[Internship is coming]-ฝึกงาน Developer ที่ Foxbith กันดีกว่า!

Tam Atipat
FOXBITH
Published in
4 min readJan 16, 2022

ถึงเวลาฝึกงานแล้วว ช่วงเวลาของการฝึกงานมาถึงแล้วใช่ไหม? เราเองก็พึ่งผ่านช่วงเวลานั้นในฐานะ Intern ที่ Foxbith มาเหมือนกัน เพื่อนๆคนไหนที่ฝันอยากเป็น Dev แล้วกำลังตามหาที่ฝึกงานอยู่ ลองอ่านบทความนี้ได้เลยย

สวัสดีครับทุกคน:) ขอต้อนรับเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านนะครับ บทความนี้เป็นบทความแรกของเราเลย จะเป็นรีวิวการฝึกงานสหกิจระยะเวลา 6 เดือนของเราในตำแหน่ง
Front-end Developer
โดยเราจะเล่าตั้งแต่วันที่สมัครเลยนะ

👀 เริ่มที่ สมัคร และ สัมภาษณ์

ขอเล่าย้อนนิดนึง ตอนนั้นเราเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ของคณะวิศวกรรมสารสนเทศ (วิศวะ it) ที่กำลังตามหาที่ฝึกงาน+สหกิจ(2+4เดือน) ในตำแหน่ง Front-end โดยเราก็ตามหาเหมือนเพื่อนๆนั่นแหละทั้ง ฝึกที่ไหนดี ต้องเตรียมตัวอะไร ควรทำอะไรเป็น จนเรามาเจอบทความนี้ที่เป็นของพี่ที่ฝึกรุ่นแรก

[Internship at Foxbith] — จากคนไม่เคยเขียน Code สู่การเป็น Frontend Developer Internship ครั้งแรกในชีวิต

ซึ่งพอเราเข้าไปอ่านก็รู้สึกอยากฝึกงานที่นี่จึงทักเข้าไปถามที่ เพจ Foxbith ใน Facebook ปรากฎว่ารับสมัครพอดี(ดวงดีสุดๆ) เราจึงยื่น Resume ไปที่ทางบริษัท หลังจากนั้นไม่กี่วัน โทรศัพท์เราก็ดังขึ้นพร้อมกับการได้นัดวันสัมภาษณ์ ตอนนั้นรู้สึกดีใจแล้วก็ตื่นเต้นมากๆ โดยเรานัดหลังจากนั้น 2 วันเราก็เลยทำการเตรียมตัวสัมภาษณ์โดยการอ่านที่เราคิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการสัมภาษณ์เช่น CSS JS แล้วก็ React ที่เคยเรียนกับทำมา ซึ่งเราคิดว่าน่าจะทำให้เราพร้อมจะสัมภาษณ์ครั้งนี้

แล้วก็คิดในใจว่า “จะรอดไหมเนี่ย”

วันสัมภาษณ์มาถึงแล้วเป็น การสัมภาษณ์แบบ Online โดยคุยกับพี่ Developer ในบริษัทซึ่งการสัมภาษณ์ก็จะตาม Resume (Resume นี่สำคัญสุดๆเลยนะ) ที่เราเขียนเลย + mindsetของเรา + ความสนใจของเราเป็นหลัก ซึ่งการสัมภาษณ์ครั้งนี้เรารู้สึกประทับใจมากเพราะพี่ๆเป็นกันเองมากแล้วก็ดูใส่ใจเด็กที่สมัครอย่างเราจริงๆทำให้ช่วงเวลาการสัมภาษณ์นั้นเรารู้สึกโอเคมากๆ(แต่ก็ยังตื่นเต้นอยู่นะ) แล้วการสัมภาษณ์ก็จบลง

ซึ่งวันต่อมาบริษัทก็แจ้งมาว่า เราผ่านการสัมภาษณ์ได้ฝึกงาน Front-end แล้วว 😆

มาเตรียมตัวกันดีกว่า 😎📖

เพื่อนๆทุกคนน่าจะอยากรู้แล้วแหละว่าเป็น Front-end Intern เนี่ย ก่อนจะเข้าบริษัทต้องเตรียมตัวยังไงน่ะ?? อันนี้เป็นความคิดเห็นจากเราหลังจากได้เข้าไปฝึกงานนะคิดว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆนะครับ โดยเราจะขอเริ่มที่

