10 สิ่งที่ทำให้ใจเต้น อยากเชิญมาสัมภาษณ์งานกับเรา (ฉบับบอสเขียน)

PiK Prinyapatpakorn
HOBBIZ
Published in
2 min readFeb 15, 2018

ในระหว่างหลายเดือนที่ผ่านมา ที่ฮ็อบบิซก็มีการหาคนมาเสริมทีมกันอย่างขะมักเขม้น เราเจอทั้งผู้สมัครที่เคมีดีมากกกกก อยากได้มากๆ และผู้สมัครที่เราจำเป็นต้องตัดออกเพราะกลัวว่าจะเข้ากับทีมของเราไม่ลื่นไหลเช่นเดียวกัน

อยากไปที่สวยๆ? เราต้องช่วยกันพาย ฮึบๆๆๆๆๆ

ฮ็อบบิซเป็นบริษัทที่ ถ้าเทียบกันแล้วก็เหมือนเรือคายัคที่ทุกคนพร้อมช่วยกันพายโดยใช้สกิลที่ต่างๆกัน มีท่าไม้ตายกันคนละท่า บางคนเป็นสายเวทย์ (แปล: เสกงานอย่างเนี๊ยบ) บางคนเป็นสายนักรบ สายถึก และบางคนเป็นสายแม่ค้า (แปล: ตั้งร้านอย่างเดียวโลด)

ไม่มีใครเป็นฮิตเลอร์ในที่นี้ ถ้าจะหวังเข้ามาทำงานรอคำสั่งและทำยาวๆไปอาจจะไม่เหมาะ

แน่นอนว่ามีคนบางประเภทที่ไม่เหมาะกับการทำงานในสภาพแวดล้อมแบบนี้ และมองว่าเราเป็นผู้นำประเภท exp 0

ซึ่งเราก็รู้และเข้าใจมากๆ และอยากบอกทุกครั้งว่าสิ่งไหนไม่รู้ เราจะช่วยกันทำให้ชัดด้วยกัน มีอะไรก็ต้องบอกให้เราพัฒนา ตอนนี้ก็พยายามเรียนรู้จากเพื่อนร่วมทีมทุกคนอยู่นะ *ขอกำลังใจ*

Home is where the heart is.

เพราะฉะนั้นเวลาหาคนมาร่วมตี้สักคนเนี่ย เราจะคิดเยอะนิดนึง ซึ่งสิ่งหลักๆที่จะมองหา หรือทำให้ใจเต้นแรงก็คือ

  1. ชื่ออีเมลเป็นมืออาชีพ
    ถึงเราจะเป็นบริษัทสบายๆ แต่เวลาเราทำงานนี่จริงจังมาก เพราะฉะนั้นการเสียเวลาสัก 5 นาทีสมัครอีเมลที่ดูมืออาชีพนั้น ทำให้คุณดูดี มีเสน่ห์ขึ้นมากๆ
  2. ผลการเรียนที่โดดเด่นและตกดิ่งเหวในบางวิชา
    เพราะมันทำให้รู้ถึงความถนัดที่ชัดเจน ที่ตัวเองชอบจนอยากจมดิ่งอยู่ในวิชานั้นๆ เหมือนกับเวลาทำงานเป็นทีม ที่เราต้องรู้ตัวเองว่าอันไหนเราทำไม่ได้หรือไม่เก่ง
  3. มีกิจกรรมอื่นๆ นอกจากเรื่องเรียน
    ส่วนใหญ่คนกลุ่มนี้จะมีทักษะการเอาตัวรอดสูง คือไม่จำเป็นต้องแบบคณิตศาสตร์โอลิมปิกก็ได้ แบบแค่เวลาว่างลองขายของใน eBay แบบนี้ก็ได้เหมือนกันนะเด็กๆ
  4. เขียนแกรมม่าถูก สะกดคำเยี่ยม
    แสดงให้ถึงความใส่ใจในรายละเอียดของตัวเอง หลายคนมักจะขี้เกียจเขียนอธิบายงานตัวเองใน Resume ส่วนใหญ่เราอ่านนะ
  5. เขียน Cover Letter ในอีเมล *อันนี้สำคัญมากๆ*
    99.999% ของการตกลงรับเพื่อนร่วมทีมฮ็อบบิซคือคนที่สามารถเขียนแนะนำตัวเองในอีเมลได้อย่างดี นอบน้อม แต่ยังมีความมั่นใจในผลงานของตัวเองอยู่ เคยมีมาแนวเว้าวอน (?) เหมือนกัน แบบที่บ้านลำบากมาก กินเกลือประทังชีวิต (เกินไป) อันนี้จะทำให้เรากลัวมากกว่าจะไปโฟกัสที่ผลงานนะ อีกอย่าง ยิ่งสามารถบอกได้ว่าทำไมถึงอยากทำงานกับเราได้เนี่ย จะรักสุดๆเลยล่ะ
  6. (ถ้าเป็น Designer) พอร์ทโฟลิโอจะต้องมีงานแปลกๆ งานลองทำ หรืองานที่นอกเหนือจากงานที่ทำจากที่ฝึกงาน/มหาลัย
    ไม่จำเป็นต้องสวย เนี๊ยบ แต่เราอยากรู้รสนิยม ความสนใจ และตัวตนของผู้สมัคร ว่าจริงๆแล้วคุณเป็น นักออกแบบสายโลจิก หรือเป็นศิลปิน ซึ่งฮ็อบบิซก็รักทั้งสองแบบน่ะแหละ (เราจะได้รู้ว่า Career Path ของคุณเมื่ออยู่กับเราจะไปในทางไหน) ปล. เคยตกหลุกรัก 3D Designer ที่ใส่รูปสามมิติของแกนกระดาษทิชชู่อยู่ในพอร์ทด้วย งงมาก งงไปหมด ไม่รู้ขึ้นแบบมาทำไม แต่ชอบ
  7. ไม่ CC คนในอีเมลเยอะไปหม๊ด มีเราคนเดียวในใจ
    จริงงงง เคยเจอผู้สมัครใส่ cc ทุกบริษัทที่ตัวเองอยากทำ คืองงใจ อันนี้แนะนำน้องๆว่า ค่อยๆเขียนที่ละอีเมลดีกว่าจ้า อันนี้ดูพี่เป็นตัวสำรองไงไม่รู้ ตัวจริงของน้องคือบริษัทในช่อง To สินะ… น้อยใจจัง 555
  8. เขียนบล๊อค มีเพจเป็นของตัวเอง
    เราชอบเห็นมุมอื่นๆที่ไม่มีใน Resume
  9. ไม่ใช้รูปติดบัตร
    อันนี้ไม่มีอะไร แค่ชอบคนยิ้มให้ แม้ในกระดาษก็ตาม 55555
  10. สุดท้าย ถึงเราจะวางใบสมัครของคุณไปแล้ว ถ้ามีการ Follow up ทางโทรศัพท์ก็อาจจะแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของคุณเหมือนกัน
    อันนี้ก็เกิดขึ้นบ่อยๆ
ต้นไม้เต็มบ้านไปหมดดดดด

ที่จริงแล้วในฐานะเจ้าของ เราก็ไม่ต้องการอะไรนอกจากคนที่อยากมาทำงานกับเราจริงๆ และอยากใช้ชีวิต 70% ของเวลาในวันธรรมดาร่วมกับเราอย่างมีความสุขแค่นั้นเอง

ปล. ตอนนี้ฮ็อบบิซกำลังจะรับ Designer นะคะ อีเมลมาได้ถามเพิ่มเติมได้ที่ hello@hobbiz.co.th จ้า

--

--