ความสุข Setup ได้

Akane Ketklinkaew
Gofive
Published in
2 min readSep 3, 2020
Me

ด้วยตำแหน่งและหน้าที่ ทำให้ผมต้องมีเรื่องมาแบ่งปันทีมงานเสมอ ๆ ในทุก ๆ กิจกรรมที่ทางบริษัทได้จัดขึ้น

หนึ่งในเรื่องที่ผมมักจะหยิบยกมาแชร์ให้กับทีม มักจะเป็นเรื่องของความสุขในการทำงาน ซึ่งหลาย ๆ คนที่กำลังตกอยู่ในภาวะสุดกดดันจากงาน จากลูกค้าจะส่งสายตาอันน่าสงสัยกลับมาตลอดว่า การทำงานมันมีความสุขได้จริง ๆ หรือ

วันนี้ผมเลยขอถือโอกาสนี้นำเรื่องราวและเคล็ดลับส่วนตัวสุด ๆ มาแบ่งปันให้ทุกคนได้อ่านกัน ว่าไอ้วิธีจัดการความสุขในการทำงานของผมมันเป็นยัง (มันมีจริง หรือแต่คำพูดชวนเชื่อเท่านั้น)

ทันทีที่ผมแชร์ในเรื่องความสุขในการทำงาน สายตาจากคนฟังจะสะท้อนกลับมาเสมอว่ามันมีอยู่จริง ๆ หรอ มันไม่ผิดเลยที่คนฟังเรื่องราวจากผมจะคิดแบบนั้น เพราะกว่าที่ผมจะมาถึงจุดนี้ได้

อันดับแรกเราต้องมารู้จักกับ “ความสุข” กันก่อน “ความสุข” คำง่ายแต่คงไม่มีใครสามารถให้ความหมายของมันได้ดี เท่าตัวเราเอง “ความสุข” ผมเองมองว่าเป็นการตั้งความคาดหวังของการมีความสุข ใช่ครับ ยิ่งเราตั้งความหวังที่จะมีความสุขไปไว้ไกลเท่าไหร่ “ความสุข” ก็จะยิ่งห่างไกลเราไปเท่านั้น

ไร่เชิญตะวัน

วิธีการ Setup “ความสุข” ของผมเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ผมทำมันมาเรื่อย ๆ และคิดว่าทุกคนต้องทำได้ เพราะผมทำได้

ถ้าถามว่าผมค้นพบความสุขในการทำงานตั้งแต่เมื่อไหร่ แน่นอนครับว่ามันไม่ใช่ตั้งแต่วันแรกที่ผมเข้าทำงานแน่นอน หัวข้อนี้ผมได้มีโอากสแชร์ให้กับทีมงานในงาน Checkpoint 2020 ของบริษัท ในตอนที่เตรียมตัวผมก็ได้นั่งทบทวนเรื่องนี้ว่าจริง ๆ แล้วเรามีความสุขในการทำงานตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ซึ่งคำตอบที่ได้คือเมื่อ 3 ปีที่แล้ว…

Checkpoint 2020

ในทุก ๆ ปี Facebook จะคอยย้ำเตือนเราเสมอว่าวันนี้ในอดีตเราได้โพสต์อะไรไว้บ้าง แน่นอนครับ ข้อมูลบน Feed ของผมเมื่อสัก 7 ที่แล้วเป็นต้นไป มักจะมีเรื่องที่เราขัดแข้ง หรือไม่พอใจคนที่ทำงานต่าง ๆ มากมาย (ต้องบอกว่าบริษัทของผมในยุค 7 ปีก่อนเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง บวกกับหน้าที่การงานที่เติบโตขึ้นอย่างค่อนข้างรวดเร็ว ปัญหาในการทำงานก็จะเยอะพอตัว) ต้องยอมรับว่าหน้า Feed ของ Facebook เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่เราสามารถบอกเล่าเรื่องราว ความเป็นตัวตน ความชอบ หรือแม้กระทั่งความไม่ชอบ

เรื่องราวในอดีตที่ Facebook นำมาแสดงให้ดู ผมไม่สามารถจำได้ด้วยซ้ำว่าเหตุการณ์นั้นมันคืออะไร เรามีปัญหากับใคร แต่สิ่งที่เห็นมันสะท้อนพฤติกรรมของเราในขณะนั้น คนที่เราเคยว่าตอนนั้น ตอนนี้เราอาจจะเป็นเพื่อนซี้กันก็ได้ หรืออาจจะลาออก จากกันไปแล้ว แต่สิ่งที่ผมสร้างไว้กลับเป็นเรื่องที่ไม่น่าจดจำเท่าไหร่

