ผลกระทบต่อการแข่งขันและการพัฒนานวัตกรรมในระบบการธนาคารไทย : อ่านระหว่างบรรทัดกฎเกณฑ์การรับสมัครและการกำกับดูแลแบงค์ไร้สาขา (3)

Narun Popattanachai
Fintech, Law, and Public Policy
1 min readMay 6, 2024
Photo by Joe Stubbs on Unsplash

สรุปใจความสำคัญ

- Virtual Bank คือ ธนาคารพาณิชย์รูปแบบใหม่ที่สามารถเปิดให้บริการแก่ลูกค้าได้โดยไม่ต้องมีสาขาทางกายภาพ (physical branch) เน้นการให้บริการด้วยระบบดิจิทัลผ่านสื่อออนไลน์เป็นหลัก

- ธนาคารแห่งประเทศไทยเริ่มเปิดรับคำขออนุญาตเพื่อประกอบธุรกิจ Virtual Bank ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ถึง 19 กันยายน 2567

- การประกอบธุรกิจ Virtual Bank ในประเทศไทยเป็นวิวัฒนาการของระบบการธนาคาร (evolution) ที่มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการ ไม่ได้ต้องการให้เกิดการแข่งขันอย่างรุนแรงระหว่างธนาคารจนเกิดการอุบัติใหม่ของระบบการธนาคาร (disruptive revolution)

ผู้ที่น่าจะได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ Virtual Bank ในประเทศไทยไม่น่าเป็นกลุ่มวิสาหกิจเริ่มต้น (startup) แต่เป็นการรวมตัวของกลุ่มทุนที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและจะส่งเสริมให้การประกอบธุรกิจเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

การสร้างนวัตกรรมทางการเงิน

ประเด็นที่ควรพิจารณาต่อเนื่องจากเรื่องการแข่งขันในระบบสถาบันการเงิน คือ การสร้างนวัตกรรมทางการเงินจากการให้บริการของ Virtual Bank หากวิเคราะห์จากทฤษฎีด้านกฎหมายและเศรษฐศาสตร์ซึ่งเสนอแนวคิดการกำเนิดของนวัตกรรมในระบบการเงินการธนาคารว่าอาจเกิดได้จากปัจจัยแวดล้อมสองปัจจัยเป็นหลัก ดังนี้

ปัจจัยแรก นวัตกรรมอาจเกิดจากความต้องการของตลาด (Demand-sided innovation) กล่าวคือ ผู้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝากเงิน ผู้ขอสินเชื่อ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ กับระบบการธนาคาร อาจกำลังประสบปัญหาหรือมีความยากลำบากในการเข้าถึงบริการหรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินซึ่งเป็นประเด็นที่ ธปท. ต้องการแก้ไขปัญหาตามที่ได้นำเสนอให้เห็นในประเด็นก่อนหน้า ดังนั้น นวัตกรรมที่เกิดจากการผลักดันของอุปสงค์อาจจะสามารถเข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของธนาคารพาณิชย์ที่ไม่สามารถคิดคำนวนความเสี่ยงของการปล่อยสินเชื่อให้แก่บุคคลเพื่อการดำรงชีพหรือเพื่อการประกอบอาชีพได้บนพื้นฐานของการวิเคราะห์ความเสี่ยงของผู้ขอสินเชื่อได้อย่างครบถ้วน จึงจำเป็นต้องตั้งเงื่อนไขในการขอสินเชื่อให้ผู้ขอสินเชื่อมีหลักทรัพย์ค้ำประกันที่มีมูลค่าสูงกว่าหรือผู้ค้ำประกันที่ยินยอมค้ำประกันมูลหนี้หรือกรอบวงเงินสินเชื่อที่จะขอ ซึ่งทำให้กลุ่มลูกค้าที่ไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกันหรือไม่มีบุคคลคำประกันไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบการธนาคารได้ (กล่าวคือ เป็นการแก้ปัญหากลุ่ม Unserved) นอกจากนั้น ความคาดหวังของการเปิดให้มีใบอนุญาตประเภท Virtual Bank เข้ามาอาจจะช่วยให้เกิดแนวทางในการแก้ไขปัญหาของกลุ่มลูกค้าชายขอบประเภท Underserved ที่กำลังประสบปัญหาไม่สามารถเข้าถึงบริการผ่านอินเตอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่นซึ่งในปัจจุบันสถาบันการเงินเกือบทุกแห่งมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกและลดต้นทุนการทำธุรกรรมทางการเงิน

