แบ่งพอร์ตลงทุนให้ชนะเงินเฟ้อในปี 2022
หนึ่งในกระแสที่มาแรงแซงทางโค้งในปีนี้ไม่พ้นในเรื่องของ วิกฤตเงินเฟ้อสหรัฐปี 2022 ซึ่งจากสถานการณ์ถือว่าน่าเป็นห่วงเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ ระหว่างที่ผมเปิดยูทูปหาอะไรดูไปเรื่อยก็ได้พบกับวิดีโอนึงของทาง beartai แบไต๋ ในรายการ เงินเฟ้อไทยพุ่ง ลงทุนอย่างไร? #หนุ่ยทอล์ก ในวิดีโอนี้เค้าได้พูดถึงการลงทุนอย่างไรให้ชนะอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงมากๆ ในปีนี้โดยเป็นการสัมภาษณ์ อ.โฉลก โดยคุณหนุ่ยพงศ์สุข ซึ่งในคลิปได้ให้แง่มุมเอาไว้ดีมากๆเลยครับ
ซึ่งตัวผมเองนั้นค่อนข้างชื่นชอบด้านการลงทุนอยู่แล้ว ซึ่งผมมีโอกาสได้แชร์เรื่องการลงทุนให้กับน้องในทีมผมเองโดยเฉพาะกับคนที่เพิ่งเรียนจบ ที่เพิ่งผ่านช่วงทดลองงานและกลายเป็นพนักงานประจำในบริษัทของเราให้ฟัง เพราะอยากจะแชร์มุมมอง แบ่งปันประสบการณ์และไม่อยากให้ทุกคนพลาดเหมือนผม ที่ช่วงแรกๆ ไม่รู้จักเรื่องของการลงทุนเลย เรียกได้ว่าหาเงินได้เท่าไหร่ปรนเปรอตัวเองหมดเลยก็ว่าได้ 55555 กว่าจะรู้ตัวก็เรียกว่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปหลายปีเลย หะหะ
โอเคครับ เข้าเรื่องกันดีกว่า… ก่อนอื่น เรามาเริ่มทำความเข้าใจคำว่า เงินเฟ้อ และมูลค่าเงินในอนาคต กันก่อนดีกว่าครับ ว่ามันคืออะไรกันแน่
*บทความนี้ไม่ใช่บทความชักชวนลงทุนแต่อย่างใดนะครับ โปรดใช้วิจารญาณของท่านเองนะครับ ^_^
เงินเฟ้อ (Inflation) หมายถึง ภาวะที่ราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปนั้นมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อราคาสูงขึ้นนั่นหมายความว่า เงินที่เรามีเท่าเดิมนั้นจะสามารถซื้อของได้น้อยลง (มูลค่าของเงินลดลง) ยกตัวอย่างเช่น ปีที่แล้วเรากินข้าวผัดกระเพราจานละ 50 บาท มาปีนี้ปรับราคาเป็น 55 บาท แปลว่ามูลค่าของเงินนั้นหายไป 10% เป็นต้น
มูลค่าเงินในอนาคต (Future value) หมายถึง มูลค่าของเงินจำนวนหนึ่งที่จะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น เมื่อนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนและได้มาเป็นผลตอบแทน ที่ได้อย่างต่อเนื่องจนครบกำหนดเวลาของการลงทุน ซึ่งหากเราทราบได้ว่าผลตอบแทนในการลงทุน (ดอกเบี้ย) ที่จะได้รับในแต่ละปีเป็นมูลค่าเท่าไหร่ และลงทุนกี่ปี ก็จะหาได้ว่ามูลค่าเงินที่เราจะได้ในอนาคตจะเป็นเงินเท่าไหร่ ยกตัวอย่างเช่น หากเรานำเงินไปฝากธนาคาร 100,000 บาท สัก 10 ปี โดยธนาคารให้ดอกเบี้ยคงที่ (Fixed rate) ที่ 5 เปอเซนต์ต่อปี ก็จะสามารถคำนวณ โดยใช้สูตร
FV = PV x (1 + i)^n
PV (Present value) = มูลค่าเงิน ณ ปัจจุบัน ก่อนที่จะเอาไปลงทุน
i = ผลตอบแทน หรือดอกเบี้ยที่จะได้รับจากการไปลงทุน
n = จำนวนปีที่เราไปลงทุน หรือจำนวนครั้งที่ได้รับผลตอบแทน
ดังนั้นจากสูตรนี้เราจะคำนวณได้ว่า
FV = 100,000 x (1 + 0.05)^10
FV = 162,889
