รีวิวหนังสือ เปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีด้วยวิธีเลิกบ่น
หลังจากที่เลิกงาน ก็ไปร้านหนังสือสีแดงแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จริงๆแล้วตั้งใจจะไปหาหนังสือประเภทการธุรกิจมาอ่าน แต่ก็มีบุคคลหนึ่ง ที่ชี้หนังสือเล่มนี้ แล้วบอกว่า ‘‘ อ่านเล่มนี้สิ แล้วจะได้เลิกบ่น’’ เอ่า อิหยังหว่าาา หลังจากนั้นก็ลองมาอ่านดู..
บ่น ความหมายในราชบัณฑิตยสถาน แปลว่า พูดพรํ่าหรือว่ากล่าวซํ้า ๆ ซาก ๆ
บ่น ในทางการแพทย์ คืออาการของการพูดชนิดหนึ่ง ซึ่งอาจมีลักษณะของการพูดในระดับเสียงตั้งแต่ค่อยที่สุดเหมือนกับพึมพำคนเดียวจนถึงระดับเสียงที่ดังฟังชัดเจนแล้วแต่อารมณ์และเจตนาของผู้บ่น
หลายๆครั้งเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีการบ่น ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือในกระทั่งที่สาธารณะ เราหลีกหนีไม่พ้นเรื่องแบบนี้แต่สามารถที่จะไม่บ่นได้
การบ่น ไม่ใช่การที่จะยุติปัญหา หรือการคลี่คลาย หากแต่เป็นการระบายอารมณ์เมื่อเกิดความไม่พอใจ เมื่อคุณเริ่มที่จะบ่น ความคิดลบจะเพิ่มขึ้น และทำให้พลาดเรื่องดีๆไปเลยก็ได้
อารมณ์ด้านลบส่งผลอะไรบ้าง?
- อายุสั้นลง
- ความเสี่ยงโรคหัวใจและหัวใจวายเพิ่มขึ้น
- ความเครียดจัด
- ภาวะหมดพลัง
- ความเจ็บปวดที่มากขึ้น
- การมีเพื่อนน้อยลง
- และการประสบความสำเร็จน้อยลง
ไหนล่ะ คือข้อดีของการบ่น หากคุณคิดว่ามีคุณก็ทำต่อไป แต่สำหรับใครที่พร้อมจะ ลด ละ เลิกแล้ว เราจะทำอย่างไรถึงยุติการบ่นได้ล่ะ ?
มันเป็นเรื่องที่ยากกกก สำหรับคนที่เคยบ่นเป็นประจำ บ่นเป็นนิสัย ดังนั้นการที่จะลดการบ่นต้องค่อยเป็นค่อยไป อันดับแรกเลย คุณต้องเริ่มคิดบวก คิดบวกในที่นี้ไม่ได้หมายถึงว่ามโน หรือโลกสวย แต่คือการคิดในหลายๆมุมมอง เช่น งานของคุณเยอะมาก ทำให้คุณเหนื่อยและเบื่อ แต่อีกมุมมองนึง ก็คือ อย่างน้อยเราก็ยังมีงานทำ และงานที่มากมายนั้นจะช่วยให้เราพัฒนามากยิ่งขึ้น หลังจากคิดบวกแล้ว คุณก็ใช้เครื่องมือสามอย่างแห่งการไม่บ่น หรือ 3 NO COMPLAINING TOOLS นั่นก็คือ
- ใช้คำว่า ‘‘แต่’’ เป็นเทคนิคการสร้างพลังบวก เป็นสิ่งง่ายๆ ที่สามารถเปลี่ยนคำบ่น เป็นความคิดเชิงบวกได้ เช่น ลูกชายของฉันเขาเรียนไม่ค่อยเก่ง แต่เขาก็เป็นคนดี ขยันช่วยงานบ้าน
- มุ่งเป้าไปที่การ ‘‘ได้ทำ’’ แทนที่จะเป็น ‘‘ต้องทำ’’ คนบางคนชอบที่จะคิดว่า ทำไมฉันต้องทำแบบโน้น ทำไมฉันต้องทำแบบนี้ ทำไมฉันต้องทำงานหนัก ทำไมฉันต้องเหนื่อย ลองเปลี่ยนมุมมองไหม เป็น ฉันโชคดีที่ได้ทำงานที่ฉันรัก ฉันได้ทำอาหารให้แมวของฉัน มุ่งเป้าไปที่ความสุขแทนที่จะเป็นเรื่องเคร่งเครียด
- เปลี่ยนคำบ่นเป็นทางแก้ สิ่งที่เราต้องการไม่ใช่การกำจัดการบ่นไปทุกอย่าง แต่เราต้องเลิกบ่นอย่างไม่มีเหตุผล เลิกบ่นกับสิ่งที่เราทำอะไรไม่ได้ หากแต่การบ่นนั้นทำให้เราสามารถระบุปัญหา และหาทางแก้ไขร่วมกันได้ เช่น ฝนตกทีไรน้ำท่วมพื้นที่นี้ทุกปี เราควรให้ผู้ที่ดูแลท้องที่นี้แก้ปัญหา โดยที่เราก็ร่วมกันแนะนำวิธี และไขปัญหาร่วมกัน
หลังจากที่เราทำลายการบ่นออกไป สิ่งที่เราควรจะทำแทนการบ่นนั้นก็คือ
- ฝึกฝนความรู้สึกทราบซึ้ง เราลองนับเรื่องดีๆในแต่ละวันให้ได้วันละสามเรื่อง เราจะมีความสุขมากยิ่งขึ้น
- ยกย่องผู้อื่น เลิกจับผิดผู้อื่น แต่สนใจในสิ่งที่เขาทำบ้าง ยกย่อง และเฝ้าดูพวกเขาสร้างความสำเร็จขึ้นมาแทน
- มุ่งเป้าไปที่ความสำเร็จ ลองเขียนบันทึกความสำเร็จก่อนเข้านอนในทุกๆคืน ซึ่งจะบันทึกสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวันนี้ เช่น วันนี้แก้บัคได้ เรานี่ยอดเยี่ยมที่สุด หรือ การทำงานวันนี้ราบรื่นดีมากไม่ติดปัญหาใดๆ
- ปล่อยวาง มุ่งเป้าไปที่สิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ และปล่อยวางสิ่งที่นอกเหนือจากการควบคุม แล้วทุกอย่างจะดำเนินไปได้ด้วยดี
- สวดมนต์และทำสมาธิ การทำสมาธิในทุกๆวัน จะช่วยลดความเครียด และกระตุ้มพลังงานบวก ทำให้มีสุขภาพดี มีชีวิตชีวา และอายุยืนยาว เมื่อใดที่คุณอยากจะบ่น หรือทนไม่ไหวกับสิ่งรอบข้าง ลองหยุด นิ่ง แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น
สุดท้ายนี้หลังจากที่คุณอ่านบทความนี้เสร็จ คุณอาจจะลืมไปแล้วว่ากฎแห่งการไม่บ่นสามข้อนั้น หัวข้อแรกคือหัวข้ออะไร แต่อย่างน้อยคุณก็ได้เข้ามาอ่าน และได้ประสบการณ์เรื่องใหม่ๆไปบ้าง ขอบคุณค่ะ 😊
ที่มา : ขอขอบคุณ หนังสือเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี ด้วยวิธีเลิกบ่น