สรุปทิศทางอนาคตของ Digital Asset จาก SET Digital Asset Industry Forum

Turbo Panumarch
Flipay
Published in
3 min readOct 8, 2019

The english version of this article is already available here.

Digital Asset และ Blockchain เป็นคำที่เราจะได้ยินบ่อยขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะจากวงการธุรกิจการเงิน ซึ่งกำลังมองหา Innovation เพื่อมาลดต้นทุน และเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้จากโมเดลธุรกิจแบบใหม่

ณ ​เวลานี้ คำถามที่เราจะถามคงไม่ใช่ Digital Asset “จะมามั้ย” อีกต่อไปแล้ว แต่มันจะเป็นคำถามว่า Digital Asset “จะมาเมื่อไหร่” หรือ “จะมาในรูปแบบไหน”

และคำถามที่สำคัญที่สุดคือ Digital Asset จะมาสร้าง Impact หรือ Disrupt ธุรกิจเงินทุนในปัจจุบันอย่างไรบ้าง

SET Digital Asset Industry Forum: Shaping the Future of the Capital Market

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปเข้าร่วม SET Digital Asset Industry Forum: Shaping the Future of the Capital Market ที่เป็นงานเปิดตัว Initiative ของทาง SET หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต้องขอบคุณ Kanokwan Norasetkul มากๆ ที่เชิญไป)

ทาง SET กำลังสร้าง Digital Asset Platform โดยนำเอาที่ปรึกษาระดับโลกมา อย่าง Blocksize Capital ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และ University of Cambridge ซึ่งเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เพราะ SET ตั้งใจจะสร้าง Global Platform ไม่ได้เป็นแค่ Local Platform อีกต่อไป

ภาพในบทความนี้โดยส่วนใหญ่มาจากสไลด์ใน Forum สำหรับสไลด์แบบเต็ม เข้าไปดูได้ที่ SET Digital Asset Industry Forum Presentation

สรุปแบบสั้นๆ

  1. ประเด็นหลักของงานนี้คือเรื่อง Digital Asset ซึ่ง SET กำลังสร้าง Platform อยู่ โดย Digital Asset แปลตรงๆ คือ สินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเป็นการแปลง (Tokenize) ของในโลกจริงให้ไปอยู่บน Blockchain เป็นเหรียญ Token ทำให้เราสามารถโอนบ้าน หรือหุ้นในรูปแบบ Digital Asset Token ได้ง่ายๆ ผ่านมือถือ
กระบวนการ Tokenize สินทรัพย์เป็น Digital Asset Token อย่างง่าย [ref]

2. Digital Revolution จาก Digital Asset มันเพิ่งเริ่มต้นขึ้น เรามองเห็นประโยชน์จริงในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว ความสะดวก ความโปร่งใส และต้นทุนที่ลดลงมหาศาล จากการลดตัวกลางและการมี Platform กลางร่วมกัน แต่ความท้าทายสำคัญคือการสร้าง Business Use Case เพื่อนำไปใช้จริง

3. จุดประสงค์หลักของงานนี้คือการนำเสนอความรู้และแนวทาง เพื่อให้ธุรกิจการเงินช่วยกัน Brainstorm และร่วมมือกันสร้าง Business Use Case บน SET Digital Asset Platform

4. Use Case หลักที่ SET Digital Asset Platform สนใจจะเป็นการช่วย Tokenize สินทรัพย์ต่างๆ เป็น Digital Asset ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ตราสารหนี้ กองทุน อสังหาริมทรัพย์รวมไปถึงสินทรัพย์ Physical ทั้งหลาย เช่น ยา อาหาร ทำให้การจัดการธุรกรรมต่างๆ จากที่ต้องใช้เวลา 1–3 วัน เหลือเพียงหลักวินาที

5. ในด้านของตลาดโลก Use Case ใหญ่ๆ ที่มีใช้จริงแล้วกว่าครึ่งก็อยู่ที่ด้านการเงินเลย เช่น การลงทุน ระดมทุน หุ้น หรือการจ่ายเงิน และจะเห็นพวกอสังหาริมทรัพย์บ้าง ซึ่งมักจะอยู่ในรูปแบบกองทุนคล้ายๆ Reit ที่มาเปิดแบ่งขาย Token ให้กับนักลงทุนรายย่อย โดยจุดประสงค์หลักของธุรกิจจะอยู่ที่การลดต้นทุน

ประโยชน์หลักที่ทำให้ธุรกิจนำเอา Blockchain มาใช้

6. การมาของ Blockchain จะทำให้ผู้เล่นในตลาดต้องปรับตัว โดยเฉพาะกับ Payment Agent, Settlement Agent, Custodian, Broker รวมไปถึง Exchange เพราะธุรกรรมหลายๆ อย่างไม่ต้องการตัวกลางแล้ว แต่ปัญหาใหม่ๆ และหน้าที่ใหม่ๆ ก็จะเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน เป็นโอกาสให้ผู้เล่นใหม่ได้เข้ามา

