ประสบการณ์การสอบ LINE Certified Coach for API ปี 2021 (ตอนที่ 2)
หลังจากผ่านทั้งด่านยื่นใบสมัครและการสอบข้อเขียนแล้ว ด่านสุดท้ายก็คือการสัมภาษณ์ค่ะ เราจะบอกผลสัมภาษณ์ตรงนี้เลยว่า “ไม่ผ่าน” นะคะ 5555 แต่ก็อยากจะมาเขียนบทความส่งท้ายปีเอาไว้ เพื่อบันทึกตอนจบของประสบการณ์การสอบ LINE Certified Coach for API ปี 2021 ให้ตัวเองไม่ลืมความรู้สึกและเส้นทางความพยายามของตัวเองค่ะ
Rehearsal
หลังจากที่ได้รับอีเมลแจ้งมาว่าผ่านเข้าสู่รอบสัมภาษณ์ ภายในอีเมลก็จะแจ้งรายละเอียดหัวข้อที่เราต้องไปนำเสนอ ซึ่งหัวข้อจะเกี่ยวกับการนำ LINE ไปใช้สนับสนุนจุดประสงค์ทางธุรกิจในแง่ต่าง ๆ ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน โดยมีเวลานำเสนอ 30 นาที และถาม-ตอบอีก 15 นาที นอกจากนี้ก็มีรายละเอียดสถานที่ และลิ้งก์สำหรับจองเวลาที่เราจะสะดวกสัมภาษณ์ค่ะ โดยเรามีเวลาเตรียมตัวถึง 2 สัปดาห์เลย
พอเห็นหัวข้อก็แอบกังวลอยู่ เรายอมรับเลยว่าประสบการณ์การมองด้านธุรกิจของเรายังน้อยมาก ดังนั้นในช่วงเตรียมตัว เราจึงพยายามอ่านกรณีตัวอย่างของธุรกิจต่าง ๆ ที่นำ LINE ไปใช้ ทั้งจากทางเว็บไซต์ของ LINE for business และจากเว็บหรือเพจการตลาดต่าง ๆ และจากการตามอ่านข้อมูลแนวนี้ก็ทำให้เราเห็น pain point ของธุรกิจหลายแบบมากขึ้น และ LINE เข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ได้อย่างไร
นอกจากมุมมองทางธุรกิจแล้ว เราก็พยายามอ่านบทความและฟังพ็อดแคสต์ของ LINE เพื่ออัพเดทความรู้และเทคนิคการใช้ LINE API เพิ่มด้วย ถึงแม้ว่าข้อมูลจะเยอะแต่วิธีการเล่าเนื้อหาแต่ละตัวก็สนุกมาก ฟังเพลิน จนบางทีก็ลืมเครียดว่ากำลังเตรียมสอบเลย 😆 😆
พอศึกษาข้อมูลพร้อมแล้วก็ใช้เวลาเตรียมสไลด์ และฝึกนำเสนออยู่ 10 กว่าวัน ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาเตรียมตัวนานขนาดนี้ แต่ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจอยู่ดี เพราะปกติเป็นคนขี้อายมาก การพูดในที่สาธารณะจึงเป็นความท้าทายคู่กายมาตลอด บวกกับยังรู้สึกว่าประสบการณ์ของเราในการประยุกต์ใช้ LINE API ไม่มากพอด้วย แต่ถึงจะกังวลแค่ไหน วันสัมภาษณ์ก็ต้องมาถึง และเราก็แค่ต้องทำให้ดีที่สุด
D-Day
สถานที่สัมภาษณ์คือออฟฟิศ LINE Thailand ที่อาคารเกษร ทาวเวอร์ และด้วยความตื่นเต้น เราเลยไปก่อนเวลา 30 นาที เพื่อทำสมาธิและทำใจ 5555 ทาง LINE ก็น่ารักมากมีคูปองให้สั่งเครื่องดื่มของ LINE ฟรีด้วย อร่อยจนลืมกังวลไปเลย
