Future Skill 2030 กับ แบงก์ Director of People ที่งาน 88 Sandbox!

Globish Workspace
GLOBISH WORKSPACE
Published in
2 min readAug 29, 2023

ในยุค 2023 ที่งานหายากสุด ๆ เพราะการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้นในหมู่คนจบการศึกษาใหม่และคนที่มีประสบการณ์ก็ต้องการเปลี่ยนงาน ทุกบริษัทก็ต้องการคนเก่งเข้าไปเสริมทัพของตัวเองจนเกิดเป็น Talent War

ทีม 88 Sandbox จึงได้จัดงาน Hack The Job 2030 ในวันที่ 27 เมษายน 2566 ที่อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เพื่อเป็นจุดนัดพบสำหรับน้อง ๆ ที่กำลังจะจบการศึกษากับบริษัทชั้นนำของประเทศไทย รวมถึงการให้ความรู้เรื่องสกิลเพื่อเตรียมพร้อมทุกคนสำหรับอนาคตอีกด้วย ซึ่งทาง Globish ได้รับคำเชิญให้ไปร่วมงานและเป็นวิทยากรประจำ Session: Future Skill 2030 ด้วย

แบงก์ — วินธวินด์ คำภีร์ Director of People ตัวแทน Speaker จาก Globish ในงาน 88 STARTUP JOBS FAIR For All

วันนี้ Globish Workspace จะพาทุกคนมา Recap งานนี้ไปพร้อม ๆ กัน แล้วก็มาเล่าให้กับเพื่อน ๆ ที่พลาดงานนี้ได้ฟังด้วยว่าใน Session: Future Skill 2030 นี้มีประเด็นที่น่าสนใจยังไงบ้าง ในงานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ Sessions ต่าง ๆ ที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ยังมี Job Fair ที่ให้น้อง ๆ จากธรรมศาสตร์ได้ทำความรู้จักกับหลากหลายบริษัทหลากหลายสายงานมากขึ้น จะได้มาแลกเปลี่ยน Insight เกี่ยวกับการทำงานในปี 2023 แล้วก็มี Future Workshops ที่มา Upskill ให้กับทุกคนอีกด้วย

ใน Session: Future Skill 2030 เรานั้นได้พูดถึงเรื่องของทักษะที่จำเป็นในอนาคตกับ Speaker 4 ท่านจากหลากหลายบทบาท ประกอบด้วยพี่ไต๋ — สุธัช เรืองสุทธิภาพ CEO จาก เงินเทอร์โบ, พี่แชมป์ — อานันท์ บัวแสงธรรม Head of Business Intelligence จาก Lazada Thailand, พี่เอิ๊ด — อานันท์ กุลปิยะวาจา Head of Learning Designer จาก BASE Playhouse ซึ่งในคราวนี้ตัวแทนหมู่บ้านของพวกเราจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก แบงก์ — วินธวินด์ คำภีร์ Director of People จาก Globish ของเรานั่นเอง ซึ่ง Globish Workspace ก็ได้สรุปใจความสำคัญมาให้ผู้อ่านทุกคนแล้วด้วย

ตั้งแต่อดีตมาจนถึงตอนนี้ คำว่า “Talent” เปลี่ยนไปมากน้อยแต่ไหน ยังไงบ้าง?

เหล่า Speaker ทุกคนให้ความเห็นตรงกันเลยว่า คำว่า Talent เปลี่ยนไปมากเลยทีเดียวถ้าเทียบกับเมื่อสมัย 10–20 ปีก่อน

  • สิ่งแรกที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือเรื่อง Technology เมื่อก่อนหากมีคนบอกว่าใช้คอมพิวเตอร์ไม่เก่ง ก็อาจจะไม่ได้แปลกอะไรมาก แต่ตอนนี้การใช้ Technology เป็นสิ่งที่สำคัญ ยกตัวอย่างเช่น ปัจจุบัน Skill การใช้ Microsoft Office ใน Resume เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีทุกคนอยู่แล้ว เพราะงั้น Talent ทุกคนควรจะใช้ Technology ได้หลากหลายมากขึ้น เช่น พื้นฐาน Software ประเภทอื่น ๆ หรือการ Coding พื้นฐาน
  • อีกส่วนนึงที่เปลี่ยนไปคือ ยุคนี้มีมนุษย์เป็ดเยอะขึ้นมาก ๆ จากเมื่อก่อน Talent มักจะเป็นกลุ่มคนที่เชี่ยวชาญด้านไหนด้านหนึ่งเป็นพิเศษ แล้วก็มี Soft Skill อย่างพวก Analytical Skills, Systematic Thinking แต่ตอนนี้ทุกที่เริ่มให้ความสำคัญกับคนที่มีความรู้หลายด้าน (แบบรู้จริง) มากกว่าเพียงความเชี่ยวชาญทางเรื่องไหนเรื่องเดียวแล้ว เพราะคนเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเรียนรู้และปรับตัวในยุคสมัยที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วได้อย่างดีอีกด้วย

ในตอนนี้บริษัทต่าง ๆ กำลังมองหา Talent แบบไหนไปร่วมทีม?