เมื่อ 3 ปีที่แล้วมี 1 เรื่องที่ผมตั้งใจจะทำมัน นั่นคือไม่โพสต์ข้อความบน Feed ของ Facebook ในเรื่องที่เราไม่ชอบ ไม่พอใจ หรืออยากต่อว่าใครสักคน ผมเลยมองว่าการ Setup New Feeds เป็น จุดเริ่มต้นแรก ของการ Setup ความสุขของผม

ตัวผมเองมองว่าคนเราควรจะเอาแต่เรื่องดี ๆ ให้มันติดตัวและเป็นความทรงจำ จริงๆ แล้วนอกจากเรื่องงานแล้ว เรื่องส่วนตัวก็เหมือนกัน มันจะทำให้เรามีความสุขที่เราสามารถสร้างได้ และนี่ก็คือ “ความสุข” Setup ได้ในข้อแรกของผมที่อยากแบ่งปัน

ข้อสอง ที่จะแบ่งปันคือ Reframe การ Reframe เป็นเรื่องราวที่ผมเพิ่งได้ฟังจาก standard podcast เมื่อไม่นานก่อนถึงวัน Checkpoint คำจำกัดความที่ผมพอสรุปได้สำหรับคำว่า Reframe คือ การถอยหลังกลับมามอง ในสิ่งที่เรากำลังทำ

ถ้าพูดถึงชีวิตการทำงาน มันจะทำยังไงได้บ้างให้เราสนุกและมีความสุขกับงาน การ Reframe คือ การที่เวลาเราได้มอบหมายงาน หรือหน้าที่ ก่อนที่เราจะเริ่มลงมือทำ เราลองถอยออกมาเพื่อมองภาพให้กว้างขึ้นว่า สิ่งที่เราได้รับมอบหมายคืออะไร ความคาดหวังของสิ่งที่เราได้รับคืออะไร และอะไรคือสิ่งที่เราจะสามารถเติมเข้าไปให้ได้มากกว่าสิ่งที่หัวหน้าเราสั่งมา

ผมเชื่อว่าถ้าเราได้มอง ได้คิดทุกอย่างก่อนที่เราจะเริ่มลงมือทำ มันจะทำให้เราเห็นภาพได้มากขึ้น เราจะสนุกกับงาน และสร้างความท้าทายใหม่ ๆ ให้กับตัวเองได้ จะทำให้ชีวิตการทำงานของเราไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

ตัวสุดท้าย ที่จะทำให้เรามีความสุขจากการทำงานได้ นั่นคือการ ขอบคุณ “ยิ่งคุณรู้สึกขอบคุณสิ่งรอบตัวมากเท่าไหร่ พลังของมันจะก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ขอแค่คุณขอบคุณให้ถูก ความสุขมันก็ไม่ไปไหนแล้ว แค่คุณมีข้าวกิน คุณก็โชคดีกว่าคน 3.5 ล้านคนในแอฟริกา ที่ต้องตายทุกปีจากความหิวโหยแล้ว” เป็นประโยคที่ผมจะใช้กับทีมเสมอ เพื่อให้ทุกคนไม่ลืมที่จะขอบคุณ

สิ่งแรกที่ทุกคนควรจะขอบคุณ คือการขอบคุณตัวเอง ทุก ๆ เช้าที่เราตื่นขึ้นมา เมื่อเอาเท้าแตะพื้น เราลองขอบคุณตัวเองดูครับ ขอบคุณที่ตื่นขึ้นมา ขอบคุณที่ยังมีชีวิตต่อในอีก 1 วัน เมื่อเราได้ขอบคุณตัวเองแล้ว ผมเชื่อว่าไม่ว่าวันนี้เราจะเจอกับอะไร ทุกอย่างมันจะผ่านไปได้อย่างสบาย ๆ เพราะเราผ่านเรื่องที่ยากที่สุด และเราไม่สามารถรับรู้ได้เลยนั้นคือเราผ่านการมีชีวิตไปอีก 1 วัน

ขอบคุณบริษัท เป็นอีกเรื่องที่ทุกคนควรจะต้องขอบคุณให้มาก ๆ ยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโลน่า 2019 (Covid-19) หลาย ๆ บริษัทต้องประสบกับภาวะความกดดันต่าง ๆ มากมาย ถ้าบริษัทยังคงจ่ายเงินเดือนคุณ นั่นคือสิ่งที่คุณต้องขอบคุณให้มาก ๆ

ที่สำคัญของการขอบคุณ คือพยายามขอบคุณกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่เสมอเพราะจะเพิ่มพลังให้กับเราโดยไม่รู้ตัว

นี่คือ 3 ข้อในการสร้างความสุขในการทำงานของผม ผมเชื่อว่าทั้งหมดนี้ทุกคนสามารถทำตามได้อย่างง่ายดาย โดยแทบไม่ต้องปรับอะไรในชีวิต แต่สิ่งที่จะได้รับกลับมามันจะทำให้ทุก ๆ คุณจะอยากมาทำงาน

TOTO

--

--