ฉันฝึกงานที่นี่ ….โลกเเห่งความโชคดี Health at Home

Mamaew Phatta
Human Of Health At Home
3 min readMar 13, 2019

“Die with memory, not dreams”

เป็นสิ่งที่พ่อเคยพูดไว้ เมื่อเราไม่มั่นใจที่จะเริ่มต้นหรือทำอะไรสักอย่าง ตอนนั้นเราอยู่ปี 2 กำลังอินกับการเเข่งทำ Business Model ธุรกิจ start up มาก ได้ไป pitching หลายที่ เช่นstarg up thailand leauge , Start up university model ของธนาคารออมสิน ,โครงการ Depa เเละโครงการ Long D ของ Dtac ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ทีมเราได้เข้ารอบเเละถูกคัดเลือกให้ได้รับเงินรางวัลมาตลอด มันเลยทำให้เราเกิดคำถามว่า จะไปต่อหรือจะหยุดที่ตรงนี้ดี เพราะเเน่หล่ะ การเเข่งขันกับชีวิตจริงมันต่างกันมาก เเต่เราก็ไม่อยากยอมเเพ้ เพียงเเค่คนอื่นบอกว่ามันยากนี่หน่า

เพื่อนๆในโครงการ Founder Apprentice

จุดเริ่มต้น

เราเลยไปลองฝึกงานกับบริษัท start up เพื่อที่จะศึกษาว่า เขาทำงานกันยังไง ใช้ชีวิตเเบบไหน เเล้วมันใช่ตัวเราจริงๆรึเปล่า โชคดีได้มารู้จักโครงการ founder apprentice เป็นโครงการฝึกงานเเละทดลองใช้ชีวิตเเบบผู้ประกอบการ ซึ่งจะมีการอบรมพื้นฐานสิ่งที่ควรรู้ก่อนที่เราจะไปฝึกงานจริงด้วย พร้อมทั้งมีกาารคัดกรอกทำการ matching บริษัทเเละตัวเรา

โดยการสัมภาษณ์เเละทำบททดสอบต่างๆ ซึ่งเราก็ได้ฝึกงานที่ Health at home เป็นบริษัทที่เราสนใจเเละอยากทำงานด้วยตั้งเเต่เเรก

Health at Home เป็น platform ที่จัดหาผู้ดูเเลผู้ป่วยผู้สูงอายุที่มีความเชี่ยวชาญโดยใช้เทคโนโลยีมาจับคู่ให้เหมาะสมกับผู้ใช้บริการ มีการตรวจประวัติ อบรมเเละทดสอบผู้ดูเเลก่อนเริ่มทำงานจริง พร้อมทั้งมีแอปพลิเคชันให้ผู้ดูแลที่เข้าไปดูแลได้ลงข้อมูล บันทึกอาการเเละกิจกรรมของผู้ป่วย เป็นข้อมูลเพื่อเพิ่มคุณภาพในการรักษา ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะกลายเป็นข้อมูลสุขภาพส่วนตัวของผู้ป่วย ที่ญาติสามารถติดตามได้ผ่านทางเเอปพลิเคชัน

“จากตอนเเรกที่คิดว่า ฝึกงานคงไม่ได้ทำอะไรมากหรอก

คงจะเเค่มาเห็นภาพรวมการทำงานเเต่กลายเป็นว่า…..

ได้ทำงานที่ส่งผลต่อภาพรวมของบริษัท เลย ”

จากรูปก็รู้ว่าไม่เคยอู้ นั่งทำงานตลอด กินตามเวลา 5555

Marketing associate — ตำแหน่งของเรา

เรามาฝึกงานตำเเหน่ง marketing associate ได้เรียนรู้เเละทำงานเกี่ยวกับ market research , competitor analysis ,customer analysis ทำงานเป็น project ที่พี่เขาให้ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ เพื่อหาทางพัฒนา service ของบริษัท ให้ตอบโจทย์ลูกค้า เเละเพิ่มฐานลูกค้าในอนาคต

