SET Digital Asset Industry Forum Part 4: Asset Tokenization จะมาเปลี่ยนแปลงธุรกิจการเงินอย่างไร
บทความนี้เป็นสรุป Part 4 จากงาน SET Digital Asset Industry Forum สามารถตามอ่านบทความที่เกี่ยวข้องได้ตามรายการนี้เลยครับ
Intro: สรุป SET Digital Asset Industry Forum โดยย่อPart 1: ทำไมต้อง SET Digital Asset PlatformPart 2: DLT คืออะไร และมีการใช้งานจริงอย่างไรบ้างPart 3: แนวโน้มของ Digital Asset และ Ecosystem ในระดับโลก👉 Part 4: Asset Tokenization จะมาเปลี่ยนแปลงธุรกิจการเงินอย่างไรPart 5: มุมมองของกฎหมายกับ Digital Asset
Asset Tokenization จะมาเปลี่ยนแปลงธุรกิจการเงินอย่างไร
หัวข้อนี้เป็นมุมมองเจาะลึกการเปลี่ยนแปลงและ Disruption ธุรกิจด้านตลาดทุนอย่างเช่นหลักทรัพย์และกองทุนโดยตรง โดยจะมีตัวอย่างจากตลาด Primary ที่ออกหลักทรัพย์และ Secondary ที่เป็นตลาดแลกเปลี่ยน ซึ่งโครงสร้างใหม่จากระบบ Blockchain จะลดตัวกลาง และเปลี่ยนหน้าที่ไปอย่างมาก
การเปลี่ยนแปลงของตลาด Primary Market
สำหรับ Primary Market หรือการ Issue หลักทรัพย์อย่างหุ้น IPO ถ้าเรามองโดยเบื้องต้นแล้ว ในระบบปัจจุบัน (ตามสไลด์ข้างบน) ก็เป็น Digital ซึ่งอาจจะไม่ได้ต่างกับ Digital Asset มากนัก
- มี Custodian (เช่น ธนาคาร) ทำหน้าที่ Dematerialize เงินสดให้กลายเป็น Digital
- มี Depository (ในไทย เช่น TSD ที่รับฝากหุ้น) ทำหน้าที่ Dematerialize หลักทรัพย์ให้กลายเป็น Digital
แต่งานที่ยังเลี่ยงไม่ได้คือ Reconciliation หรือการกระทบยอดเพื่อตรวจสอบยอดของรายการในระบบ Digital ว่าตรงกับทรัพย์สินจริงๆ ที่เก็บไว้อยู่หรือไม่ ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีความยุ่งยากไม่น้อย
แต่เมื่อเรามาใช้ระบบ Digital Asset เราก็ต้องมีกระบวนการแปลงหลักทรัพย์และเงินสดเป็น Digital อยู่เหมือนเดิม แต่กระบวนการจะต่างออกไป ซึ่งเราจะเรียกกระบวนการแปลงนี้ว่า Tokenization
หลังจาก Tokenize แล้ว Issuer และนักลงทุน จะสามารถเข้าถึงและซื้อขายหลักทรัพย์บน DLT ได้โดยตรงผ่าน Smart Contract ซึ่งได้มีการเขียน Atomic Swap
Atomic Swap เป็นเหมือน Escrow แบบไร้ตัวกลาง
กล่าวคือ Atomic Swap เป็น Smart Contract ที่ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายแลกมั่นใจได้ว่าการแลกเปลี่ยนจะ Atomic คือแลกเปลี่ยนสำเร็จ หรือไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยโดยไม่ต้องมีคนกลาง ไม่ต้องกลัวว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเสียหายเพียงฝ่ายเดียว
ทำให้การ Issue หลักทรัพย์และการซื้อขายเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และไม่ต้องพึ่งคนกลาง จึงทำให้มีคำถามว่า…
บนระบบ DLT ยังต้องการธุรกิจผู้ให้บริการอยู่อีกหรือ
คำตอบยังต้องการอยู่ แต่ก็จะเปลี่ยนรูปแบบไป เช่น Financial Advisor ที่ช่วย Issuer ออกหลักทรัพย์บน DLT หรือผู้ให้บริการ Infrastructure อย่างการจัดเก็บกุญแจหรือ Token และคอยช่วยเหลือผู้ใช้ในกรณีทำกุญแจหาย
การเปลี่ยนแปลงของตลาด Secondary Market
สำหรับ Secondary Market หรือตลาดแลกเปลี่ยน เช่นการซื้อขายระหว่างนักลงทุนในตลาดหุ้น ก็จะมีผู้ใช้หลักเป็นนักลงทุนด้วยกันเอง และมีตัวกลางในการ Dematerialize เช่นเดียวกันกับ Primary Market
สำหรับตลาดนี้ เมื่อเปลี่ยนเป็น DLT แล้ว หน้าที่ของธุรกิจในปัจจุบันจะเปลี่ยนไปอย่างมากเช่นเดียวกัน
จากการที่ Broker เคยเป็นนายหน้าแต่เพียงผู้เดียวเนื่องจาก Exchange หรือ Market Place เคยเป็นตลาดปิด ได้กลายเป็นตลาดเปิด ทำให้นักลงทุนเข้าถึง Exchange ได้โดยตรง หน้าที่ของ Broker จากที่เคยเป็นผู้รับ Order เพื่อนำไปส่งโดยตรง จะมีหน้าที่เพิ่มขึ้นมาคือ
- Liquidity Consolidation จากการที่เป็นระบบเปิด ทำให้มีตลาดหลายตลาดเข้ามาเปิดแข่งขัน ทำให้เกิดปัญหาของ Liquidity มากน้อยตามแต่ละสภาพตลาด การรวม Liquidty ของหลายตลาดเข้าด้วยกัน ก็จะช่วยให้นักลงทุนซื้อขายได้ง่ายขึ้น
- Best Execution ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเห็นได้แล้วจากกฎหมายใน US ซึ่งหมายถึงการที่ Broker ช่วยให้นักลงทุนได้การซื้อขายที่ดีที่สุด เช่น การราคาที่ดีที่สุด ได้เร็วที่สุด หรือ ได้เข้าถึงตลาดที่น่าเชื่อถือที่สุด
การ Disrupt ของ Digital Asset Value Chain
แผนภาพของสไดลด์ข้างล่างช่วยให้เห็นภาพ Ecosystem และผลกระทบจาก Digital Asset ชัดขึ้นมาก ส่วนที่เป็นสีเขียวคือได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น ในขณะที่สีแดงคือต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อให้คงความสามารถในการแข่งขันกับตลาดใหม่