ผลกระทบต่อการแข่งขันและการพัฒนานวัตกรรมในระบบการธนาคารไทย : อ่านระหว่างบรรทัดกฎเกณฑ์การรับสมัครและการกำกับดูแลแบงค์ไร้สาขา (Virtual Bank) (1)
สรุปใจความสำคัญ
- Virtual Bank คือ ธนาคารพาณิชย์รูปแบบใหม่ที่สามารถเปิดให้บริการแก่ลูกค้าได้โดยไม่ต้องมีสาขาทางกายภาพ (physical branch) เน้นการให้บริการด้วยระบบดิจิทัลผ่านสื่อออนไลน์เป็นหลัก
- ธนาคารแห่งประเทศไทยเริ่มเปิดรับคำขออนุญาตเพื่อประกอบธุรกิจ Virtual Bank ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ถึง 19 กันยายน 2567
- การประกอบธุรกิจ Virtual Bank ในประเทศไทยเป็นวิวัฒนาการของระบบการธนาคาร (evolution) ที่มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการ ไม่ได้ต้องการให้เกิดการแข่งขันอย่างรุนแรงระหว่างธนาคารจนเกิดการอุบัติใหม่ของระบบการธนาคาร (disruptive revolution)
ผู้ที่น่าจะได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ Virtual Bank ในประเทศไทยไม่น่าเป็นกลุ่มวิสาหกิจเริ่มต้น (startup) แต่เป็นการรวมตัวของกลุ่มทุนที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและจะส่งเสริมให้การประกอบธุรกิจเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
บทนำ
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ผมมีโอกาสได้เข้าร่วมการประชุมรับฟังคำชี้แจงแนวทางการรับสมัครผู้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาและรับฟังความคิดเห็นกฎเกณฑ์การกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาที่จัดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังและสอบถามให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องทั้งในเรื่องจุดประสงค์และความมุ่งหมายของการเปิดภูมิทัศน์ระบบการธนาคารไทย วิธีการและรายละเอียดเกี่ยวกับการสมัคร รวมถึงเป็นเวทีให้แสดงความเห็นต่อร่างหลักเกณฑ์การกำกับดูแลซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบกลางทางกฎหมายและเว็บไซต์ของ ธปท. ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ถึง 17 เมษายน 2567 เป็นต้นไป
ก่อนอื่นเลย ผมขอชื่นชม ธปท. ที่มีการสื่อสารเรื่องการเปิดให้มีธุรกิจการเงินประเภทใหม่นี้ให้บุคคลทั่วไปทราบและให้ความเห็นมาโดยตลอด ตั้งแต่ช่วงที่นโยบายธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา หรือ Virtual Bankฃ ยังกำลังตั้งไข่ จนกระทั่ง ณ ตอนนี้ที่ประกาศที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตออกมาแล้ว และทำในทุกช่องทาง เป็นตัวอย่างที่ดีของหน่วยงานรัฐในการสร้างระบบกฎหมายและกฎระเบียบที่ยึดเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง และเพื่อให้สมความตั้งใจของหน่วยงานในการสนับสนุนการมีส่วนร่วมกันช่วยคิด ช่วยออกแบบระบบการเงิน ระบบเศรษฐกิจของประเทศ
วันนี้ ผมขอชวนผู้อ่านทุกท่านคิดไปพร้อมกันว่า ทิศทางการพัฒนาเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เมื่อศึกษาและวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของสิ่งที่ ธปท. อยากเห็น (Green Line) ตามเอกสารเผยแพร่ประกอบกับประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอใบอนุญาต และการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2567 และร่างประกาศฯ เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลที่ผมมีโอกาสได้รับฟังคำชี้แจง ดังนี้ครับ
ทำไมเรื่องนี้จึงสำคัญ
ผมขอฉายภาพบริบทและความสำคัญของธนาคารพาณิชย์ในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยกันก่อน เพื่อจะได้เข้าใจตรงกันว่าทำไมการประกาศรับสมัครผู้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในครั้งนี้ถึงเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่เฉพาะสำหรับผู้ที่สนใจจะประกอบธุรกิจดังกล่าวเท่านั้น แต่เป็นเรื่องที่เราทุกคนควรสนใจด้วยเช่นกันครับ
สถาบันการเงินประเภทธนาคารพาณิชย์เป็นผู้เล่นสำคัญในการบริหารจัดการและจัดสรรเงินทุนในระบบเศรษฐกิจเรา เป็นตัวกลางหลักในการรวบรวมเงินออมในประเทศมาใช้ให้เกิดประโยชน์ด้วยการปล่อยสินเชื่อเพื่อเป็นทุนสำหรับการประกอบธุรกิจ (credit transformation) ข้อมูลจากรายงานประจำปี 2565 ของ ธปท. แสดงให้เห็นว่าภาคเอกชนไทยยังพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากแบงค์อยู่อย่างมีนัยสำคัญ สินเชื่อธุรกิจที่มีวงเงินเกินกว่า 500 ล้านบาทที่แบงค์พาณิชย์เป็นผู้ปล่อยเพิ่มขึ้นทุกปีโดยเฉลี่ยเกือบ 10% ต่อปีระหว่างปี 2562–2565 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังวิกฤติโควิด-19 การปล่อยสินเชื่อวงเงินขนาดใหญ่มีแนวโน้มเพิ่มในอัตราที่สูงขึ้นกว่าในช่วงก่อนวิกฤติ อย่างไรก็ดี แนวโน้มของการขยายตัวของการปล่อยสินเชื่อขนาดกลางและขนาดเล็ก (วงเงินต่ำกว่า 500 ล้านบาท) ลดลงตั้งแต่ช่วงก่อนวิกฤตโควิด-19 และยังมีทิศทางที่จะปรับลดต่อเนื่องหลังวิกฤติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความท้าทายของการกำหนดนโยบายเพื่อช่วยเหลือให้ผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงภาคครัวเรือนที่ต้องการทุนในการดำรงชีวิต เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
