5 วิธี ฝ่าวิกฤตขายของออนไลน์ : โค้งสุดท้ายปลายปี — Fillgoods

เศรษฐกิจแบบนี้ จะกลับมาขายดี ต้องทำอะไรบ้าง?

พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายๆท่านอาจจะกำลังรู้สึกว่าช่วงนี้ค้าขายอะไรก็ติดขัด ขายยากไปหมด ลูกค้าหาย จากที่เคยขายดีตอนนี้กลายเป็นขาดทุน

หลายคนบอกว่าเป็นผลจากนโยบายต่างๆ ที่ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก การค้าระหว่างประเทศมีปัญหา คนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอยเหมือนเดิม

บ้างก็บอกว่าเป็นผลจากการที่ผู้ประกอบการในจีน ที่นำเอาสินค้าราคาถูกมากมาขายได้อย่างง่ายดายในไทย ทำให้คนไทยแข่งกับเขาไม่ไหวในเรื่องของราคา และยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย

แต่ถ้าสังเกตดูจะพบว่า ไม่ว่าเศรษฐกิจ หรือสถานการณ์ภายนอกจะเป็นอย่างไร ก็จะยังคงมีคนที่ขายดี ธุรกิจเติบโตอยู่เสมอ สำคัญคือ ทำยังไงละ ถึงจะขายดีได้ตลอดแบบเขา?

วันนี้เรามี 5 วิธีที่จะช่วยให้คุณฝ่าวิกฤตขายของออนไลน์ ให้กลับมาขายดีได้ในช่วงปลายปีนี้

1. มีความเข้าใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อง Online Marketing และ Funnels

ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าหลายๆคนจะเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์แต่ไม่เข้าใจถึงหลักของ Funnels แต่ถ้าอยากให้ธุรกิจสามารถแข่งขันและเติบโตได้ในสภาวะนี้ คุณอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง

Funnel คือการเดินทางของลูกค้าจากจุดที่เขาแค่รู้จักเรา (Awareness) ผ่าน Ad ต่างๆ SEO SEM และ Content ต่างๆ หรือช่องทาง Offline เช่น Event และอื่นๆ การทำให้เกิดความสนใจ เกิดการจดใจและนำไปคิดต่อของลูกค้า (Consideration) ผ่าน Content ที่มีข้อมูลมากขึ้น มีเรื่องราว และสื่อสารกับ Need และ Want ของลูกค้ามากขึ้น แล้วจึงปิดการขาย (Conversion)

Pic from Cooler Insights

ซึ่งในส่วนของ Conversion ก็มีเครื่องมือเข้าช่วยมากมายทั้ง Leadpage และ Magnet ที่เป็นการให้ข้อมูล ให้ความรู้กับผู้อ่าน ดูดคนให้เข้ามาดูมาอ่านเยอะๆ แต่มีการเก็บ Pixel สำหรับทำ Ad ต่อได้อย่างตรงจุด แล้วต่อไปยัง Salespage ที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นพนักงานขายในรูปแบบของหน้าเว็บ

ส่วนสุดท้ายคือการสร้างลูกค้าซื้อซ้ำ (Loyalty) และการบอกต่อ (Advocacy) ซึ่งมีความสำคัญมากระดับหนึ่งเลยทีเดียว เนื่องจากการสร้างกำไรจากลูกค้าเก่านั้นง่ายและใช้ต้นทุนที่ถูกกว่าลูกค้าใหม่ อีกทั้งถ้าธุรกิจมีฐานลูกค้าที่ใหญ่และมั่นคง ก็จะสามารถฝ่าทุกวิกฤตและเติบโตได้ทุกสถานการณ์ ซึ่งจะเป็นอย่างนั้นได้ก็ต้องมีการเก็บฐานข้อมูลลูกค้าก่อน รวมทั้งมีการติดต่อ การ Follow Up เป็นระยะๆด้วยเช่นกัน

2. Content ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาหน้าเพจ Ad Facebook หรือที่ไหนก็ตาม

“Content is King”

โดยถ้าจะให้เวิร์คที่สุด Content ต้องมีความชัดเจนในการ แก้ปัญหาให้กับลูกค้า เขาอ่านแล้วต้องรู้สึกเลยว่านี่แหละ เขาเลย ยิงใช้คำที่เป็นรายละเอียดเฉพาะให้เห็นภาพชัด ก็ยิ่งเข้าถึงลูกค้า เช่น เสียเงินมากมายกับของตีกลับ เรียกเก็บเงินได้บ้างไม่ได้บ้าง ยอดขายเยอะ แต่กำไรน้อย สำหรับการทำ Content สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ รวมถึง Content ต้องน่าติดตาม ไม่บอกทีเดียวหมดเปลือก ต้องมีความน่าค้นหา ติดตามต่อ ไม่ได้เน้นขายของอย่างเดียว

