[LIFE] Episode1: I GEAR GEEK
Blog นี้จะมาเล่าประสบการณ์การทำงานกับ Software House แห่งนึงในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ผมได้มีโอกาสร่วมงานอยู่เกือบ 3 ปี ลองมาดูกันครับว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้างจะโหด มันส์ ฮา เสียน้ำตาขนาดไหน มาลองดูกันครับ
Introduction
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มจากตอนที่ผมยังเป็นแค่นักศึกษาที่พึ่งเรียนจบใหม่ๆ พึ่งฝึกงานเสร็จไปหมาดๆ มีคืนนึงผมและกลุ่มเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันได้นัดกินข้าวกับพี่ๆกลุ่มนึงโดยมีหยก(เพื่อนคนนึงในกลุ่ม) เป็นคนติดต่อแนะนำพี่ๆ กลุ่มนี้ให้รู้จัก ประกอบไปด้วย พี่เซต พี่มิน และพี่เต้ย(ไม่ได้มาร่วมกินข้าว เเต่ได้เจอกันภายหลัง) ในวงก็พูดคุยเกี่ยวกับว่าเราทำอะไรเป็นบ้าง ทำโปรเจคจบอะไรมา ลงไปถึงรายละเอียดต่างๆของโปรเจค เเล้วพี่ๆเขาก็เล่าว่ามาเปิดบริษัทใหม่ ทำเกี่ยวกับ software house และ product ต่างๆเป็นของตัวเอง ทั้งสองฝ่ายต่างก็เล่าเรื่องราวของตัวเอง แน่นอนว่าผมก็สนใจอยากจะลองร่วมงานกับพี่ๆเขาดูเหมือนกัน
หลังจากแยกย้ายกันไปผมก็ได้ติดต่อไปสมัครงาน พี่เขาก็ได้เรียกไปสัมภาษณ์ ตอนนั้นมีผมกับโบ๊ท(เพื่อนอีกคนนึงที่มีที่ทำงานเเล้ว) ตอนสัมภาษณ์นั้นพี่เขาก็ถามรายละเอียดเกี่ยวกับงานที่ทำ รวมไปถึงตอนฝึกงานว่าทำอะไรมาบ้าง? ซึ่งสุดท้ายก็ให้ยื่นตัวเลขที่สนใจ เเล้วก็เเยกย้ายรอผล… สุดท้ายผมได้รับโทรศัพท์จากพี่เซตว่าได้งานเเล้วนะให้มาเริ่มงานได้เลยเรียกว่าดีใจแบบสุดๆ ^^
Office
ตอนนั้นจำได้ว่าอยู่ที่ออฟฟิศเก่า มีนั่งกันอยู่ สามคน มีผม พี่เต้ย เเล้วก็พี่มิน ช่วงเเรกๆก็ใช้ codeigniter(PHP) ในการทำ project เเล้วก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับ process การทำงานการใช้ kan ban board ในการเเตก task วิธีลงรายละเอียดว่า task ไหนควรให้เวลาเท่าไหร่ ยังไง
เวลาผ่านไปพี่เซตก็เข้ามาร่วมทีมแบบเต็มตัว พนง.ก็เพิ่มมากขึ้น ก็ได้ย้ายที่อยู่ของ office และเริ่มมีคนมาสัมภาษณ์ก็มีทั้งผ่านบ้างเเละไม่ผ่านบ้าง งานที่รับเข้ามาก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย สิ่งที่ได้ทำนั้นก็มีทั้ง frontend และ backend ที่ใช้ทั้ง laravel, codeigniter, react-native, vue, nuxt, express, adonis, cypress, line api, etc. เรียกว่ามี technology ใหม่ให้เรียนรู้เยอะมากๆๆๆๆ สำหรับผมนี่ทั้งสนุกและท้าทายมากๆ
Flow การทำงาน
การทำงานของผมนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น sprint (รอบการทำงาน รอบละ 2 อาทิตย์) ช่วงนี้ก็จะมี requirement เข้ามาให้เราประเมินว่าจะสามารถส่งงานอะไรได้บ้างในรอบ sprint นี้ พอช่วงกลางของอาทิตย์ก็จะมี code review, และศุกร์แรกก็จะมี meeting ว่างานเป็นยังไงถึงไหนเเล้วบ้าง ติดปัญหาอะไรไหม และศุกร์สุดท้ายก็จะมี retro ปัญหาว่า sprint ที่ผ่านมานั้นมีอะไรต้องเเก้ไขไหม หรืออยากให้ทำอะไรต่อไป