นอกจากในมุมของความสำคัญในเชิงระบบด้านการเป็นแหล่งเงินทุนในระบบเศรษฐกิจของไทย ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสถาบันการเงินประเภทธนาคารพาณิชย์เป็นใบอนุญาตที่พิเศษกว่าการได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจทางการเงินประเภทอื่น หรือที่เรียกในวงการกฎหมายว่า “super license”
ประการแรก ธนาคารพาณิชย์ได้รับอนุญาตให้ให้บริการทางการเงินหลายประเภทโดยที่ไม่ต้องขออนุญาตประกอบธุรกิจเหล่านั้นแยกรายบริการ ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจการรับฝากเงินและตั๋วเงิน บริการปล่อยสินเชื่อทั้งแก่ผู้ประกอบธุรกิจและภาคครัวเรือน (ซึ่งสามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยจากการปล่อยสินเชื่อได้สูงกว่าเพดานที่กฎหมายกำหนดไว้ กล่าวคือมากกว่า 15% ต่อปี) ธุรกิจซื้อขายเงินปริวรรตต่างประเทศ เป็นต้น นอกจากนั้น ความสำคัญของสถาบันการเงินประเภทธนาคารยังสะท้อนได้จากนโยบายของ ธปท. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลหลักในการยังเปิดโอกาสและสนับสนุนให้แบงค์พาณิชย์พัฒนาบริการอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีทางการเงิน เช่น การเงินทางอิเล็กทรอนิกส์และการใช้เทคโนโลยีทางการเงินมาใช้เพื่อสนับสนุนการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีการยืนยันและพิสูจน์ตัวตน หรือ เทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบบล็อกเชน เป็นต้น
ประการที่สอง แบงค์พาณิชย์ยังได้รับมอบหมายจากกฎหมายทางการเงินและตลาดทุนอื่น ๆ ให้สามารถประกอบธุรกิจหรือให้บริการที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวเนื่อง หรือที่จำเป็นต่อธุรกิจหลัก (core business) เช่น ธุรกิจการเป็นทรัสตีตามกฎหมายว่าด้วยทรัสเพื่อธุรกรรมในตลาดทุน ธุรกิจการลงทุนในตราสารประเภท Collateralized Debt Obligation (CDO) การประกอบกิจการดูแลผลประโยชน์ (escrow service) ตามกฎหมายว่าด้วยการดูแลผลประโยชย์ของคู่สัญญา และการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (Securitization) ตามกฎหมายหลักทรัพย์และกฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ เป็นต้น ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์เป็นประตูสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจในโลกการเงินและตลาดทุนบ้านเราอย่างกว้างขวาง
ความสำคัญของการเปิดรับสมัครผู้ประกอบธุรกิจ Virtual Bank ประการสุดท้ายที่ผมขอนำเสนอ เกิดจากแนวทางการบริหารภูมิทัศน์ระบบการธนาคารไทย ซึ่งเน้นการรักษาเสถียรภาพทางการเงินและระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศเราประสบปัญหาวิกฤติการเงินดังเช่นในยุควิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 อีกครั้ง ด้วยเหตุผลดังกล่าว ที่ผ่านมา รัฐบาลจึงไม่มีแผนการให้ใบอนุญาตการประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ใหม่มาเป็นเวลานาน ผู้ที่ต้องการประกอบธุรกิจนี้จึงต้องใช้วิธีการเข้าถึงใบอนุญาตเดิมที่มีอยู่แล้ว เช่น การควบกิจการหรือซื้อกิจการของธนาคารพาณิชย์ (กรณีล่าสุดคือ การตั้งธนาคารไอซีบีซี ในประเทศไทย ซึ่งเกิดจากการเข้าซื้อกิจการธนาคารสินเอเชีย เมื่อปี 2553) หรือการอาจใช้วิธีการขออนุญาตปรับสถานะหรือเปลี่ยนแปลงลักษณะการประกอบธุรกิจจากธุรกิจการเงินประเภทอื่นมาเป็นธนาคารพาณิชย์ (กรณีล่าสุด ได้แก่ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ หรือที่หลายท่านรู้จักกันในนาม แอลเอชแบงค์ ซึ่งเป็นการปรับสถานะจากการเป็นแบงค์พาณิชย์เพื่อรายย่อยเป็นแบงค์เต็มรูปแบบ เมื่อปี 2554) ด้วยนโยบายการจำกัดจำนวนธนาคารพาณิชย์ในระบบการเงินบ้านเรา ทำให้ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจอยู่เพียง 13 รายเท่านั้น (นอกจากนั้น ยังมีธนาคารของรัฐ ธนาคารสาขาของธนาคารต่างประเทศ และสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงินอีกจำนวนหนึ่ง) ทำให้การเปิดรับสมัครผู้ขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Virtual Bank ซึ่งถือเป็นธนาคารพาณิชย์แต่มีการให้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก เป็นโอกาสที่หาอยากอย่างยิ่งและน่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่ระบบการธนาคารและระบบเศรษฐกิจของบ้านเรา