Globish Social Project : อาเซียนรวมใจกับตากใบ นราธิวาส

Ponkrit Kampee
GLOBISH WORKSPACE
Published in
3 min readMay 6, 2020

Globish Academia คือ StartUp ด้านการศึกษาที่มีเป้าหมายสูงสุดคือพัฒนาสังคมไทย แต่นอกจากการขายคอร์สเรียนภาษาอังกฤษให้เด็ก วัยทำงาน หรือองค์กรใหญ่ๆแล้ว พวกเราทำอะไรอีกเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมไทย วันนี้พวกเราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 1 ใน 5 Social Project ที่พวกเรากำลังทำกันอยู่ ที่สุดด้ามขวานประเทศไทย อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส

ตากใบ จ.นราธิวาส โลเคชั่นที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยจากข่าวเหตุการณ์ไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2540 และนับเป็นพื้นที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ชื่อเสียงและภาพจำที่ไม่เคยถูกลบไปจากอดีตทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นเสมือนเมืองแห่งความลับที่ผู้คนได้ยินเพียงแค่เรื่องเล่ามากกว่าการเข้าไปสัมผัสจริงด้วยตนเอง นี่เป็นครั้งที่ 2 ของ Globish ที่ลงมาทำ English Camp ให้เด็กๆระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนอนุบาลบ้านสมถวิล หลังจากพวกเขาเรียนในคลาสเรียนออนไลน์ของเรามาแล้วจนจบหลักสูตร การลงพื้นที่ครั้งนี้จึงเป็นเหมือนทั้งการจัดค่ายและการวัดผลลัพธ์หลังเรียนในเวลาเดียวกัน

เด็ก ๆ จอมพลังทั้งหลาย พลังเยอะมากกกกกก ท่าไม้ตายคือการวิ่งเข้ามารุมกอดพี่ ๆ
“ปกติจาจะมีหน้าที่ในการช่วยเหลือนักเรียนระหว่างคลาส การทำกิจกรรมร่วมกับน้อง ๆ ได้เห็นน้องสนุก มันทำให้เราสนุกมากกว่า รู้สึกมีพลังใจอยากช่วยนักเรียน Globish ให้เรียนอย่างมีความสุขไปเรื่อย ๆ” — จา Student Support

.
การลงพื้นที่ครั้งนี้มีผู้ผ่านการคัดเลือกทั้งหมด 7 คน จาก 7 ฝ่ายของบริษัท พวกเราเตรียมตัวกว่า 3 สัปดาห์เพราะธีมของค่ายครั้งนี้คือ ASEAN พวกเราต้องขุนความรู้และเตรียม session ให้ตรงกับผลลัพธ์ที่เราอยากให้น้องๆได้ และต้องใช้เวลาพอสมควรในการเกลี้ยกล่อมคุณพ่อคุณแม่ในการลงทริปไปยังพื้นที่สีแดงสุดด้ามขวานประเทศไทยแห่งนี้ ก่อนเดินทางพวกเราตื่นเต้นมากเพราะไม่รู้เลยว่าจะเจอกับอะไรบ้าง จะเหมือนในข่าวไหม ผู้คนจะเป็นไง ต้องระวังตัวแค่ไหน คิดไปต่างๆนานา แต่เพียงแค่ได้เดินเข้าสนามบินนราธิวาส เจอรอยยิ้มและการต้อนรับของพี่ๆทหาร ชาวบ้าน และคณะครูที่โรงเรียน แค่นี้ก็รู้แล้วว่า 5 วันที่ตากใบต้องเป็น 5 วันที่สนุกแน่นอน
.