  1. UI (User Interface) การเขียน UI เนี่ยคือสิ่งสำคัญของ Front-end เลยนะโดยเราจะพูดถึง CSS ละกัน “เพื่อนๆที่คิดว่าทำ UI ไม่ค่อยสวยหรือ CSS ไม่ค่อยถนัด ใจเยนๆน่อ เราคือเพื่อนกัน” สิ่งที่เราจะแนะนำมีแค่ 2 อย่างที่เรารู้สึกว่าถ้ารู้ก็ทำอะไรได้เยอะ คือ Flexbox และ Grid มันใช้บ่อยจริงๆนะ การเข้าใจ Concept ของสองอย่างนี้คือสำคัญเลย
  2. Javascript เป็นภาษาที่ใช้เขียน โดยเราจะแนะนำเป็นพวก Spread Operator, Arrow func, async await พวกนี้แล้วก็การจัดการ(เพิ่ม,ลบ,แทรก) array หรือ objectอาจจะมาในรูปแบบ [{}] หรือ {[]} แบบนี่ก็ได้ สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไรลองเริ่ม search ตามที่บอกเลยมันไม่ได้ยากอย่างที่คิดนะ
  3. React concept & useState /useEffect React เป็น lib ที่ทางบริษัทใช้น่ะ ถ้าเพื่อนๆทำสองข้อที่ผ่านมาได้แล้วการรู้เจ้าพวกนี้ไว้ก็เวรี่กู้ดเลย
  4. Git การใช้งาน Git เบื้องต้น เช่น git push, git pull, git commit, merge พวกนี้เนี่ยถ้าใช้เป็นก็ดีน่ะ เพราะว่า การทำงานเนี่ยเราทำเป็นทีมยังไงพวกคำสั่งพวกนี้ก็จะได้ใช้กันเป็นประจำเลย
React.js

ชีวิต Intern @ Foxbith

First Step @ Foxbith HQ

วันแรกมาถึง

ช่วงเช้าเวลา 9.30 (ที่นี่เข้างานตอนนี้น่ะ) วันที่เราเข้าบริษัท Foxbith ครั้งแรก ทางบริษัทจะมีการ Orientation ก่อนเลยว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทอะไร Vision ของบริษัทเป็นยังไง โครงสร้างการทำงาน น้องๆฝึกงานจะได้ทำอะไรบ้าง แล้วก็ทำความรู้จักพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคนในบริษัท หลังจากนั้นก็เริ่มทำการ Setup Stack ต่างๆที่เราจะใช้กัน โดยจะใช้ Slack, Jira ในการพูดคุยอัพเดทงานต่างๆภายในบริษัทครับ ส่วนสำหรับ
Front-end อ่านกันต่อได้เลย

Stand up meeting

เช้าวันที่สองแล้ว เราจะเริ่มต้นด้วยการ Stand up meeting กันครับ ในทุกๆเช้าเราจะมีการ Stand up นั่นก็คือการอัพเดทงานว่าเมื่อวานเราทำอะไรบ้าง มีติดปัญหาตรงไหนหรือเปล่า แล้ววันนี้จะทำอะไรต่อ เพราะว่าเราทำงานกันเป็นทีมการอัพเดทเนี่ยคือเรื่องสำคัญเลยครับ

เปิด Sprint

เราขออธิบายก่อน การทำงานที่บริษัทนี้เราจะทำงานกันเป็น Sprint ซึ่งระยะเวลาใน 1 Sprint เนี่ยจะประมาณ 2 อาทิตย์ โดยเราจะได้รับการ์ดใน Jira ว่าเราต้องทำอะไรบ้างซึ่งการด์แรกที่เราได้ทำนั้นก็คือ…

โปรเจคซ้อมมือ

การ์ดแรกของเรา งานนี้คืองานแรกของเราที่พี่ๆในบริษัทให้มา งานที่เราได้เป็นลักษณะเหมือน Test หน่อยๆ เป็นการเช็คความเข้าใจในการเขียนโค้ดต่างๆที่เราจะใช้ในการทำงานแล้วก็หัดใช้ Tool ด้วย โดยลักษณะของ Test นี้คือการสร้าง Form ขึ้นมา(คล้ายๆ Google Form) จะมี Function การทำงาน และ Design ตามที่กำหนดไว้ให้ เราจะต้องเขียนด้วย React คู่กับ Mui (Material-UI) ซึ่งเป็น lib ที่ทางบริษัทใช้ในการพัฒนา งานนี้พี่ๆไม่ได้กำหนดเวลาให้เพราะเป็นงานแรกที่เราได้ทำและให้อิสระเราในการทำเต็มที่(พี่ๆเค้าคอยไกด์ให้นะ) เราก็เลยลงมือทำโดยใช้เวลาประมาณ 5 วันในการทำเลย เริ่มจากการเขียน UI ก่อนเลยเราจะต้องสร้าง UI ให้เมือนกับ Design ใน Figma เป๊ะๆ แล้วก็ใช้ logic ในการ Handle Function ต่างๆ ซึ่งเราขอบอกเลยว่าแบบทดสอบนี้คือพื้นฐานที่เราจะใช้ในการทำงานตัวต่อไปของบริษัทเลยแหละ