แปลง่ายๆว่าในอีก 10 ปีเราจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุน 62,889 บาท เมื่อรวมกับเงินต้นอีก 100,000 บาท ก็จะเป็นเงิน 162,889 บาท เลยทีเดียว นี่แหละครับ พลังของดอกเบี้ยทบต้นทบดอก
ดูเหมือนเยอะใช่มั้ย แต่… นี่คือมูลค่าเงินในอนาคต แต่ถ้าเราย้อนกลับไปอ่านย่อหน้าบน จะพบว่าแต่เงินมันเสื่อมค่าลงเรื่อยๆ จากเงินเฟ้อถูกมั้ยครับ อ้างอิงจากนักวิเคราะห์หลายๆที่ วิเคราะห์ว่าปี 2022 อัตราเงินเฟ้อจะสูงถึง 6% นั่นหมายความว่า 162,889 ที่เป็นเงินที่จะได้ในอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีมูลค่าน้อยลงกว่าเดิมซะอีกครับ (ุถ้าหากอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงอยู่แบบนี้เรื่อยๆ) โดยสามารถคำนวณได้ โดยเปลี่ยนสูตรเมื่อสักครู่จากบวกเป็นลบแทน แบบนี้ครับ
FV = PV x (1 - i)^n
FV = 162,889 x (1 – 0.06)¹⁰
FV = 87,734
จะเห็นได้ว่า เงิน 162,889 ในอีก 10 ปี ข้างหน้าเมื่อเจออัตราเงินเฟ้อ ปีละ 6% จะเหลือมูลค่าเพียง 87,734 ในมูลค่าเงินปัจจุบันเท่านั้นเองครับ และถ้าหากถือเงิน 100,000 บาทไว้เฉยๆ โดยที่ไม่ทำอะไรเลย จะเหลือเพียงแค่ 53,861 บาท เท่านั้นเอง น่ากลัวจริงๆ ….
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว การเก็บเงินสดเอาไว้หรือการฝากธนาคารที่ปัจจุบันดอกเบี้ยไม่ถึง 1% นั้น ไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้เลย การลงทุนจึงถือเป็นทางเลือกที่หลายๆคนมองหากัน แต่แน่นอนครับการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง นอกเหนือจากลงทุนให้ชนะอัตราเงินเฟ้อแล้ว ยังต้องรักษาพอร์ตของเราให้มีกำไรด้วย ดังนั้นการกระจายความเสี่ยงก็ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งในคลิปวิดีโอที่ผมพูดถึงไปในข้างต้นนั้น ได้เล่าเรื่องการลงทุนเอาไว้ได้ดีมากๆเลย ซึ่งเป็นเนื้อหาหลักของเราในวันนี้ ที่เราจะมาคุยกันครับ
โดยในคลิปได้ให้หลักการลงทุนเอาไว้ โดยเราควรแบ่งพอร์ต/บัญชี การลงทุนออกเป็นทั้งหมด 4 ประเภท เราควรแยกพอร์ตการลงทุนออกจากกันให้ชัดเจน มาลองดูกันครับ
1. Store of Wealth
ในคลิปได้บอกว่า เราควรแบ่งเงินส่วนหนึ่งมาอยู่ในพอร์ตนี้ ซึ่ง Store of wealth คือ การถือครองสินทรัพย์ที่สามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับเราได้ หรือในอีกแง่นึงคือ เป็นที่เก็บความมั่งคั่ง ไม่เสื่อมมูลค่า โดยสิ่งนั้นจะต้องมีความปลอดภัย และรอดจากเงินเฟ้อได้ด้วย โดยมีนิยามสั้นๆ เลยครับคือ Buy and Hold หรือแปลเป็นภาษาเข้าใจง่ายๆคือ ซื้อและถือไว้ ไม่ขาย!!! ไม่ว่าราคาจะสูงขึ้นไปขนาดไหนก็ตาม เพราะว่าหากเราขายแล้วเราจะเอาเงินไปทำอะไร? ถือเป็นเงินสดที่จะเสื่อมมูลค่าไปอย่างนั้นหรอ
ซึ่งถ้าหากเป็นคนสมัยก่อนก็มักจะนิยมซื้อที่ดิน , ทองคำ เก็บเอาไว้ ซึ่งสินทรัพย์พวกนี้เนี่ย ถ้าเราเปิดกราฟราคากลับไปดูจะเห็นว่า มีอัตราการ growth rate ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการลงทุนหลักที่ทำให้เราสามารถเอาชนะอัตราเงินเฟ้อได้ โดยลุงโฉลกได้กล่าวเอาไว้ว่า ถ้าหากในสมัยนี้ Bitcoin ถือเป็น Store of Wealth ที่ดีที่สุด!!?
