Hand-on VS Hand-off
เราจะดูแลลูกทีมอย่างไรดี ใกล้ชิด หรือ ปล่อยวาง
เราควรบริหารลูกทีมอย่างไร เราควร Hand-On ดูแลใกล้ชิด หรือ ควร Hand-Off ปล่อยเขาให้จัดการเองเลย
หลายครั้งเราชอบเถียงว่า Style การดูแลทีมแบบไหนที่ดีที่สุด บางคนว่า Hand on ก็ไม่ดี ดูน่ารำคาญ ทีมคงรู้สึกว่าเราไม่เชื่อใจ หรือบางที Hand off น้องก็รู้สึกว่าถูกทิ้งทำไมพี่ไม่ใส่ใจ
ส่วนหัวหน้าแต่ละคน ก็มีลักษณะนิสัยไม่เหมือนกัน บางคนที่เป็น Perfectionsist หน่อยก็จะค่อนไปทาง hand on เพราะกลัวงานจะไม่ดี หัวหน้าที่ชิวหน่อย (อย่างผมเอง) ก็จะค่อนไปทาง hand off
แต่หนังสือเรื่อง High Output management ที่เขียนโดย Andy Groove เขียนเรื่องนี้ได้โดนใจผม
“มันไม่ได้เกี่ยวกับ Style ของหัวหน้า มันเกี่ยวกับว่าความพร้อมในตัวลูกทีมเป็นแบบไหน”
ในหนังสือใช้คำว่า Task Relevant Maturity หรือ TRM คือเขาพร้อมแค่ไหนกับงานนั้นๆ ถ้าเขาพร้อมมากก็ปล่อยได้เยอะ ถ้ายังไม่พร้อมก็ต้องดูแลเยอะหน่อย
ผมคิดว่าคงคล้ายๆกับการดูแลลูก เราไม่ได้เลี้ยงดูลูกในแต่ละวัยเหมือนกัน วัยที่เขาเด็ก เราก็ต้องดูแลเอาใจใส่ใกล้ชิด หากเผลอไปก็อาจเกิดอุบัติเหตได้ ส่วนเมื่อเขาโตขึ้นเขาอยากทำอะไรด้วยตัวเอง ถ้าเรามัวแต่ระวัง ทำเหมือนเขาเป็นเด็ก ห้ามโน่นนี่ เขาก็คงจะรำคาญ ยิ่งเขาโตเราก็ช่วยเขาน้อยลงเรื่อยๆ
ดังนั้นในการทำงานก็ไม่ต่างกัน เราต้องดูให้ออกว่า ทีมเรามีความพร้อมขนาดไหนแล้วเขาอยากให้เราช่วยแค่ไหน
TRM นี้ไม่ได้คงที่เสมอไป หากเราต้องย้ายงาน ความพร้อมในงานก็ลดลงไปใหม่ เราก็ต้องดูแลใกล้ชิดใหม่ ไม่ใช่ว่าเราเห็นคนนี้เป็นรุ่นใหญ่ย้ายมาทำงานกับเรา แล้วเราก็ปล่อยเขาเลย
อีกส่วนที่ผมคิดว่าดีคือ ดูแกนสองด้านของลูกทีม คือ Skill (ทักษะ) กับ Will (แรงจูงใจ) เพราะส่วนใหญ่ทีมมักขาดสองด้านนี้แหละ
Skill+/Will+ | Delegate
ถ้ามีครบ ส่วนใหญ่เขาคือ Talent หรือ Super Star ขององค์กร เราไม่ต้องทำอะไรมาก มอบหมายงานให้ชัด บอก Objective ความคาดหวังให้เคลียร์ก็เพียงพอ
Skill -/ Will + | Guide
กลุ่มนี้แรงจูงใจดี แต่ขาดทักษะ เป็นคนที่ตามีประกาย อยากทำงาน แต่ฝีมือยังไม่ได้ หรือเขายังไม่ค่อยมั่นใจ กลุ่มนี้เราก็ควรอยู่ใกล้ชิด Hand on มากหน่อย ค่อยเชียร์เขาจนเขามีทักษะที่ดีพอ เขาก็จะกลับไปอยู่ในกลุ่มแรก
Skill+/Will- | Sell
มีทักษะ แต่ขาดแรงบันดาลใจ กลุ่มนี้ทำงานได้ แต่มีความเฉื่อย สิ่งที่ต้องทำคือ กระตุ้นให้กำลังใจ หาสาเหตุให้เจอว่าเขาขาดแรงขับจากอะไร อาจเป็นจากสังคมที่ทำงาน หรือมีเรื่องผิดใจอะไรที่ไม่ได้รับการแก้ไข หรือเขาแค่ไม่อินกับสิ่งที่เราทำ หน้าที่เราคือต้องหาสาเหตุ แล้วก็จัดการ ขายไอเดียเราให้ผ่าน
Skill-/ Will- | Tell
กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ต้องปลุกปล้ำหนักสุด ต้องคลุกวงใน ซึ่งกลุ่มนี้ถ้าทำสำเร็จจะเห็นการพัฒนาที่โดดเด่นขึ้นมา หรือ เขาอาจเป็นคนที่ควรออกไป ถ้าไม่ได้จริงๆ แต่เมื่อไหร่ที่เรามีกลุ่มนี้ในองค์กร มันเหมือน Red frag อะไรบางอย่างเช่น มันอาจสื่อถึงเรื่อง Recruit ที่ไม่แข็งแรง หรือมีปัญหาในองค์กรที่ยังไม่ได้แก้
สรุป
สำหรับไม่มีหลักสูตรที่ตายตัวว่าแบบไหนที่ดีกว่า เราแค่ต้องประเมินให้ออกว่าทีมเราคนนั้นเขาอยู่ในช่องไหน แล้วเราก็จะได้รู้ว่าสิ่งที่เขาขาด หรือ เราควรเติมคืออะไร
ด้วยรักและเคารพ
:->m