ถึงเวลาโปรเจคแรกแล้วว

หลังจากจบการซ้อมมือไปเราก็จะได้ทำงานแรกเลย โดยงานที่เราจะได้ทำงานแรกเป็น Product ตัวนึงที่ใช้ในบริษัท ซึ่งเราจะได้ทำร่วมกับพี่คนนึง และ เพื่อนๆฝึกงาน(ทั้ง Dev และก็ Designer)

เพื่อนเราเขียน รีวิวด้วยนะ ฝึกงาน Frontend Developer 6 เดือนที่ FOXBITH กับประสบการณ์ที่ไม่ใช่เเค่ Little Bit ตามอ่านกันได้น่อ

มาเริ่มกันเลย git clone
Clone โปรเจคมาแล้ว เราก็ได้พบกับงานจริงๆครั้งแรก เราพึ่งเคยจับโปรเจคที่ใหญ่ขนาดนี้มีอะไรที่ไม่เคยใช้เยอะแยะไปหมด เช่น React Hook, Redux, lodash, Firebase โดย การ์ดที่เราได้ทำก็จะเป็นการพัฒนาต่อจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว เช่น เพิ่ม Feature ที่สามารถใช้งานได้ตามความต้องการของบริษัท หรือ จะเป็นการปรับ UI ตามที่ Designer ออกแบบมาครับ

Please review my code

สิ่งที่เราจะได้ทำหลังจากเขียนโค้ดไปแล้วประมาณนึงนั่นก็คือการให้พี่ๆ
Review Code ให้ครับ เพราะว่าเราทำงานกันเป็นทีม โค้ดที่เขียนเป็นตัวเดียวกันเพื่อนๆพี่ๆอาจจะต้องนำไปทำต่อหรืออาจจะนำไปใช้จริงเลยก็ได้ ทำให้จะต้องมีการ Review Code ก่อนครับว่าโค้ดที่เราเขียนมีความเรียบร้อยและมีคุณภาพพอที่จะใช้งานได้ ถ้าหากผ่านก็จะถูก Merge โค้ดเข้าตัว Project หลักให้คนอื่นสามารถไปใช้งานต่อได้ครับ

ย้ายทีมสู่โปรเจคใหม่

การผ่านโปรเจคแรกไป ทำให้เหล่าน้องๆฝึกงานนั้นแข็งแกร่งขึ้นและพอเข้าใจการทำงานผ่านโปรเจคแรกมาแล้ว เพราะฉนั้นเหล่าน้องฝึกงานจึงได้ย้ายทีมมาสู่โปรเจคใหม่ โดยโปรเจคนี้เป็น Web application ภายในองค์กรของลูกค้าบริษัทหนึ่ง ซึ่งมีความซับซ้อนและยากที่กว่าโปรเจคที่ผ่านมามากๆ งานที่เราได้ทำนั้นก็จะเป็น Feature ภายใน และ ทำ Component (UI ที่สามารถนำไปใช้ได้หลายๆครั้ง)โดยจะได้ใช้ storybook ในการทำ component เพื่อให้ให้พี่ๆในทีมสามารถนำไปใช้งานได้ครับ พอโปรเจคใหญ่ขึ้นเราก็จะได้รู้จักกับ

Grooming

ก่อนที่เราจะทำงานในแต่ละ Sprint เนี่ย จะมีการ Grooming กันก่อนซึ่งก็คือการประชุมทำความเข้าใจ Feature ที่กำลังจะทำใน Sprint นี้ครับเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาในการระดมความคิด Brainstorm กันสุดๆ เพื่อให้ลูกค้านั้นได้ Product ที่ดีที่สุด

