The 21st Century Skills Camp at Tak Bai
หวัดดีค่า เราเนิร์ส เป็น Senior Educator ค่ะ เราทำงานที่ Globish มา 5 ปีแล้ว หน้าที่หลัก ๆ ของเรา ก็คือการออกแบบและสร้าง Curriculum ต่าง ๆ ของ Globish Kids ที่นักเรียนทุกคนได้เรียนกันนั่นเอง
เมื่อ 4 ปีที่แล้วเราได้สมัครเข้าร่วม Social Project ที่อำเภอตากใบ แต่เพราะ Covid-19 บวกกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่นั่น เราจึงต้องเปลี่ยนรูปแบบการสอนเป็น Class ออนไลน์เป็นเวลา 3 เดือนแทน แต่หลังจากนั้นเราก็มีการ Keep in Touch กับโรงเรียนอยู่เรื่อย ๆ จนเมื่อเหตุความไม่สงบซาลง เราจึงได้มีโอกาสเดินทางลงไปเจอน้อง ๆ ที่โรงเรียนอนุบาลบ้านสมถวิลกัน
ก่อนที่จะถึงวันเดินทางไปลงพื้นที่ 1 อาทิตย์ บอกตรง ๆ เลยว่างานเยอะมาก เราแอบกังวลเหมือนกันว่าเราจะไปสอนน้องได้ดีหรือเปล่า พวกเราเตรียมการสอนโดยใช้ หลักสูตรที่อิงมาจาก Course ของ Globish Kids ที่ยึด The 21st Century Skills มาประยุกต์สอนน้อง ๆ ด้วยความที่ Volunteer ครั้งนี้เป็น Globies ที่มาจากหลาย ๆ ทีม มันก็จะมีไอเดียหรือความคิดที่ค่อนข้างแตกต่างกันไป ทำให้กิจกรรมต่าง ๆ ที่เราออกแบบมาให้น้อง ๆ เล่นมีความหลากหลาย ซึ่งเด็ก ๆ ก็ตื่นตาตื่นใจมาก
อย่างเช่นฐานกิจกรรม "Animals from Jelly Beans" ที่เราจะให้เด็ก ๆ ใช้ขนม Jelly Beans และอุปกรณ์อื่น ๆ มาต่อกันให้เป็นรูปสัตว์ตามจินตนาการของทุกคน หรือการให้น้อง ๆ ลองมองหาสัตว์ที่มีอยู่ในธรรมชาติแล้วเอามาฝึกพูดเป็นประโยคภาษาอังกฤษ เพื่อให้น้องได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ คุณครูในโรงเรียนที่เห็นก็บอกว่าแปลกใจเหมือนกันว่าเราคิดกิจกรรมพวกนี้ยังไงให้น่าสนใจแบบนี้
เราคิดว่าส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะ โรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอความหลากหลาย หรืออะไรที่มันนอกเหนือจากการเรียนรู้ในห้องเรียนปกติเท่าไหร่ อาจจะไม่ค่อยมีใครอยากมา เพราะว่ากลัวเหตุการณ์ความไม่สงบต่าง ๆ ทำให้คำว่าโอกาสของเด็กทุกคนมันไม่เท่ากัน หากเปรียบเทียบเด็กในกรุงเทพฯ กับเด็กที่นี่แล้ว พวกเขามีโอกาสน้อยมาก ๆ ที่จะเจอครูชาวต่างชาติ หรือแม้แต่เรียนกับครูที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้จริง ๆ
ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานที่ Globish เราค่อนข้างจะชัดเจนกับตัวเองว่าสิ่งที่เราอยากทำมันคือด้านการศึกษาจนถึงวันนี้ แม้จะผ่านมา 5 ปีแล้วเราก็ยังวนเวียนเกี่ยวกับเด็กและการศึกษาอยู่ แต่ด้วยการทำงานของทีม Education ทำให้เราจะไม่ค่อยได้ไปเจอกับนักเรียนเท่าไร เพราะหลัก ๆ ก็จะนั่งทำงานอยู่หน้าคอม คุยงานกันแค่ในทีม พอคุยเสร็จปุ๊บก็ต่างคนต่างกลับไป Research แล้วก็ Develop ในส่วนของตัวเองต่อ
เพราะงั้นนอกจาก Feedback ของนักเรียนที่เราได้รับจากทีมต่าง ๆ แล้ว เราก็ไม่เคยรู้เลยจริง ๆ ว่าบทเรียนที่พวกเราสร้างขึ้นมามันช่วยสังคมนี้ยังไง ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าบทเรียนพวกนี้มันจะไปตกอยู่ที่นักเรียนคนไหนในประเทศนี้บ้าง จนบางทีเราก็แอบตั้งคำถามในสิ่งที่ตัวเองทำ และอาจจะรู้สึกหมดไฟไปบ้าง
แต่การได้ไปร่วม Social Project ครั้งนี้มันทำให้เราได้ลองมาสัมผัสจริง ๆ ว่าสิ่งที่เราทำลงไปมันไม่เคยเสียเปล่าเลย การมาเห็นรอยยิ้ม เห็นความสนุกของเด็ก ๆ ที่ร่วมกิจกรรมที่โรงเรียนบ้านสมถวิล มันทำให้เห็นชัดขึ้นว่าสิ่งที่เราทำมันส่งผลมากกว่าเพียงแค่ผลคะแนนของนักเรียน มันสามารถเป็นจุดเปลี่ยนเล็ก ๆ ของเด็กบางคนที่อาจจะไม่ชอบภาษาอังกฤษ ให้กลับมาสนใจการเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้นจากคำศัพท์เพียงไม่กี่คำหรือกิจกรรมใดกิจกรรมนึงก็ตาม
สุดท้ายนี้ เรารู้สึกดีใจจริง ๆ ที่ Social Project นี้มันยังช่วยเติมไฟให้คุณครูในพื้นที่ ให้สามารถเอาวิธีการหรือกระบวนการคิดไปต่อยอดปรับใช้ในการสอนนักเรียนของเขาได้ต่อได้ในอนาคต เพราะไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ไหนในโลกใบนี้ เด็กทุกคนควรมีสิทธิที่จะเข้าถึงโอกาสในการเรียนรู้ แม้ว่ามันจะค่อย ๆ แทรกซึมไปอย่างช้า ๆ เราหวังว่าการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ในวันนี้ จะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในวันข้างหน้าของชาวตากใบ จังหวัดนราธิวาส