2. Investment Account
เป็นพอร์ตที่ใช้สำหรับในการลงทุนทั่วๆไป ที่เราสามารถหวังผลกำไรได้ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนทำธุรกิจต่างๆ หรือการซื้อ ตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ หุ้น หรือที่หลายๆคนนิยมซื้อกันก็คือกองทุน (ที่ในคลิปบอกว่าส่วนใหญ่จะเจ๊ง 555) โดยส่วนใหญ่นี้ จะเน้นในเรื่องของความรู้ในด้านการลงทุนเป็นหลักครับ เช่นถ้าหากจะซื้อหุ้นสักตัวนึง ก็ควรที่จะต้องศึกษาทั้งปัจจัยภายใน (Internal factor) ในเรื่องของบริษัท การบริหาร งบการเงิน และอื่นๆและปัจจัยภายนอก (External factor) ตลาด โอกาส ความเสี่ยง เทคโนโลยี เทรนด์ของโลกหรืออื่นๆ เพื่อมาซัพพอร์ตการลงทุนของเรา และลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
ก็เรียกว่าเป็นพอร์ตที่มีความตรงไปตรงมา สามารถใช้ความรู้เพื่อลดความเสี่ยงได้ และเป็นพอร์ตที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่สนใจในด้านของการลงทุนเลยล่ะครับ คีย์หลักที่สำคัญสำหรับพอร์ตนี้คือเรื่องของ Asset Allocation ครับคือการย้ายสินทรัพย์ไปลงทุนในจุดที่จะสร้างผลกำไรให้เราได้อย่างสูงสุด ได้อย่างถูกที่และถูกเวลาครับ
3. Speculating Account
ถือเป็นอีกพอร์ตที่มีหลายๆคนให้ความสนใจ และเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน โดยหัวใจหลักของพอร์ตนี้คือการใช้ Technical trade คือการใช้เทคนิคต่างๆ เข้ามาช่วยในการหาผลกำไร เช่น หุ้น ปัจจุบัน จะเห็นได้ว่ามีทฤษฎีต่างๆที่ช่วยให้เราสามารถเข้าซื้อหุ้นในจุดที่มีความเหมาะสม และสามารถทำกำไรได้ โดยหลายๆครั้งทฤษฎีต่างๆพวกนี้ ไม่ได้อาศัยเรื่องของข้อมูลหรือพื้นฐานของหุ้นตัวนั้นๆ เลย
หรือในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีเข้ามาในส่วนในเรื่องนี้มาก เช่นการใช้บอทเทรด ที่เข้ามาช่วยซื้อขายสินทรัพย์ต่างๆ แทนเรา หรือข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงบทวิเคราะห์ที่จะช่วยให้เราลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งความรู้ต่างๆที่ว่ามานี้ ปัจจุบันหาได้บนโลกอินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดายเลยล่ะครับ : )
4. Gambling Account
เป็นพอร์ตที่สามารถแปลตรงตัวเป็นคำว่าพอร์ตสำหรับพนันก็ได้ แต่จริงๆแล้ว เป็นพอร์ตที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ “ความเสี่ยง” ซึ่งทุกคนรู้ดีกันอยู่แล้วครับ ว่าเสี่ยงมากยิ่งได้ผลตอบแทนมาก แต่ในขณะเดียวกันก็เสี่ยงต่อการสูญเสียเงินต้นด้วยเช่นกัน ดังนั้น Key take away ของพอร์ตนี้คือการบริหารความเสี่ยงครับ โดยใช้หลักการและ fundamental ต่างๆ เข้ามาช่วยในการตัดสินใจ โดย Gambling Account จะแตกต่างจาก Investment และ Speculating ตรงนี้เราจะไม่สนใจทั้งสองสิ่งที่ทั้งพอร์ตนั้นพูดถึงเลย แต่เราจะสนใจที่ความเสี่ยงเพียงอย่างเดียว