Case bug และ Improvement

สิ่งที่เราจะได้รู้จักเลยก็คือสิ่งที่เรียกว่า Case bug และ Improvement ครับ สองสิ่งที่ทำให้เรารู้จักการแก้ปัญหามากขึ้น เราจะได้เจอกับการ Test ระบบของ QA ที่จะคอยเช็คว่าสิ่งที่เราทำเนี่ยมันทำงานถูกต้องหรือเปล่า หรือ มีจุดไหนที่ปรับแล้วมันดีขึ้น เราก็จะต้องจัดการให้เรียบร้อยตามที่ QA ต้องการครับ

การทำงานในโปรเจคนี้ เรียกได้ว่าเจออะไรใหม่ๆและ Challenge ในทุกๆ Sprint
มีการ Test ที่เข้มข้น แอบได้เรียนรู้ Business ด้วยแหละ และ ได้เห็นการทำงานสุดเดือดของพี่ๆในทีมทุกคนกันเลยครับ

Sprint Demo & Retrospective

หลังจากเราทำงานจบหนึ่ง Sprint แล้ว ก็จะมีการ

Sprint Demo นั่นก็คือการนำเสนอสิ่งที่เราทำมาตลอด 2 อาทิตย์ที่ผ่านมารวมทั้งลองทดสอบให้พี่ๆในทีมดูด้วยว่ามีจุดไหนที่ควรเพิ่มหรือแก้ไขอะไรหรือเปล่า นอกจากนี้ยังมีการแชร์ความรู้ใหม่ๆจากฝั่ง Developer และ Designer ด้วยนะ

Retrospective ซึ่งจะทำทุกครั้งหลังจบ Sprint เพื่อให้ทุกคนในทีมช่วยกันคิดว่าการทำงานใน Sprint ที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง โดยสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มุมมอง หรือแม้กระทั้งปัญหาที่ทีมจะสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ครับ

Sprint Demo อัพเดทผลงาน Sprint นี้กันสักหน่อย

พักผ่อนกันบ้าง 🚶‍♂️🏃‍♂️

Work hard, Play harder นอกจากการทำงานก็มีกิจกรรมมากมายที่น้องๆฝึกงานจะได้ร่วมด้วยนะ เริ่มที่

ตีแบตกันดีกว่า ในทุกๆอาทิตย์ที่นี่จะมี Event การตีแบต เพื่อให้ทุกคนได้ผ่อนคลายและได้สุขภาพที่ดีแบบ 200% (รู้สึกได้เลยว่าแข็งแรงขึ้น)

เปลี่ยนชุดแล้วลงสนามกันแบบ Pro player

Free meal & Snack bar เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ชอบเลย ในทุกอาทิตย์พี่ๆ Co-Founder จะเลี้ยงข้าวน้องๆทุกคนครับ เนื่องจากเราอยู่กันที่ทองหล่อบอกได้เลยว่าแต่ละร้านนี่จัดเต็มสุดๆ ในแต่ละวันเนี่ยเราสามารถเดินไปหยิบขนมที่ Snack bar มาทานได้เลย ถ้ากลัวง่วงก็สามารถชงกาแฟดื่มเองได้ด้วย ที่ Snack bar มีไว้ให้หมดแล้ว

Free meal แบบจัดเต็ม ที่ Nam Nam

Friday Saying สุดยอดกิจกรรมแห่งความรู้และความสนุกในทุกเดือนจะมีกิจกรรมที่เรียกว่า Friday Saying ในช่วงเย็นของวันศุกร์ ในแต่ละครั้งเราจะได้ฟังเรื่องราวและการนำเสนอที่น่าสนใจของพี่ๆเพื่อนๆแต่ละคน จะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ เช่น หนังสือ แนวคิด เทคโนโลยี บันเทิงใดๆก็ได้ที่ไม่เกี่ยวกับงาน (น้องฝึกงานก็ได้เป็นคนเล่าเหมือนกันนะ)

สื่งที่ได้รับจากการฝึกงาน

รู้จักกระบวนการทำงาน
สิ่งที่เราได้ทำจากการฝึกที่นี่ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่เราไม่เคยพบเจอทั้งนั้น ทุกๆอย่างนั้นเป็นระบบ มีการวางแผน มีขั้นตอนต่างๆ ที่จะทำให้ตัวงานมีประสิทธิภาพ โดยเราจะได้อยู่ในทุก Flow การทำงานเลย

