหลังจากนี้ ผลงานที่เราทำไว้อาจจะไม่ได้ดีนักถ้าเทียบกับที่ได้รับโอกาสดี ๆ ในการเข้ามาทำงานที่นี่ แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจคือเราได้รับความรู้นอกจากที่เคยได้รับในห้องเรียน และเติบโตมากขึ้นไม่ใช่แค่ขนาดตัว แต่หมายถึงความคิดด้วย

สุดท้ายนี้ขอบคุณตัวเองก็แล้วกัน เธอเก่งมากมิสซิสโม! ขอบคุณที่ช่วยเติมเต็มระยะเวลาสองเดือนนี้ให้มีความหมายกับตัวเองมากขึ้น ขอบคุณที่ตัดสินใจเลือกฝึกงาน ขอบคุณที่ทำให้รู้จักกับ Eventpop นะ :)

--

--