คอนโดกรุงเทพ VS คอนโดต่างจังหวัด
อยากลงทุนในอสังหาฯ ทำเลไหนได้กำไรมากกว่า ?
เราพูดกันอยู่ตลอดว่าการซื้อบ้านหรือว่าคอนโดนั้นถือเป็นการลงทุนในชีวิตอย่างหนึ่ง
เพราะว่าดอกเบี้ยบ้านนั้นเป็นดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุด อีกทั้งอสังหาริมทรัพย์นั้นยังมีมูลค่าสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ด้วยเหตุนี้ทำให้หลายๆ คนหันมาลงทุนในอสังหาฯกันมากขึ้น โดยเฉพาะอสังหาฯ ประเภท คอนโดมิเนียม ที่ได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก
แน่นอนว่าจะลงทุนซื้อคอนโดสักห้อง เพื่อเก็งกำไรหรือปล่อยเช่านั้นคนส่วนใหญ่จะนึกถึง คอนโดในกรุงเทพฯ ติด BTS แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยนั่นก็คือ คอนโดในต่างจังหวัด เพราะในปัจจุบันต้องยอมรับว่าในจังหวัดตามหัวเมืองนั้นมีการพัฒนาที่ดินและพื้นที่จนเกือบจะเทียบเท่ากรุงเทพเลยก็ว่าได้
คำถามที่ตามมานั่นก็คือ ถ้าซื้อคอนโดต่างจังหวัดมาแล้วจะคุ้มกับการลงทุนมั้ย? แล้วถ้าเทียบกับกรุงเทพแล้วทำเลไหนน่าสนใจมากกว่ากัน?
วันนี้ FINSTREET ได้รวบรวมข้อมูลพร้อมเปรียบเทียบทั้งข้อดี-ข้อเสียให้คุณแล้ว สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะลงทุนที่ไหนดีระหว่าง คอนโดในกรุงเทพฯ กับ คอนโดต่างจังหวัด เราควรลงทุนแบบไหนมากกว่า ไปติดตามกันได้เลยครับ
คอนโดฯ ในกรุงเทพ
แน่นอนว่า กรุงเทพเป็นจุดศูนย์กลางที่รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันรวมถึงเป็นเมืองเศรษฐกิจที่คนพลุกพล่าน ผู้คนจากทั่วทุกพื้นที่ไหลเข้าสู่ตัวเมือง ทำให้มีการหมุนเวียนของเศรษฐกิจอยู่ตลอดเวลา ด้วยการจราจรที่ติดขัดรวมถึงวิถีชีวิตของคนเมือง คอนโดจึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ข้อดี ของการลงทุนคอนโดในกรุงเทพฯ มีอะไรบ้าง?
ต้องทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า คอนโดส่วนใหญ่ในกรุงเทพนั้นออกแบบมาเพื่อการอยู่อาศัยเป็นหลัก ผู้เช่าส่วนมากเป็นพนักงานออฟฟิศ หรือคนที่ต้องทำงานในเมือง การทำสัญญาจึงเป็นการเช่าแบบระยะยาว ทำให้ได้ผลกำไรจากการเช่า
( Rental Yield ) อยู่ที่ 4–5%
บวกกับราคาที่ดินของกรุงเทพที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอยู่ตลอด ทำให้ ผู้ลงทุนได้รับประโยชน์หากขายที่ดินในส่วนนี้ (Capital Gain) ถึง 8 –9% ต่อปี [ อยากรู้วิธีการคำนวณในความสามารถในการลงทุนคอนโดเพิ่มเติม คลิ๊ก ]
คอนโดฯ ต่างจังหวัด
เป็นที่ทราบกันดีว่า ประเทศไทยเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว เนื่องจากมีธรรมชาติที่สวยงามและมีค่าครองชีพที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้เป็นที่สนใจของคนทั่วโลก ซึ่งในปี 2561 นี้ได้มีการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยสูงถึง 37 ล้านคน และสามารถทำเงินให้กับประเทศไทยได้ราว 2 ล้านบาท ด้วยตัวเลขที่พุ่งสูงนี้ จึงส่งผลให้มีโครงการอสังหาฯ เกิดขึ้นอย่างมากมายตามหัวเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้ง เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต และอีกหลายจังหวัด
FINSTREET ขอยกตัวอย่าง เมืองที่น่าสนใจ เช่น พัทยา เพื่อยกมาเปรียบเทียบ ให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากพัทยาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษและมีความใกล้เคียงกับกรุงเทพในหลายๆด้าน
ข้อดี ของการลงทุนคอนโดในพัทยามีอะไรบ้าง?