หากเป็นการยิง Ad ก็จะมีเรื่อง การเลือกใช้ภาพ ที่ถ้าหากเป็นภาพที่ไม่ใช่สินค้าโดยตรง เป็นภาพคน ภาพเกี่ยวกับชีวิตประจำวันลูกค้า ก็จะหยุดกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่าภาพที่เน้นขายของเป็นหลัก รวมถึงเรื่องการตั้ง Audience และทำ Retargeting ด้วยที่ควรศึกษาเพิ่มเติม

3. ทัศนคติ

การขายของออนไลน์ก็คือการทำธุรกิจ ซึ่งสุดท้ายแล้ว จะประสบความสำเร็จได้ก็ต้องอาศัยทัศนคติที่ถูกต้องด้วย โดยควรจะต้องมี Growth Mindset หรือถ้าจะว่ากันง่ายๆคือ ต้องพร้อมที่จะปรับตัว พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เนื่องจากตลาดและการแข่งขันนั้นไม่หยุดนิ่ง การอ่านหนังสือเพิ่มขึ้น เข้างานสัมมนาต่างๆ และติดตามสื่อหรือ Influencer ที่มีความรู้ดีๆมาช่วยขยายกรอบความคิด ก็จะเป็นประโยชน์กับธุรกิจคุณด้วยเช่นกัน

Photo by Estée Janssens on Unsplash

นอกจากนี้ การฝึกการวางแผนและตั้งเป้าหมายที่ดี จะช่วยให้การทำงานมีความชัดเจนขึ้น ไม่ได้โฟกัสแค่ทำอะไร แต่โฟกัสที่ปลายทาง ว่าทำยังไงก็ได้ให้ถึงเป้าหมายที่วางเอาไว้ และปรับแก้ไประหว่างทางพร้อมๆกัน

4.กระจายความเสี่ยง

ข้อนี้ค่อนข้างตรงไปตรงมา เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา แพลตฟอร์มหลักอย่างเฟสบุคมีการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องการมองเห็นของเพจ เรื่องขึ้นค่าโฆษณา และยังมีแนวโน้มเกิดการเปลี่ยงแปลงอีกหลายอย่าง จึงควรกระจายธุรกิจไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆด้วย ทั้ง Marketplace อย่าง Lazada Shoppee หรือแพลตฟอร์มอื่นๆทั้ง IG Line Youtube และอื่นๆ เพื่อไม่ให้การเปลี่ยนแปลงของระบบใดระบบหนึ่ง กระทบกับธุรกิจของเราทั้งหมดได้

5.มีระบบเป็นของตัวเอง

ไม่กี่ปีก่อน ระบบ POS เป็นสิ่งที่เฉพาะร้านค้าใหญ่ๆใช้กัน ร้านค้าส่วนมากยังมองว่าไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น มาวันนี้ แทบทุกร้านค้ามี POS เป็นของตัวเอง เช่นเดียวกับระบบจัดการร้านออนไลน์ ที่แม้ว่าทุกวันนี้จะไม่เป็นที่นิยมขนาดนั้น แต่คุณจะรอจนเป็นคนสุดท้ายที่มีระบบใช้หรือเปล่าล่ะ?

การมีระบบไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่คือตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณอยู่ได้ เติบโตได้ท่ามกลางการแข่งขันที่สูง และสภาพความไม่แน่นอนในปัจจุบัน เพราะขณะที่ยอดขายน้อยมากๆ คุณอาจรู้สึกว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม ดูแลทุกอย่างได้ แต่พอเริ่มขายดีมากขึ้น กลับเริ่มมีปัญหามากขึ้น

“ยิ่งขายดี ยิ่งธุรกิจโต เวลายิ่งน้อย ขายดีก็เหนื่อยกาย ขายไม่ได้ก็เหนื่อยใจ”

ต้องทำทั้งฐานข้อมูลออเดอร์ สต๊อกสินค้า ฐานข้อมูลลูกค้า ที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่ตามก็มีโอกาสตกหล่นได้ หรือจะเป็นเรื่องการที่ต้องหอบของเยอะๆไปใช้เวลานานๆที่จุดส่งสินค้า ทำไปทำมา เจอของตีกลับเยอะ กลายเป็นขาดทุนอีก ทั้งๆที่ขายดี

ข่าวดีคือเรามีคำตอบที่จะช่วยคุณแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ให้คุณขายดี ไม่ว่าสถานการณ์ภายนอกจะเป็นอย่างไร

โดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว….

คลิกเลย Fillgoods.co