7. กฎหมายจะเป็นส่วนสำคัญที่ตัดสินว่าธุรกิจ Digital Asset จะเกิดและเติบโตหรือไม่ ซึ่งการออกกฎหมายก็ไม่ง่ายเลย เพราะเกี่ยวพันหลายฝ่าย แถมเทคโนโลยีก็ใหม่มากๆ และยังเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ถ้า Regulator เข้ามาดูแลมากไป ธุรกิจก็เกิดยาก น้อยไปก็มีคนถูกหลอก ซึ่งในงานเค้ายกตัวอย่างประเทศ Liechtenstein ซึ่งออกกฎหมายได้ยืดหยุ่นและทันสมัยมากๆ โดยการมอง Token เป็น Container เหมือนกล่องเก็บ Right หรือสิทธิ์ เช่น ความเป็นเจ้าของ ซึ่งสามารถโอนให้คนอื่นได้ทาง Online ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่ STO หรือ Asset Tokenization อย่างสมบูรณ์เลย

ส่วนหนึ่งของกฎหมาย Blockchain ของ Liechtenstein

สรุปแบบเจาะลึก

ถ้าใครอ่านสรุปแบบสั้นข้างบนแล้วรู้สึกยังไม่พอ อยากรู้เพิ่มอีก ตามไปอ่านในสรุปรายหัวข้อตามข้างล่างได้เลย สามารถเลือกอ่านเฉพาะหัวข้อที่สนใจ ไม่จำเป็นต้องอ่านทั้งหมดตามลำดับก็ได้ครับ

Part 1: ทำไมต้อง SET Digital Asset Platform

Part 2: DLT คืออะไร และมีการใช้งานจริงอย่างไรบ้าง

Part 3: แนวโน้มของ Digital Asset และ Ecosystem ในระดับโลก

Part 4: Asset Tokenization จะมาเปลี่ยนแปลงธุรกิจการเงินอย่างไร

Part 5: มุมมองของกฎหมายกับ Digital Asset

สุดท้าย

ส่วนตัวแล้วผมมองว่าการที่ SET ลงมาในตลาดของ Digital Asset เป็นสิ่งที่น่าจับตามองมากๆ เพราะ SET เป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ของโลกไม่กี่เจ้าที่เริ่มเข้ามาจับตลาดนี้ ซึ่งอาจจะทำให้ประเทศไทย กลายเป็นผู้นำของตลาดการเงินในยุคถัดไปก็เป็นได้

สำหรับธุรกิจการเงินและ Startup ก็จัดได้ว่าเป็นโอกาสใหม่เช่นกัน ถึงแม้ว่าดูเผินๆ Platform ทั้งหมดน่าจะถูกสร้างโดย SET และสถาบันการเงินใหญ่ๆ แต่การมาของ Platform และยุคใหม่ก็นำมาซึ่งปัญหาใหม่ๆ เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บ Digital Asset ที่มีปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การทำ Audit บนระบบ Digital Asset หรือการทำ Best Execution เป็นต้น

เชื่อว่าถ้าเทียบกับประเทศที่ปิดกั้นด้าน Blockchain และไม่มีองค์กรใหญ่ขับเคลื่อน Digital Asset แบบนี้ รายย่อยๆ เกิดยากกว่าแน่นอน ด้วยกำแพงของกฎหมายและ ความเข้าใจของประชาชน

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ SET กำลังมองหาคือ Business Use Case ที่จะผลักดันให้เกิดการใช้งาน Digital Asset Platform ซึ่งก็หวังว่าจะเป็นโอกาสใหม่ของผู้เล่นในตลาด โดยเงื่อนไขของผู้ที่จะร่วมสร้าง Use Case ก็ยังไม่ชัดเจนนัก แต่สำหรับคนที่สนใจ ลองติดต่อเข้าไปทาง SET ผ่าน Email นี้ดูได้ครับ DigitalAssetPlatform@set.or.th

ต้องขอบคุณทาง SET และทีม Consulting อย่าง Blocksize Capital และ University of Cambridge ที่จัดงานนี้และให้ความรู้ที่ดีมากๆ

แล้วก็ขอบคุณพี่ Pak Aranyawat ที่แนะนำข้อมูลเพิ่มเติมต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนของกฎหมาย Liechtenstein ที่น่านำเอามาเป็น Case Study เลย

มีคำถามหรือคำแนะนำอะไร สามารถ Comment คุยกันได้เลยครับ :)

--

--

Turbo Panumarch
Flipay
Editor for

Builder at Flipay. An Engineer who loves Coding, Product Design and Blockchain. Former VP of Engineering at Omise Payment. 📬 turbo@flipay.co