เนื่องจากคอนโดเหล่านี้ ตั้งอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยว ทำให้การออกแบบและการตกแต่งนั้นมีความที่ใกล้เคียงกับรีสอร์ทหรือโรงแรม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ทำให้การเช่าจะมีทั้งสัญญาแบบระยะสั้นและระยะยาว มีโอกาสในการทำกำไรจากการเช่า (Rental Yield) อยู่ที่ 7–10%
และ มีโอกาสในการพัฒนาที่ดิน ซึ่งมีอัตราการทำกำไรในส่วนนี้ (Capital Gain) ถึง 7% ต่อปี นอกจากนี้ ในอนาคตอันใกล้ ตัวเลขเหล่านี้จะยิ่งมีโอกาสสูงขึ้นอีก เนื่องจากมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคมและโลจิสติกส์ จากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ของรัฐบาล ที่มีเป้าหมายการกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวและยกระดับพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก ให้สามารถรองรับการลงทุนได้มากขึ้น
เรามาเปรียบเทียบการลงทุนคอนโดทั้ง 2 พื้นที่กัน
ทำไมพัทยาถึงน่าลงทุน ?
- ที่เที่ยวยอดฮิตตลอดกาลของชาวต่างชาติ
สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อาจมีปัจจัยด้านฤดูกาล ทำให้ไม่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ตลอดปี แต่พัทยานั้นยังได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องในทุกฤดูกาล ทำให้เป็นจุดแข็งที่น่าลงทุน ซึ่งจะเห็นได้จากปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวพัทยาเติบโตขึ้นถึง 10% มีนักท่องเที่ยวมาพักที่พัทยาถึง 15 ล้านคนต่อปี
2. มีศูนย์การค้าและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ทั้ง Central Festival Pattaya Beach และ Terminal21 Pattaya ที่กำลังจะเปิดตัวในปีนี้ รวมถึงร้านสะดวกซื้อ คาเฟ่ และ ร้านอาหารเก๋ๆ อีกมากมาย เป็นการแสดงถึงความเติบโตและโอกาสในการพัฒนาของพื้นที่ที่มีมากขึ้น
3. การเดินทางที่สะดวก
จุดแข็งของพัทยา คือ เรื่องของความสะดวกสบายในการเดินทาง ทั้งทางด่วนพิเศษมอเตอร์เวย์ที่สร้างเสร็จแล้วในปีที่ผ่านมา สนามบินอู่ตะเภาที่จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 15 ล้านคนต่อปี และ โครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้อย่างเช่น รถไฟฟ้าความเร็วสูง ที่เชื่อมต่อ 3 สนามบินใหญ่อย่าง ดอนเมือง สุวรรณภูมิและอู่ตะเภา ให้คนไทยและนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาพัทยาได้ภายใน 1 ชม. และการปรับปรุงท่าเรือสัตหีบเพื่อรองรับเรือสำราญจากต่างประเทศได้
4. โอกาสในอนาคต
จากโครงการ EEC ของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้พื้นที่ส่วนนี้กลายเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและโลจิสติกส์ของ AEC ทำให้ชลบุรีเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าจับตามองเพราะนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกจะหลั่งไหลมาสู่พื้นที่นี้
สำหรับใครที่สนใจอยากจะซื้อคอนโดในพัทยาเพื่อพักผ่อนหรือปล่อยเช่า
เราอยากขอแนะนำโครงการใหม่ล่าสุดจากแสนสิริ อย่าง EDGE Central Pattaya
ที่ตั้งบนถนนพัทยาสาย 2 ในโซนพัทยากลาง ซึ่งเป็นโซนที่นับว่าเป็นไข่แดงพัทยา จุดที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาพักมากที่สุดในพัทยา เพราะรวมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญและแหล่งช็อปปิ้งมากมาย
นอกจากนั้น EDGE Central Pattaya ยังออกแบบห้องพัก ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้มีความคล้ายคลึงกับโรงแรม เพื่อรองรับการปล่อยเช่าอีกด้วย ซึ่งแสนสิริจะเปิดพรีเซลล์ ช่วงเดือนพฤษภาคม นี้แล้วครับ
สามารถติดตามรายละเอียดและลงทะเบียนได้ที่ https://www.sansiri.com/condominium/edge-central-pattaya/th/