เข้าเรื่องดีกว่า ภายในห้องสัมภาษณ์ก็จะมีกรรมการจากทีมธุรกิจ และทีม API ซึ่งฝั่ง API ก็จะเป็นคุณตี๋กับคุณแทนคนดังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ ในช่วงสัมภาษณ์เขาจะให้เรานำเสนอสิ่งที่เราเตรียมมา โดยมีจอทีวีให้ต่อกับแล็ปท็อปที่เราเตรียมไป บรรยากาศค่อนข้างเป็นกันเอง ทำให้ลดอาการประหม่าของเราไปได้เยอะเลย และตอนที่นำเสนอก็ได้พูดตามที่ซ้อมไว้ไป อาจมีหลุดรายละเอียดบางจุดไปบ้าง แต่โดยรวมเรารู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก ๆ ที่ไม่ทำให้มีเดดแอร์ตอนนำเสนอได้
และก็มาถึงช่วงที่ตื่นเต้นที่สุด ก็คือ ช่วงถาม-ตอบ ค่ะ
— คำถามก็จะมีทั้งคำถามเชิงเทคนิคเกี่ยวกับ API ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงให้เราบอกวิธีแก้ปัญหา หรือวิธีทำงานเวลาเจอเคสต่าง ๆ ซึ่งผลบุญจากการเตรียมตัวอ่านกรณีศึกษามาก่อนก็ช่วยได้เยอะมาก ๆ เลย ทำให้เราพอเห็นภาพการแก้ปัญหาคร่าว ๆ ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่เคยทดลองทำเคสบางเคสเองโดยตรง
— ส่วนด้านธุรกิจก็จะเป็นคำถามแสดงวิสัยทัศน์ และวิธีการเผยแพร่ความรู้ของเรา พอมองย้อนกลับไป เรากลับคิดว่าเรายังทำด้านนี้ไม่ดีเท่าไหร่นัก วิสัยทัศน์และมุมมองของเรายังแคบ และไม่ได้ว้าวขนาดนั้น
Reflection
หลังออกจากห้องสัมภาษณ์ ความรู้สึกแรกเลย คือ โล่ง!! 5555 โล่งแบบไม่รู้สึกเสียใจว่าเราควรจะเตรียมตัวมาดีกว่านี้นะหรือตอนสัมภาษณ์เราน่าจะตอบไปแบบนี้นะ เราคิดว่าตอนนั้นเรามีสติ และตอบเท่าที่ความรู้ที่เราสะสมประสบการณ์มา 1 ปีและเตรียมตัวมา ณ เวลานั้นจะตอบได้แล้ว
พอผลสัมภาษณ์ออกมาว่า “ท่านยังไม่ผ่านการคัดเลือกให้เป็น LINE Certified Coach ในปีนี้” ยอมรับว่าก็มีเศร้าบ้าง แต่ก็เข้าใจเหตุผล และกลับทำให้เรามีไฟในการพัฒนาตัวเองเพิ่มขึ้นอีก เพราะในประโยคนั้นเราไม่ได้สนใจที่คำว่า “ไม่ผ่าน” แต่สนใจคำว่า “ปีนี้” มากกว่า การที่เราไม่ผ่านไม่ได้แปลว่าเราล้มเหลว แต่หมายความว่าในปีนี้เรายังมีความรู้ทางด้านเทคนิคและประสบการณ์ด้านธุรกิจไม่พอมากกว่า ดังนั้น ต่อไปเราก็แค่ต้องไปเรียนรู้เพิ่มเท่านั้นเอง
สุดท้ายอยากจะขอบคุณพี่แก้วที่ผลักดันและโน้มน้าวหนักมากให้เรามาสอบ ทำให้เราได้รับโอกาสและแรงกดดันในการพัฒนาตัวเองทั้งในช่วงสั้น ๆ ที่เตรียมสอบ และสิ่งที่อยากจะพัฒนาเพิ่มในระยะยาว ขอบคุณเพื่อนที่รับฟังการทะเลาะกับตัวเองวนไปมาของเรา และสำคัญสุดขอบคุณตัวเองที่ทำเต็มที่ เรารู้สึกภูมิใจที่ผลักตัวเองมาขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่ตอนสมัครมีคำถาม และความไม่มั่นใจตัวเองมากมายในหัว
ขอให้สนุกและเครียดกับการพัฒนาตัวเองต่อไปนะ
พีพี
2020.12.20