ออ ทีมของผมก็จะมีประมาณ 3–4 คน ประกอบไปด้วย SA/BA 1, DEV 2, Senoir 1, ประมาณนี้ครับ ซึ่ง process การทำงานแบบนี้นั้นพึ่งจะมาเริ่มในช่วงประมาณปีที่ 2 ซึ่งเป็นช่วงที่คนเริ่มเยอะกันเเล้ว ส่วนช่วงปีแรกๆที่ทำก็จะเป็น plan เหมือนกันเเต่จะไม่มีเรื่องการมี meeting กลาง sprint หรือ retro เเต่จะมี review code อยู่เสมอๆ (ส่วนตัวชอบ process การ review code นะครับ เพราะว่าเราได้เห็น code ของคนอื่น ได้เห็นวิธีคิดของคนอื่น แล้วก็ได้เล่าให้คนอื่นเห็น code ของเรา ซึ่งสามารถ แบ่งปันความรู้กันได้ดีมากๆ)
I GEAR GEEK นั้นเป็น software house ที่ช่วงเเรกๆนั้นยังไม่มีใครรู้จักเลยในเชียงใหม่ ซึ่งเราเองก็ได้จัดงาน และร่วมจัดงานเกี่ยวกับ developer community อยู่หลายงาน รวมถึงไปออกบูทตาม มหาวิทยาลัยต่างๆ ออกไปสอนน้องนักศึกษาบ้าง จัด course สอนเขียน program บ้าง ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกกิจกรรมที่จัดอยู่บ่อยๆซึ่งผมก็ได้มีโอกาสช่วยงานอยู่บ้างเป็นครั้งคราวไป
สวัสดิการ
มาถึงสวัสดิการของ I GEAR GEEK กันบ้าง ซึ่งถ้าใครเข้ามาก็จะมี Macbook มีจอคอมให้ แล้วก็ยังมีวันลาแบบไม่จำกัด (ก็ลองดูเอาว่ากระทบกับ timeline ของ project ไหม สามารถคุยกับทีมได้) ซึ่งผมก็ถือว่าลาเยอะอยู่ 555 เที่ยวบ่อยจริงๆ ก่อนช่วงที่จะมี covid แล้วก็มี monthly dinner ไปกินข้าวร่วมกันทุกเดือน, กิจกรรมปีใหม่, outing ปีละครั้ง, sport day สามารถเบิกเงินเพื่อไปเล่นกีฬาได้เป็นกลุ่ม ส่วนค่าตอบเเทนนั้นก็จะปรับขึ้นเเต่ละปีตามความสามารถ เสาร์-อาทิตย์ก็ไม่ต้องทำงานนะ รวมถึงหยุดตามวันหยุดนักขัตฤกษ์ของไทยด้วย (วันหยุดรวมๆกันในปีๆนึงก็เยอะอยู่นะ)
บรรยากาศภายในออฟฟิศ
ส่วนเรื่องบรรยากาศภายในออฟฟิศก็จะเป็นเเนวพี่น้องนั่งคุยกันตามทีมของตัวเอง มีอะไรก็สามารถถามพี่ๆ senior ได้ จริงๆก็คุยกันทุกเรื่องเลยนะไม่ใช่เเค่เรื่องงาน ในออฟฟิศก็จะมีช่วงเสียงดัง แล้วก็มีช่วงที่เงียบบ้าง เเต่ส่วนใหญ่จะเสียงดังนะ ทั้งเพลงทั้งคุยกัน 555 เเต่ก็สนุกดีไม่เหงาได้บรรยากาศออฟฟิศ
จริงๆนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานก็ได้ยินเรื่องของคนอื่นคุยกันนะ 555 (เพราะห้องเเคบหรอ?) ไม่ใช่! เพราะคุยกันเสียงดัง พ๊าม!!! ผ่านไปก็เวลาเริ่มงาน 10 โมงเช้า จะเริ่ม daily stand up meeting เเล้วก็เลิกงานกันประมาณ 6 โมงเย็นถึงทุ่ม ถ้าไม่มี task หรือไม่มีเรื่องอะไรร้ายแรงก็กลับบ้านกันละ ส่วนใครพลาดเจอเรื่องราวที่ต้องอยู่ดึกๆ ก็จะมีพี่ senior อยู่ด้วยเพื่อเเก้ปัญหา ยกเว้นว่าทำงานไม่เสร็จตาม commit ไว้ก็ต้องอยู่ทำจนจบนะ แต่ก็จะมี KFC ให้กินอยู่ 555 ใครติดปัญหาก็จะเเซวกันว่าเย็นนี้ KFC ไหม~ (จริงๆ KFC น่าจะเป็น sponsor ให้ I GEAR GEEK นะกินกันบ่อยจริงๆ)
และแล้วมีพบก็ต้องมีจาก เมื่อผมมานั่งคิดทบทวนกับตัวเองในสิ่งต่างๆที่ผ่านมา ผมก็ตัดสินใจลาออก! เพราะด้วยเวลาที่ผ่านมาก็นานพอตัว เรียกว่าถึงจุดอิ่มตัวเเล้วก็ว่าได้ อยากจะลองออกไปใช้ชีวิตแบบใหม่ ลองค้นหาประสบการณ์แบบใหม่ งานใหม่ๆ ดูบ้าง ซึ่งทางผมเเละ I GEAR GEEK ก็ตกลงแยกทางกันโดยดีไม่มีเรื่องอะไรขัดแย้งกัน
ผมก็ต้องขอบคุณที่แห่งนี้มากๆ ที่ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก เยอะมากจริงๆ และยังสอนอะไรหลายๆ อย่างทั้งเรื่องการใช้ชีวิต ประสบการณ์ วิธีคิด วิธีการทำงาน รวมถึงให้โอกาส และเป็นที่ทำงานที่แรกของผมด้วย บ๊ายบาย I GEAR GEEK
Memory…