ปัจจัยที่สอง นวัตกรรมทางการเงินอาจเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากปัจจัยด้านอุปสงค์ในตลาดและมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจออกแบบ นำเสนอ หรือกำหนดแนวทางการประกอบธุรกิจของสถาบันการเงิน (Supply-sided innovation) การบังคับใช้กฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักประเภทนี้ที่ส่งผลต่อผู้เล่นในตลาดที่ต้องการลดต้นทุนด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ (compliance costs) ให้ได้มากที่สุด บริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลายบริการในระบบการเงินที่พัฒนาแล้วมักเกิดจากแรงผลักดันด้านกฎหมาย ตัวอย่างของการพัฒนาการเงินการธนาคารในต่างประเทศที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายกำกับดูแลได้แก่การพัฒนาของตลาดอนุพันธ์และตลาดสัญญาแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ (International derivatives and swaps market) มีที่มาจากการแก้ไขกฎหมายกำกับดูแลสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐอเมริกากำหนดให้ตราสารอนุพันธ์และสัญญาแลกเปลี่ยนบางประเภทไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับดูแลการซื้อขายสินค้าล่วงหน้า (Commodity Futures Trading Commission — CFTC) ส่งผลให้เกิดการจัดตั้งสมาคมตราสารอนุพันธ์และสัญญาแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ (International Swaps and Derivatives Association — ISDA) เป็นองค์กรเอกชนทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานและแบบสัญญากลางของตลาดดังกล่าวจนได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั่วโลก

หากพิจารณาร่างหลักเกณฑ์การกำกับดูแลฯ อาจมีข้อสังเกตว่า ร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวต้องการให้การพัฒนานวัตกรรมเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป มากกว่าการกระตุ้นให้เกิดการอุบัติใหม่ของระบบการธนาคารของไทย ประการแรก Virtual Bank ยังอยู่ภายใต้กรอบแนวคิดการกำกับดูแลเดียวกับการกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ในปัจจุบัน และยังต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบเพิ่มเติมในด้านต่าง ๆ อีก เช่น การกำกับดูแลกลุ่มธุรกิจทางการเงินและโครงสร้างการถือหุ้น การกำกับดูแลด้านช่องทางการให้บริการและการดูแลระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่รองรับการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัล เนื่องจากการกำกับดูแลเพิ่มเติมต่าง ๆ ถูกกำหนดขึ้นเพื่อให้การให้ประกอบธุรกิจของ Virtual Bank “ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน หรือสร้างความเสียหายอันจะมีผลกระทบกระเทือนต่อความเชื่อมั่นของผู้ฝากเงิน ผู้ใช้บริการ และประชาชนที่มีต่อระบบสถาบันการเงิน” ดังนั้น แนวทางในการพิจารณาว่า บริการ ผลิตภัณฑ์ หรือแนวทางการประกอบธุรกิจใหม่ที่ควรได้รับอนุมัติให้เสนอขายหรือปรับใช้เพื่อดำเนินการของ Virtual Bank ได้นั้น ต้องพิสูจน์ได้ว่าเป็น บริการ ผลิตภัณฑ์ หรือแนวทางการประกอบธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบสถาบันการเงินในระดับต่ำ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ต้องสามารถคำนวนความเสี่ยงที่อาจเกิดปัญหาหรือวิกฤติทางการเงินจากการเสนอขายหรือให้บริการดังกล่าวได้ (known risks) แนวทางในการกำกับดูแลนี้ อาจจะทำให้ Virtual Bank ไม่สามารถนำนวัตกรรมทางการเงินในลักษณะอุบัติใหม่ (disruptive technology) ที่ยังไม่ทราบถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นต่อเสถียรภาพทางการเงินและอาจส่งผลกระทบในเชิงโครงสร้างต่อระบบการธนาคารของไทยได้ (uncertainty) ประเด็นนี้จะเห็นได้จากการนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการกำกับดูแล Virtual Bank เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมาว่า ธปท. อาจยินยอมให้ Virtual Bank ให้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวเนื่องหรือจำเป็นต่อธุรกิจการธนาคารและต้องเป็นธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศไทยเท่านั้น และคาดว่าจะยังไม่เปิดโอกาสให้ Virtual Bank ให้บริการทางการเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลนอกกรอบที่กฎหมายดังกล่าว เช่น การให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลโดยให้ผลตอบแทน การให้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการดำเนินการของเครือข่ายสินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภท (staking) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสินทรัพย์อ้างอิง เป็นต้น

นอกจากนั้น ข้อ 6 (7) ของประกาศหลักเกณฑ์การขอใบอนุญาตและการอนุญาตฯ ยังกำหนดเพิ่มเติมอีกว่า ผู้สมัครขอรับใบอนุญาตแสดงรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีนัยต่อความสำเร็จ รวมทั้งข้อมูลประกอบที่แสดงให้เห็นว่าผู้ถือหุ้นแต่ละรายจะสนับสนุนการประกอบธุรกิจของ Virtual Bank ได้อย่างไร และเมื่อผู้สมัครได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้เริ่มดำเนินการเตรียมความพร้อมเพื่อประกอบธุรกิจ Virtual Bank แล้ว หนึ่งในหลักเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติตามก่อนเพื่อให้ผ่านการประเมินความพร้อมจาก ธปท. คือ ต้องดำรงทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท และแสดงให้เห็นถึงแนวทางในการจัดให้มีทุนจดทะเบียนซึ่งชำระแล้วไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท เมื่อพ้นระยะแรกของการประกอบธุรกิจ (ข้อ 9 (5))

--

--