หัวใจสำคัญก็คือว่า เรารับความเสี่ยงได้เท่าไหร่ หรือเราสามารถเจ๊งได้ที่เท่าไหร่? และเปรียบเทียบเพื่อหาอัตราส่วนความเสี่ยงและผลตอบแทน (Risk reward ratio) เพื่อคำนวณหา position size ที่เราจะลงทุน อย่างทุกวันนี้ Cryptocurrency เองก็ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีความผันผวนสูง แต่ขณะเดียวกันก็ถือเป็นโอกาสในการทำกำไรได้เช่นกัน หากเราหา risk reward ratio ที่เหมาะสมได้ ก็จะทำให้เราสามารถลงทุนในสินทรัพย์นี้ได้ เพราะจะทำให้เราทราบได้ว่า เมื่อไหร่เราควร take profit และเมื่อไหร่เราควร cut-loss นั่นเองครับ ซึ่งเอาจริงๆ พอร์ตนี้ถือเป็นอีกพอร์ตที่คำนวณได้ค่อนข้างยากเหมือนกันน่ะครับ Gambling สมชื่อเลย ฮาาาา
Key Takeaway
สำหรับบทความนี้ คงจะทำให้ทุกคนได้เห็นถึงความน่ากลัวของเงินเฟ้อ และความสำคัญของการลงทุน ที่สำคัญคือการลงทุนอย่างถูกวิธีเพื่อให้เราสามารถเอาชนะอัตราเงินเฟ้อได้ และช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน ซึ่งการวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆ และวางแผนในระยะยาวเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ยิ่งวางแผนเอาไว้เร็วมากเท่าไหร่ คุณยิ่งมีโอกาสมากกว่าคนอื่นๆ และสามารถสร้างความมั่งคั่งได้มากกว่า การแบ่งพอร์ตออกเป็น 4 ส่วนจะช่วยให้เราสามารถโฟกัสในแต่ละส่วน และสามารถบริหารความเสี่ยงได้ดีกว่า
ซึ่งสุดท้ายแล้วทุกคนจะต้องตัดสินใจเองครับว่าจะเริ่มวางแผนการลงทุนเมื่อไหร่ และอย่างไร เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับตนเอง และเอาชนะเงินเฟ้อให้ได้ และย้ำอีกครั้งว่า นี่ไม่ใช่บทความเชื้อเชิญการลงทุนแต่อย่างไร แต่ถ้าหากสนใจการลงทุนใน cryptocurrency สามารถจิ้มที่บทความด้านล่างนี้ได้เลยครับ :)
แล้วพบกันใหม่ในโอกาสหน้านะครับ ขอบคุณทุกคนมากๆนะครับ ที่อ่านมาจนจบ ลาไปก่อน สวัสดีครับ
รีวิว 6 แอพฯ ที่ช่วยให้การเทรดคริปโตง่ายขึ้น!
https://link.medium.com/tcEKR5pcujb
วิธีออมเงิน Crypto แบบได้ผลตอบแทน 10–20% ต่อปี Step by Step https://link.medium.com/Bz5TRSaJRdb
แชร์ประสบการณ์ การขุด Bitcoin ฉบับ #ขุดจริง #เจ็บจริง https://link.medium.com/G7Qab1PGRdb
แชร์ประสบการณ์ดีๆ กับการติดดอยบน Cloud Mining ชื่อดัง https://link.medium.com/09kWTdOGRdb
วิธีเปลี่ยนมาใช้ Hive OS ในการขุดเหมือง ตั้งแต่ซีโร่ จนเป็นฮีโร่ (ตอนที่1) https://link.medium.com/cFqIfxltMdb
เปลี่ยนมาใช้ Hive OS ในการขุดเหมืองกันเถอะ (รีวิว) https://link.medium.com/zNVBulJGRdb