ประโยชน์ของบิตคอยน์ที่คนไทย ยังไม่เข้าใจ

เราคนไทยอาจจะไม่เห็นถึงความสำคัญของคริปโตเคอร์เรนซี่ขนาดนั้น แต่ประเทศในโลกที่สาม ประเทศที่ถูกปกครองด้วยรัฐบาลทหารนั้น(เอ๊ะคุ้นๆ) เขามีความต้องการเงินที่เป็นกลางแบบนี้มากๆ เพราะอะไร เพราะรัฐบาลของเขาผลิตเงินออกมาใช้งานตามใจชอบ เราประชาชนไม่มีสิทธิไม่มีเสียง สุดท้ายก็เป็นแพะยอมรับผลที่ตามมาแทน วันนี้ในบางประเทศรัฐบาลอาจจะแค่เอาภาษีประชาชนมาแจกก่อนการเลือกตั้ง แต่วันหน้าจะมีอะไรมากกว่านี้อีกก็ไม่รู้

พอดีผมเข้าไปเจอบทความนึงใน New York Times ที่ดีมากๆ เป็นบทความจากคนเวเนซูเอล่า ประเทศนึงที่ค่อนข้างสุดโต่งในการโกงกินของรัฐบาล ที่เล่าถึงชีวิตที่ยากลำบากของเขาในประเทศ ที่ตกอยู่ในภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง (hyperinflation) และบิตคอยน์ได้ช่วยชีวิตเขาไว้

มาเข้าบทความกันเลยแล้วกันครับ :)

บิตคอยน์ได้รักษาครอบครัวของฉันไว้

“เงินไร้พรมแดน” เป็นมากกว่าคำพูดติดปาก เมื่อคุณอาศัยอยู่ในเศรษฐกิจและระบอบเผด็จการที่กำลังพังพินาศ

ในวันอังคาร ณ​ เมือง CIUDAD GUAYANA ประเทศเวนซุเอล่า ฉันออกไปช็อปปิ้งเพื่อซื้อนม เนื่องด้วยการขาดแคลนอาหารที่รุนแรง ทำให้แค่การซื้อนมที่เป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากๆ แต่สำหรับฉันนั้นลำบากกว่านั้นอีก เพราะฉันไม่ได้ถือเงินโบลิวาร์ (สกุลเงินทางการของเวเนซูเอล่า)

ฉันเก็บเงินทั้งหมดของฉันในบิตคอยน์ การเก็บในโบลิวาร์เปรียบเสมือนการฆ่าตัวตายทางการเงิน ครั้งล่าสุดที่ฉันเช็ค อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ประมาณ 3.5 เปอร์เซ็นต์ต่อวัน นั่นคือเงินเฟ้อรายวันนะ ถ้ารายปี สำหรับปี 2018 ก็เกือบ 1 ล้าน 7 แสนเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากการไม่มีบัญชีธนาคารในต่างประเทศ และการควบคุมทางการแลกเปลี่ยนเงินของประเทศ ทำให้ไม่มีช่องทางง่ายๆเลยสำหรับฉันที่จะใช้เงินต่างประเทศที่คนใช้กัน อย่างเงินดอลลาร์สหรัฐ

หลายๆสิ่งที่นี่เริ่มบ้าบอขึ้นเรื่อยๆ ประเทศเวเนซูเอล่าตอนนี้มีประธานาธิบดี 2 คน หนึ่งในนั้นคือ นิโคล่า มาดูโร เขาต้องการที่จะเอาชนะเศรษฐีพันล้านชาวอังกฤษ ริชาร์ด แบรนสัน ในการจัดคอนเสิร์ตเพื่อการกุศล ในขณะที่พวกเราชาวเวเนซูเอล่ากำลังหิวโหยกันอยู่ อีกทั้งยังมีความรุนแรงที่ยังไม่จบในการต่อต้านการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ณ ชายแดนระหว่างโคลัมเบียและบราซิล และก่อนที่ฉันจะสามารถซื้อนมได้ ฉันต้องการเปลี่ยนบิตคอยน์เป็นโบลิวาร์ก่อน

จริงๆขั้นตอนนี้อาจจะง่ายกว่าที่คุณคิด ฉันแค่แสกนผ่านลิสต์ในเว็บไซต์ LocalBitcoins.com ซึ่งเป็นตลาดที่คนเวเนซูเอล่าส่วนใหญ่ใช้กัน แล้วมองหาข้อเสนอซื้อบิตคอยน์จากคนที่ใช้บัญชีธนาคารเดียวกับฉัน ด้วยเหตุนี้คุณจะได้เงินทันทีผ่านการโอนเงินธนาคาร เมื่อฉันตอบรับข้อเสนอ บิตคอยน์ก็จะถูกถอนออกจากกระเป๋าสตางค์ของฉัน และถือโดยเว็บไซต์ และฉันก็ส่งข้อมูลบัญชีธนาคารไปให้ผู้ซื้อแล้วก็รอ

