Black Kite ตอนที่ 2

จากโพสต์ก่อนเราเล่าถึงประโยชน์เบื้องต้นของ Solution ประเภท IT VRM ในโพสต์นี้จะขอลงรายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับการทำงาน

Solution ประเภทนี้จะมาในรูปแบบของ SaaS ซึ่งเป็น Cloud-based Platform ซึ่งสาเหตุที่ไม่มี On Premise เพราะว่า Solution ประเภทนี้เปรียบเสมือนถังข้อมูลขนาดใหญ่ที่ทำการเก็บรวบ ๆ ข้อมูลต่าง ๆ จากการไปซื้อ Data Feed จากแหล่งต่าง ๆ หรือทำ Internet Scanning เอง (ลองนึกถึง Shodan.io ครับที่มี Scanner กระจายอยู่ทั่วโลกและทำการ Scan ทุก ๆ IP Address บนโลกแล้วเก็บข้อมูลให้เราเข้าไป Query)

การมีข้อมูลขนาดใหญ่นี่แหละที่เป็นจุดสำคัญที่ทำให้เมื่อเวลาที่ User ใช้งานก็แค่ใส่ Domain ที่ต้องการตรวจสอบเข้าไประบบก็จะทำ Asset Discovery และทำการ Mapping ความเสี่ยงที่พบเข้ากับ Asset ขององค์กรและสรุปผลในภาพรวมออกมาเพื่อประเมินเป็นความเสี่ยง รวมถึงประเมินเป็นคะแนนขององค์กร (Security Rating)

ตอนที่ทำ Asset Discovery ทาง Black Kite จะค้นหา Domain ที่เกี่ยวข้อง, Sub-domain, IP Address ต่าง ๆ ที่องค์มีการใช้งานอยู่นั่นเอง จากนั้นก็จะแสดงผลออกเป็นคะนนให้เราดู

ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการแสดงผลก็มักจะออกมาเป็นแกนเดียวก็คือด้าน Technical นั่นเอง แต่สำหรับ Black Kite นั้นจะแสดงผลออกมาเป็น 3 แกนหลัก ได้แก่ ด้าน Technical, Financial และ Compliance โดยแต่ละแกนจะสามารถช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในองค์กรสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ตามความเหมาะสม

ทั้งนี้การประเมินความเสี่ยง รวมถึงแนวทางการแสดงผลการให้คะแนนนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละ Solution จะใช้อะไรเป็นเกณฑ์บ้าง (ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละที่ก็จะบอกว่าของตัวเองดี มีมาตรฐาน)

หากท่านใดสนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ contact@incognitolab.com

--

--