น้องๆเดินแถวมาทักทาย

โรงเรียนอนุบาลบ้านสมถวิล คือโรงเรียนที่พวกเราเลือกที่จะทำ Social Project ด้วยผ่านการติดต่อเข้ามาจากทางผู้อำนวยการ ที่อยากแก้ไขปัญหาว่าอยากให้นักเรียนได้เจอกับชาวต่างชาติ เพราะที่ตากใบนั้นแทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวเลย เด็กๆที่นี่น่ารักและพลังเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คุณครูบอกว่าน้องๆตื่นเต้นมาก เพราะนอกจาก Globish แล้วไม่มีใครเคยเข้ามา หรือมาทำค่ายให้น้องๆเลย น้องๆเลยปล่อยพลังเต็มที่ ทำเอาเสียงแหบทุกวันหลังจบค่าย เด็กๆที่นี่ค่อนข้างกล้าพูด กล้าแสดงออก (แต่ตอบถูกไหมอีกเรื่อง ฮ่าๆ) แต่สำหรับพวกเราแล้วนั้น การที่เด็กอายุ 6–7 ขวบ กล้ายกมือแสดงความคิดเห็นต่อหน้าคน 70 คน แค่นี้ก็เก่งมากแล้ว ความน่ารักของเด็กไม่ได้มีเพียงแค่นี้ พวกเราบังเอิญไปทานอาหารโดยที่เป็นร้านของน้องคนหนึ่งในค่าย พอน้องวิ่งมาหาพวกเรา คุณแม่ของน้องก็มาขอบคุณและให้ขนมกับพวกเรา จริงๆไม่ใช่แค่เคสน้องคนนี้ ระหว่าง 5 วันที่อยู่ที่นั่นพวกเราได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นมาก มากจนพวกเราคุยกันว่าถ้ากลับไปจะไปบอกต่อเพื่อนทุกคนเลยว่าตากใบน่าอยู่ขนาดไหน และนี่คือสถานที่หนึ่งในโลกใบนี้ที่ผู้คนเป็นมิตร และมีน้ำใจมากสำหรับพวกเรา หากมีใครในตากใบที่พวกเราเจอระหว่างทาง และกำลังอ่านโพสต์นี้อยู่ พวกเราขอบคุณทุกการต้อนรับ และการช่วยเหลือ พวกเราจะกลับไปเยี่ยมทุกคนอีกแน่นอน
.

พี่ๆพยายามย้อนวัยเด็ก แม้จะเหนื่อยกับการแก้ session ทุกคืนจนดึกเพราะน้องๆเก่งมากแต่เราก็สู้
“ตากใบเป็นเมืองที่น่าอยู่มาก จากที่จะไปมอบความสุขให้เด็กๆ กลับกลายเป็นเราก็ได้รับความสุขกลับมาเต็มเปี่ยมด้วยเช่นกัน” — จอย Account Executive
“ถ้าวันไหนหมดแรง ก็แค่นึกถึงรอยยิ้มเล็ก ๆ ของเด็ก ๆ ที่ตากใบ แค่นี้หัวใจก็เหมือนได้ชาร์จพลัง แต่ถ้าชาร์จบ่อยไป แบตอาจจะเสื่อมได้” — ละอองดาว Educational Consultant for Kids

5 วันผ่านไปไวเหมือนแค่ 2 วัน แม้ทุกวันจะจบด้วยความเหนื่อย เสียงแหบ แต่ทุกนาทีมีแต่ความสุข เราสนุกที่ได้ออกมาจากออฟฟิศ มาสัมผัสด้วยตนเองจริงๆว่าทุกวันที่เราทำงานอยู่ออฟฟิศ กำลังมีเด็กพัฒนาจากสิ่งที่เราทำเต็มๆ เราดีใจที่ได้มาเห็นและสัมผัสด้วยตนเองว่าบริษัทที่เราทำงานอยู่นั้น กำลังเปลี่ยนแปลงสังคมจริงๆไม่ใช่เพียงแค่การจัดค่ายหรือการลงมาถ่ายรูป เมื่อวันสุดท้ายที่ต้องทำค่ายมาถึง สิ่งที่อยู่ในใจพวกเรา 7 คน คือคำว่า “ไม่อยากกลับ” ทั้งความน่ารักของเด็ก คุณครู ชาวบ้านที่นี่ และบรรยากาศโดยรวมของตากใบ ประกอบกับได้มากับเพื่อนนอกฝ่ายที่เข้ากันได้ดีมาก ทริปนี้จึงเป็นเหมือนทริปชาร์ตพลังชีวิตให้พวกเรา
.