หลังจากผู้ซื้อส่งโบลิวาร์มาให้ผ่านการโอนเงิน ฉันก็แจ้งเว็บไซต์ให้ปล่อยบิตคอยน์ของฉัน แล้วบิตคอยน์ก็จะถูกส่งไปที่กระเป๋าสตางค์ของผู้ซื้อ สุดท้ายเราก็ให้คะแนนความพึงพอใจกับอีกฝ่าย ขั้นตอนที่เล่ามาใช้เวลาประมาณ 10 นาที

ความจริงแล้วฉันไม่ใช่คนเวลาซูเอล่าคนเดียวที่ใช้คริปโตเคอร์เรนซี่ Bloomberg รายงานว่า ตลาดท้องถิ่นสำหรับบิตคอยน์ทำลายสถิติเมื่อวันที่ 17 เมษายน ขึ้นไปแตะถึงมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ภายในวันนั้นเพียงวันเดียว เวเนซูเอล่าติดอันดับที่สองในโลกมาตลอดรองจากรัสเซียในเชิงปริมาณธุรกรรม บนเว็บ LocalBitcoins.com ซึ่งจากเว็บ Coin Dance ซึ่งเฝ้าติดตามการใช้งานคริปโตเคอร์เรนซี่ ในช่วงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ คนในเวเนซูเอล่าซื้อขายกันประมาณ 6.9 ล้านดอลลาร์บน LocalBitcoins.com ในขณะที่รัสเซียซื้อขายกันอยู่ที่ประมาณ 13.8 ล้านดอลลาร์ (ฉันใช้อัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉลี่ยสำหรับบิตคอยน์จากเว็บ Coinmarketcap.com ในสัปดาห์นั้น) นั่นก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน สำหรับประเทศที่ตกอยู่ในเศรษฐกิจถดถอยมาเป็นปีที่ 5 ซึ่งเศรษฐกิจยังหดตัวถึง 18 เปอร์เซ็นต์ในปี 2018

แต่ฉันแลกบิตคอยน์เยอะๆไม่ได้นะ แม้ว่ารัฐบาลยังไม่ตรวจสอบการทำธุรกรรมในคริปโตเคอร์เรนซี่ แต่เขาตรวจสอบการทำธุรกรรมในตัวเงินโบลิวาร์ ถ้าทำธุรกรรมที่มีมูลค่าเกิน 50 ดอลลาร์ บัญชีของคุณจะถูกล็อคโดยอัตโนมัติ จนกระทั่งคุณอธิบายให้ธนาคารฟังได้ว่าเงินมาจากไหน

อย่างไรก็ตามคริปโตเคอร์เรนซี่รักษาชีวิตของครอบครัวเราไว้ ตอนนี้ฉันสามารถดูแลค่าใช้จ่ายทางบ้านด้วยตัวฉันเอง พ่อของฉันเป็นข้าราชการ ในกรมการพิมพ์ ที่ไม่มีแม้แต่กระดาษ เขาได้รายได้ 6 ดอลลาร์ต่อเดือน แม่ของฉันไม่มีรายได้ อยู่บ้านเฉยๆ นอกจากนั้นคริปโตยังช่วยพี่ชายของฉัน Juan ให้ออกจากเวเนซูเอล่าในฤดูร้อนที่ผ่านมา

เป็นเวลาหลายปีที่พี่ของฉันพยายามที่จะเลี้ยงชีพโดยการเป็นทนายความที่นี่ แต่ในภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรงทุกคนเริ่มจนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งรวมถึงลูกค้าของทนายความช่วยเช่นกัน Juanได้รายได้น้อยจนกระทั่งเขาเสียเงินมากกว่าได้ (เครื่องเขียน, ค่าแทกซี่) ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้

ต้นปีที่แล้วเขาเริ่มทำการออกแบบกราฟฟิคและรับแปลภาษาออนไลน์ แต่เว็บไซต์ส่วนใหญ่จ่ายเงินให้กับงานฟรีแลนซ์ผ่าน Paypal หรือช่องทางที่คล้ายกัน ซึ่งเราใช้ไม่ได้เพราะการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินอนุญาตให้ธนาคารใช้เฉพาะสกุลเงินท้องถิ่น (สำหรับโลกภายนอก ถึงแม้ว่าพวกเรามีบัญชีธนาคารที่นี่ก็ตาม ก็เปรียบเสมือนไม่มีบัญชีธนาคาร) ดังนั้น Juan จึงต้องรับเงินค่าจ้างเป็นคริปโตแทน