พัฒนาตนเอง
อันนี้เห็นได้ชัดเลยเราลองวัดด้วยการกลับไปดูสิ่งต่างๆที่ทำมาตลอดการฝึกงานรู้สึกได้ว่าเก่งขึ้นมากๆ ทั้งเรื่องการเขียนโค้ดที่ได้ใช้ Stack ที่ใช้ทำงานจริง หรือ จะเป็นเรื่อง Design ด้วยความที่เราไม่ค่อยเก่งเรื่องนี้แต่พอได้ทำงานหลายๆ Sprint ได้รับ comment ต่างๆจากพี่ๆในทีมก็มีความเข้าใจมากขึ้นเยอะเลย

กล้าสร้างสรรค์และแก้ปัญหา
ที่นี่ให้อิสระเราในการทำงานเต็มที่เรียกได้ว่าไว้ใจในตัวน้องๆฝึกงานเสมอ นี่คือสิ่งที่ทำให้เรากล้าที่จะทำอะไรมากมาย เราสามารถที่จะลองทำในส่วนต่างๆจะดีหรือไม่ก็ค่อยปรับกันไป ปัญหาที่ได้เจอก็จะเป็นประสบการณ์ของเรา พี่ๆทุกคนจะสอนเราให้หาสาเหตุของปัญหาต่างๆก่อนหาคำตอบเสมอ
ลอง Challenge ตัวเองดูก่อน แล้วเราจะเก่งขึ้น”

รู้จักการประเมินและจัดการเวลา
เมื่อผ่านมาช่วงหนึ่งเราก็สามารถที่จะเขียนโค้ดเองได้ ทำงานได้ สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาก็คือระยะเวลาในการทำ เราทำได้ก็จริงแต่ใช้เวลาในการทำสิ่งนี้นานเกินไปหรือเปล่า เพราะหลายครั้ง Feature ที่เราทำพี่ๆเพื่อนๆก็ต้องนำไปใช้งานเหมือนกัน การที่เราสามารถที่จะประเมินตัวเองว่าใช้เวลาในการทำเท่าไหร่ก็เป็นสิ่งสำคัญเหมือนกัน ถ้าเรารู้ระยะเวลาของตัวเองทีมก็จะสามารถวางแผนทำงานได้ง่ายขึ้น

การทำงานเป็นทีม
การทำงานเป็นทีมนี่เป็นหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการทำงานทุกอย่างเลยครับ เราทุกคนต่างมีความถนัดที่ต่างกันเมื่อมารวมกันจะเป็นอะไรที่ทรงพลังมาก เราเองได้เรียนรู้สิ่งนี้มาตั้งแต่วันแรกๆเลย การทำงานกันเป็นทีมทำให้ทุกคนเก่งขึ้นในหลายๆด้าน และ ทำให้งานมีคุณภาพสูงสุดด้วยครับ

การได้รู้จักทุกคนในบริษัท
จากที่เราฝึกงานอยู่ที่นี่มาตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย เพื่อนๆพี่ๆทุกคนใจดีและน่ารักกับเราเสมอ เรารู้สึกแฮปปี้และสนุกตลอดเวลาที่ได้คุยกับทุกคนที่นี่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามทุกคนน่ารักจริงๆครับ เรียกได้ว่าเราได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีมากเลย ขอบคุณพี่ๆที่น่ารักทุกคนที่ดูแลแล้วก็สอนทุกๆอย่างเลยครับ :)

Foxbith Xmas Party 2021 🤗🤗

ช่วงสุดท้าย Internship is coming!

ระยะเวลา 6 เดือนนี่มันช่างผ่านไปไวจริงๆครับ การฝึกงานที่นี่ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจริงๆ เป็นการทำให้เรารู้ว่าเราอยากทำงานในสายนี้จริงๆหรือเปล่า หลายๆคนอาจจะได้เจอสิ่งที่อยากทำจริงๆในตอนฝึกงานก็ได้นะครับ เพราะฉนั้นสำหรับเพื่อนๆที่สนใจที่จะฝึกงานสาย Tech ไม่ว่าจะเป็น

  • Front-end Developer
  • Back-end Developer
  • Mobile Developer
  • QA Tester
  • UX/UI Designer
  • Data Analytics

เตรียมตัวรอกันได้เลย พี่ๆทุกคนรอเจอเพื่อนๆอยู่นะ โดยสามารถติดตามได้ที่

https://www.facebook.com/foxbith.th

https://www.instagram.com/foxbith

จบลงไปแล้วสำหรับรีวิวฝึกงาน Front-end ของเรา ขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจบทความนี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะครับ
สวัสดีครับ 😊

--

--