ในเเต่ละสัปดาห์ทุกวันจันทร์พี่ตั้ม(CEO) จะให้เราไป present ให้ทีมฟัง ว่าเราทำอะไรบ้าง ข้อมูลที่ได้มาหลังจากการวิเคราะห์เป็นยังไงบ้าง มีอะไรที่เราจะนำเสนอให้ทีมมั้ย มันทำให้เราเห็นภาพรวมของงานทั้งหมด เห็นว่างานของเราจะไปต่อยอดทางไหนได้บ้าง เเละพี่ๆทุกคนก็ยินดีที่จะรับฟังเรา

ภาพตอน present project สุดท้ายก่อนจบฝึกงาน ตื่นเต้นนนนนมากๆ

Project

โปรเจคสุดท้ายที่เราได้รับคือ เราจะได้รับงบ marketing มา 50% ของที่ใช้จริงทั้งหมด ให้มาบริหารเองว่าจะเอาเงินไปลงตรงไหนกับอะไรบ้าง เพื่อที่จะทำให้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ตกใจมากตอนเเรกที่รู้ ว่าพี่เขาไว้ใจให้เราทำขนาดนี้เลยหรอ นี่มันงบบริษัทเลยนะ เเต่พี่เขาก็บอกว่า “ผลลัพธ์ออกมาเป็นยังไงไม่สำคัญ ขอเเค่ให้เราได้เรียนรู้ก็พอ ” หูยย โคตรคูล

หลังจากฝึกงานได้ประมาณ 1 เดือน ก็มีข่าวดีจากทาง Health at Home ว่า Reserch ที่เราได้ทำได้ถูกนำไปใช้ต่อยอดในการปรับค่าบริการของ Health at Home จริงๆ ยิ่งรู้สึกดีใจมากที่ได้มาฝึกงานกับที่นี่ เพราะถ้าไปฝึกงานที่อื่นก็ไม่รู้ว่าจะได้ทำอะไรที่มี impact กับบริษัทเเบบนี้รึเปล่า

“คิดว่าทำงานขนาดนี้ต้องอยู่เเต่ในที่ทำงาน ใช่มั้ยยย

ไม่จ่ะ ได้ออกเดินทางเป็นว่าเล่น

เเละได้ไปประเทศจีนด้วย เย้ ”

พี่เฟื่องลดา Founder of Flourish Digital

เปิดโลก

นอกจากเรื่องของการทำงานที่เปิดกว้างเเล้ว (จะเข้างานเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ว่างวันไหนก็บอก) พี่ตั้มยังให้โอกาสเราไปงานสัมมนาๆต่าง ทำให้ได้พบกับพี่ CEO จากบริษัทอื่น ได้พูดคุยเเละเรียนรู้ ทรรศนคติ วิธีการทำงานของผู้ประกอบการในโลกเเห่งความเป็นจริง เริ่มตั้งเเต่ ไปงานสัมมนาเกี่ยวกับนโยบายด้ายสุขภาพ งาน line scale up ที่ office line ,The future of start up , Techsauce global summit 2018

เเละงาน RISE conference ที่ฮ่องกง เป็นงานที่ตื่นเต้นเเละดีใจมากที่ได้รับโอกาสนี้ เพราะเราจะต้องไปออกบูท ยื่นพูดคุยกับ VC หรือคนที่มาสนใจ product ของบริษัท ภายในงานจะมีสัมมนาที่รวมเอาคนดังจากบริษัทใหญ่ระดับโลกและ start up ที่น่าสนใจ มาเเชร์เรื่องราวและประสบการณ์เกี่ยวกับ product ของตัวเอง เช่น Microsoft, LINE Corporation, Amazon,9gag และอื่นๆ

พี่ตั้ม ( CEO ) -พี่คิว ( my superviser )- เเละเราเอง
ศึกษาดูงานที่ Tencent ประเทศจีน กับพี่ๆ Dtac-Accelerate

นอกจากนี้ยังไปดูงานที่บริษัท Tencent ที่เซิ่นเจิ้น ประเทศจีนอีกด้วย ปัจจุบันบริษัท Tencent เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในจีนนอกจาก WeChat ที่เป็นที่รู้จักแล้ว Tencent ยังมีธุรกิจ เกมส์ออนไลน์ เช่น ROV ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี

หลังจากกลับมาจากประเทศจีน เรารู้สึกว่ายังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกเยอะเลย การเดินทางครั้งนั้นเหมือนไปเติมเชื้อไฟ เเละสร้างเเรงบัลดาลใจในการใช้ชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะประสบการณ์ในครั้งนั้น ทำให้เราอยากพัฒนาตัวเองมากขึ้นไปอีก เรียนรู้ให้มากกว่านี้ เพื่อที่จะเตรียมความพร้อมกับอนาคตที่จะมาถึง

“ ถึงจะได้ออกนอกสถานที่เยอะขนาดนี้

เเต่จริงๆเเล้วการไปทำงานที่ office ก็ทำให้เราอยากไปทุกๆวันไม่เเพ้กันเลย ”

ระยะเวลาสองเดือน ในการฝึกงานผ่านไปเร็วมากๆจริงๆ Health at Home ไม่ได้ให้เเค่โอกาสในการเรียนรู้ระบบการทำงาน หรือการออกไปเห็นโลกกว้างเท่านั้น เเต่การได้รู้จักพี่ๆทุกคนที่คอยให้คำเเนะนำสิ่งต่างๆ ที่ไม่ใช่เเค่เรื่องงาน เเต่รวมถึงการใช้ชีวิตให้ประสบความเร็จอย่างมีความสุขไปพร้อมๆกัน มันเลยทำให้ บรรยากาศในการทำงาน สนุกเเละตลกมาก 555

ตลกยังไง ให้ภาพมันบรรยายโน๊ะ 55555

Culture

ทุกวันจันทร์นอกจากจะมีการ present งานเเล้ว ยังมีกิจกรรมให้คนในบริษัทออกมาเล่าเรื่องราวของตัวเองที่คนอื่นอาจจะยังไม่รู้ เเละทานอาหารเย็นพร้อมกันอีกด้วย ทำให้ทุกคนได้รู้จักกันมากขึ้น ไม่ใช่เเค่เขาทำงานตำเเหน่งอะไร เเต่มันคือการเรียนรู้เเละทำความเข้าใจคนที่นั่งอยู่ข้างๆบนโต๊ะทำงานเดียวกัน มันจึงทำให้ที่นี่ไม่ใช่เเค่บริษัท เเต่คือครอบครัว ที่ทุกคนพร้อมจะเข้าใจกัน ทำให้เรากล้าเสนอไอเดีย หรือพูดคุยถกเถียงเรื่องการพัฒนางานได้อย่างเต็มที่ เพราะเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ การทำให้ Health at Home เป็น King of carepro เติบโตไปได้อย่างยั่งยืน เพื่อที่จะพัฒนาระบบบริการผู้ดูเเลผู้ป่วยเเละผู้สูงอายุในประเทศไทย ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

พออ่านมาถึงตรงนี้…มันก็เหมือนชีวิตเด็กฝึกงานทั่วๆไปใช่มั้ยหล่ะ ที่โชคดีได้ลองทำ ได้เรียนรู้ เเละได้รับโอกาส pattern มันก็เดิมๆ เเต่ว่ามันมีไม่กี่คนหรอก ที่จะต้องกลับมาตัดสินใจว่าจะทำ start up ที่ตัวเองเริ่มต้นไว้ทั้งๆที่เรียนอยู่ต่อรึเปล่า เเละก็มี Start up ไม่กี่ที่หรอก ที่มีหมอที่ยอมหยุดพักหน้าที่การงาน ที่คนอื่นมองว่ามันมั่นคง มาทำ Health at Home อย่างพี่ตั้ม (CEO) ตลอดสองเดือนของการฝึกงาน นอกจากที่เล่ามาเเล้วอะ มันมีสิ่งที่นอกเหนือจากนั้น ที่เราได้รับจากที่นี่เเละเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เราตอบคำถามที่ตั้งต้นไว้ได้อย่างไม่ลังเล

ถ้าอยากรู้ว่า เราตัดสินใจเเบบไหน เเละเหตุผลของมันคืออะไร ติดตามต่อได้ที่

บทความ “Health at Home การฝึกงาน…ที่มากกว่านั้น”

--

--