เป็นเพราะรายได้เหล่านั้น พี่ของฉันจึงเริ่มคิดเรื่องการออกนอกประเทศ เขาสามารถซื้อสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการเดินทางไปโคลัมเบีย: เสื้่อผ้า กระเป๋าเดินทาง และโทรศัพท์มือถือ เขาเก็บเงินไว้บางส่วน เขาน้ำหนักขึ้นนิดหน่อยด้วยซ้ำ ซึ่งไม่ปกตินักสำหรับกับคนแถวนี้ในทุกวันนี้

คริปโตเคอร์เรนซี่ช่วยเขาเช่นกันตอนที่เดินทางออกนอกประเทศเป็นเวลา 4 วัน เจ้าหน้าที่ทหารตามชายแดนขึ้นชื่อในเรื่องการยึดเงินคนที่จะออกนอกประเทศ แต่สำหรับ Juan นั้น เขาเก็บเงินไว้ในบิตคอยน์ ทำให้ไม่มีใครเข้าถึงได้เพราะเขาจำ password ไว้ในหัว “เงินไร้พรมแดน” ไม่ใช่คำที่พูดติดปากเท่านั้นสำหรับพวกเราที่อาศัยอยู่ในเศรษฐกิจและระบบเผด็จการที่กำลังพังพินาศ

แผนของเราคือให้พี่ส่งเงินกลับบ้านโดยใช้คริปโต หลังจากที่เขามีเพียงพอแล้ว Westorn Union เปลี่ยนการการโอนเงินเข้าประเทศเป็นโบลิวาร์ด้วยอัตราที่กำหนดโดยรัฐบาล ซึ่งมักจะประมาณครึ่งหนึ่งของราคาในตลาดมืด ตัวกลางบางรายทำการแลกเปลี่ยนในอัตราของตลาดมืด และเพื่อนของฉันที่อาศัยอยู่ต่างประเทศจำนวนมากใช้บริการเหล่านั้น แต่ถ้าคุณไม่มีผู้แลกเปลี่ยนที่เชื่อถือได้ คุณจะถูกหลอกเอาได้ง่ายๆ และรัฐบาลพยายามที่จะปิดผู้ให้บริการเหล่านั้นมาหลายปีแล้ว บิตคอยน์ทั้งถูกกว่า เร็วกว่า และปลอดภัยกว่า

เราวางแผนไว้อย่างดี แต่ Juan ไม่สามารถหางานดีๆ ได้ในโคลัมเบีย เงินเขาหมดลงหลังจากผ่านไปสามเดือน ฉันต้องส่งบิตคอยน์ให้เขาเพื่อเขาจะได้สามารถกลับมาที่เวเนซูเอล่า

และคริปโตไปได้ไกลแค่นี้

วันอังคาร หลังจากที่ฉันแลกบิตคอยน์เป็นโบลิวาร์มูลค่าประมาณ 5 ดอลลาร์ ฉันออกไปหาซื้อนม ฉันไปทุกๆร้านที่ฉันสามารถเดินไปถึงจากบริเวณบ้านของฉันซึ่งยังคงไม่ปิดบริการลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่มีสักร้านจาก 20 ร้านมีนมขาย

แต่ฉันต้องซื้ออะไรสักอย่าง อะไรก็ได้ ก่อนที่เงินโบลิวาร์ของฉันจะเสียมูลค่า ฉันเลยซื้อชีสจากร้านที่ขายแต่ชีส นอกจากนั้นที่ร้านยังมีถุงพลาสติกสีเขียวโปร่งใสที่ไม่มีฉลาก ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่ามันคือแป้งข้าวโพด แต่ฉันไม่กล้าซื้อมัน

เห็นไหมครับว่านี่เป็นตัวอย่างสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าคริปโตเคอร์เรนซี่เป็นประโยชน์มากๆ สำหรับคนบางกลุ่มในโลกนี้ ผมเชื่อว่าประเทศที่มีเทคโนโลยีทางด้านการเงินดีที่สุดจะมีความต้องการคริปโตเคอร์เรนซี่น้อยที่สุด ปกติคนมักจะเปลี่ยนไปใช้สิ่งใหม่ ก็ต่อเมื่อของใหม่ดีกว่าเดิม 10 เท่า เพราะฉะนั้นนวัตกรรมตัวนี้ก็จะไปเกิดในประเทศที่คนเข้าถึงบริการทางการเงินน้อยที่สุดก่อนนั่นเอง รอจนกว่าเทคโนโลยีตัวนี้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผมเชื่อว่ายังมีศักยภาพที่จะโตอีกมาก เมื่อนั้นเราจะเห็นประโยชน์ของมันชัดเจนขึ้น :)

เนื้อหาจาก https://www.nytimes.com/2019/02/23/opinion/sunday/venezuela-bitcoin-inflation-cryptocurrencies.html