Speaker ทุกท่านได้ให้ข้อคิดว่า บริษัทต่าง ๆ กำลังมองหาคนที่มี — Passion และ Value ตรงกับองค์กร เพราะการที่ได้คนที่มี Value ตรงกัน มี Mindset และ Attitude สอดคล้องกับทิศทางของบริษัท ย่อมเป็นสิ่งที่ทำให้เราโดดเด่นจาก Talent คนอื่น ๆ

แต่อีกสิ่งที่จำเป็นไม่แพ้กันในตอนนี้ก็คือเรื่อง — Adaptability เพราะหลังจากยุค COVID-19 มันเกิด Talent War เกิด The Great Resignation มี Quite Quitting และอะไรอีกมากมายในชีวิตการทำงานของเราเต็มไปหมด ทักษะเรื่องการปรับตัว และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลาในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่ทำให้คุณไม่แพ้ใครแน่นอน

เราควรเตรียมตัวยังไงในยุคที่ AI เก่งขนาดนี้เพื่อให้อยู่รอดในตลาดแรงงานในอนาคต?

ตัวผู้เขียนเองในฐานะผู้ฟังในงานวันนั้น ชอบมุมมองของ Speaker ทุกท่านมาก — ทุกคนมองว่าเราไม่ได้กำลังแข่งอยู่กับ AI แต่กำลังแข่งขันกับคนที่ใช้ AI เป็น เราควรเปลี่ยนความกลัวของเราว่าจะถูก AI แย่งงาน เพื่อเอามาผลักดันตัวเอง ปรับตัวเพื่อเรียนรู้ว่าจะใช้ AI มาช่วยในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นและง่ายขึ้นได้ยังไง ให้สามารถใช้ประโยชน์จากมันให้เต็มที่ดีกว่า สุดท้ายแล้วถ้าหากเราสามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้ได้คล่อง เราก็ไม่ต้องกลัวจะถูกแทนที่ด้วย AI เลย

ในอนาคตข้างหน้า หน้าตาของคำว่า Talent จะเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง?

เหล่า Speaker ได้สรุปออกมาเป็นใจความหลักว่าสิ่งนึงที่ Talent ในอนาคตควรจะมีนั่นก็คือการที่เราอยากจะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ถ้าเรามีพยายามที่จะรู้ว่าสิ่งไหนที่เราไม่รู้อยู่ตลอดจะทำให้เราพร้อมรับมือและลับคมอาวุธของเราให้พร้อมอยู่เสมอ ๆ และไม่ต้องกลัวที่จะตกยุค

หนึ่ง Key Takeaway หลักที่ผมชอบมากก็คือ สุดท้ายแบงก์ได้ทิ้งท้ายข้อคิดไว้ว่า “ในตอนนี้ เมื่อพูดถึง Talent พวกเราจะพูดถึง Business จะพูดถึงมุมมองทางธุรกิจอย่างเดียวเป็นส่วนใหญ่ ทุกคนกำลังมองหาโอกาสในการสร้างหรือพัฒนาธุรกิจเพื่อให้เติบโตอย่างยั่งยืนมากที่สุด แต่ในอนาคต เราจะอยากเห็น Talent ที่สามารถ Connect The Dot ระหว่าง ธุรกิจสังคม และ โลกใบนี้ ได้”

ผมรู้สึกเห็นด้วยเหมือนกันว่าในอนาคตทักษะที่ Talent ควรมีจะไม่ใช่เพียงแค่ความชำนาญทางธุรกิจ ที่สนใจแค่เรื่องกำไรขาดทุนอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังต้องรวมถึงการเข้าใจภาพรวมของสังคมและโลกรอบตัวด้วย เพื่อสร้างคุณค่าเชิงสังคมและส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงที่กว้างขึ้นให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นอีกด้วย

ติดตามพวกเราและคอยดูว่าครั้งหน้าจะไปเจอกับพวกเราได้ที่ไหนที่ Facebook​ | Globish Workspace ส่วนคนไหนมีคำถามอยากสอบถามเกี่ยวกับ Globish ก็สามารถ Inbox มาคุยกับพวกเราได้เสมอ และสมัครงานมาร่วมทีมกับเราได้ที่ career.globish.co.th ได้เลยครับ

--

--