นราธิวาสครั้งแรก ตื่นเต้นทุกอย่างตั้งแต่มายันกลับ เพื่อน ๆ น่ารัก น้อง ๆ เก่งและส่งพลังให้ล้นเต็มเปี่ยม พี่พร้อมกลับไปสู้กับงานมาก” — เมย์ Telesales
“5 วันอาจดูสั้น แต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ คือขุมพลังที่ทำให้เรารู้จักกับคำว่าการให้ และอยากให้ต่อไปไม่รู้จบ” — เพชร Engineer

ตอนพวกเราอยู่ปี 4 ก่อนจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยพวกเราเคยคิดว่า อยากทำงานในบริษัทที่ได้พัฒนาตนเอง พัฒนาสังคมไทย และมีเพื่อนร่วมงานที่เป็นเหมือนเพื่อนในชีวิตจริง ไม่อยากตื่นเช้า ไม่อยากตอกบัตร ไม่อยากทนรถติด อยากให้ทุกวันที่เราทำงานคือทุกวันที่เปลี่ยนสังคมไทย ตอนนั้นก็คิดว่านี่เป็นข้อแม้ที่เยอะไปไหม แต่พอมาถึงวันนี้ วันที่ได้ก้าวหน้าในการงาน ด้วยสภาพแวดล้อมที่มีแต่คนเก่งและดี ได้ลงมาสัมผัสด้วยตาและมือตนเองว่า social project มันมีจริงๆ มันไม่ใช่แค่การถ่ายรูป หรือทำปีละ 2–3 วัน แต่ที่นี่คือเดือนละ 1–3 โปรเจกต์ ก็คิดว่าพวกเราโชคดีที่ได้มาเจอกัน โชคดีที่ได้รับเลือกให้มาใช้ชีวิตร่วมกัน และกลับไปเป็นเพื่อนที่สนิทกว่าเดิมมากๆ และเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมประเทศไทยต้องมี Globish
.

“ทีมนี้เป็น Facilitators ที่เก่งกันมาก พี่ ๆ พลังเยอะ น้อง ๆ ก็พลังเยอะ การเห็นเด็ก ๆ ตากใบกล้าพูดภาษาอังกฤษ ทำให้เชื่อจริง ๆ ว่า Globish ไม่ทิ้งคนที่ตั้งใจไว้ข้างหลัง” — ปิ้ว Social Engagement
“ได้รู้ว่าทุกวันที่เราทำงาน ทุกมีตติ้งที่เราหมดไป คือทุกวันที่ประเทศพัฒนา คือแฮปปี้นะ แต่ก็จะไม่หยุด อยากช่วยอีก ยังมีอีกหลายคนรอ Globish อยู่” — แบงก์ Globish Kids

หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่านี่คือ vibe ของบริษัทที่คุณอยากร่วมงานด้วย ส่ง CV มาเลยที่ career@globish.co.th แล้วมาเปลี่ยนแปลงสังคมไทยไปด้วยกัน

เดี๋ยวพี่ ๆ กลับมาหาใหม่นะ
ขอบคุณเด็ก ๆ ก๊ะทั้งหลาย ข้าวต้ม กาแฟ โรตี นั่งเบียดกันบนรถ เพลง ASEAN การทำค่าย ร้านนวด สายบุรี โรงแรมที่น้ำไหลช้า ระบำสิงคโปร์ กะเพราเนื้อสับ กือโป๊ะ ปัตตานี หมวกบัง แกงปลา ตาบา ตากใบ ที่ทำให้พวกเรามีความทรงจำที่ดีและกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน

--

--