ประสบการณ์การสอบ LINE Certified Coach for API ปี 2021 (ตอนที่ 1)

ถ้าขอสามคำให้กับประสบการณ์ครั้งนี้ คงต้องบอกว่า ตื่นเต้น ประทับใจ และสนุก

เริ่มทำความรู้จักกับโครงการ

หลายคนที่ไม่คุ้นอาจจะงงว่า LINE Certified Coach คืออะไร ถ้าจะให้ตอบสั้นก็คือโครงการที่ LINE SME Business ใช้เฟ้นหาตัวแทนที่จะไปช่วย LINE เผยแพร่ความรู้และเทคนิคการใช้ช่องทางต่าง ๆ ของ LINE ในการทำธุรกิจให้กับกลุ่ม SME

โดยโครงการ LINE Certified Coach จะแบ่งออกเป็น 2 สาย คือ

• สายธุรกิจ (for Business) — เน้นการทำ digital marketing และ e-commerce ด้วยช่องทางจาก LINE เช่น LINE OA, LINE Ads Platform (LAP), LINE MyShop เป็นต้น
• สาย API (for API) — เหมือนกับสายธุรกิจเลย แต่เพิ่มในส่วนของการเขียนโปรแกรมเพื่อใช้ LINE API สำหรับธุรกิจเพิ่มขึ้นมา

หลายคนมักคิดว่าถ้าผ่านโครงการนี้จะได้เป็นพนักงานของ LINE ต้องขอเคลียร์กันตรงนี้เลยว่าไม่ใช่เน่อ โครงการนี้เป็นเพียงการรับรองคนที่มีความรู้ในการใช้ LINE สำหรับทำธุรกิจเท่านั้น เอ๊ะ แล้วประโยชน์ของโครงการนี้คืออะไรล่ะ ขอบอกเลยว่าถ้าเราสามารถผ่านการทดสอบทุกด่านไปได้ สิ่งที่เราจะได้รับก็คือ

• อัพเดทข่าวสารและฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ LINE ก่อนคนอื่น ๆ
• โอกาสได้เข้าร่วมงานและกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นโดย LINE Thailand ตลอดทั้งปี
• แถมได้มีโอกาสไปช่วยแชร์ความรู้ด้าน LINE for business ให้กับกลุ่ม SME และแบรนด์ต่าง ๆ ผ่านช่องทางของ LINE และพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ ด้วย

ขั้นตอนการสมัคร

1. การยื่นใบสมัคร

ขั้นตอนแรกสุดของโครงการ คือการยื่นใบสมัครผ่านฟอร์มแบบสอบภามออนไลน์ของ LINE โดยจะมีคำถามเกี่ยวกับ

• ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-สกุล, ช่องทางการติดต่อ เป็นต้น
• ประสบการณ์การสอน/บรรยาย/การให้คำปรึกษา
• ความเห็นเกี่ยวกับการนำ LINE ไปใช้ตอบโจทย์ธุรกิจ SME
• เล่าเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการบรรยายที่ผ่านมาของตัวเอง พร้อมเหตุผลว่าทำไมเราถึงควรได้รับเลือกเป็น LINE Certified Coach

หรือถ้าใครมีผลงานอยากจะโชว์อีกก็สามารถส่งไปทางเมลเพิ่มได้นะ

จริง ๆ แค่ตัดสินใจทำมาถึงขั้นตอนนี้ได้ก็ถือว่าเราได้โอกาสมาทบทวนตัวเองในระดับหนึ่งแล้วว่าเวลา 1 ปีที่ผ่านมาเราได้ทำอะไร หรือได้พัฒนาตัวเองไปอย่างไรบ้างในสายนี้ แล้วพอเราได้เห็นพัฒนาการของตัวเอง ก็รู้สึกมีกำลังใจในการเรียนรู้ต่อไปด้วย
— Good-quality me-time ✅

2. การสอบข้อเขียน

พอกลั้นใจส่งใบสมัครไป หนึ่งสัปดาห์ต่อมาก็จะมีอีเมลส่งมาบอกว่าเราผ่านเข้าไปสู่รอบข้อเขียนนะ และแจ้งว่าอีกหนึ่งสัปดาห์ให้ไปสอบข้อเขียนที่ M Academy ในบิ๊กซี ราชดำริ โดยเริ่มลงทะเบียนตั้งแต่ 8.30 น. กันเลยทีเดียว

สิ่งแรกที่เราประหลาดใจเมื่อถึงที่สอบคือ จำนวนผู้เข้าสอบที่เยอะมาก ประมาณด้วยสายตาก็น่าจะถึงหลักร้อย ไม่เหมือนกับที่เคยได้ยินมาในปีก่อน ๆ เท่าไหร่ โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้สมัครสาย business ส่วนสาย API เหมือนจะมีไม่ถึง 50 คนเลย

ทั้งนี้ จำนวนคนก็ไม่ได้มีผลอะไรกับการสอบนี้เท่าไร นอกจากช่วยเพิ่มความอบอุ่นและคึกคักให้กับงาน เพราะในการสอบข้อเขียนแค่เราสอบได้คะแนนถึงเกณฑ์ก็ผ่านเข้ารอบถัดไปได้เลย ดังนั้นมันจึงเป็นการแข่งกับตัวเองมากกว่า โดยเกณฑ์การสอบผ่านของสาย business กับสาย API จะต่างกันดังนี้

• สาย business จะต้องสอบเรื่อง LINE OA, Verfied Account, LAP และ LINE MyShop ให้ได้ 75%
• สาย API จะใช้ข้อสอบเดียวกับสาย business เลย แต่เพิ่มเนื้อหาด้าน API มาอีก 10 ข้อ โดยผู้สอบกลุ่มนี้จะต้องได้คะแนนในส่วนของ business แค่ 70% และ 60% ในส่วนของ API

พอฟังเรื่องข้อสอบ หลายคนก็อาจจะแอบหวั่นใจ แต่อยากบอกว่าอย่าพึ่งถอยกันนะ เพราะทาง LINE เขามีจัดอบรมแต่ละหัวข้อให้กับผู้สอบทุกคนก่อนจะสอบโดยทีมที่ดูแลโปรดักส์ต่าง ๆ ของ LINE โดยตรงเลยด้วย ผู้เข้าสอบจากทั้งสองสายจะได้ทวนหัวข้อด้าน business ในช่วงเช้า แล้วในตอนบ่ายสาย business จะแยกออกมาสอบก่อน ส่วนสาย API ก็จะได้ฟังทอล็คโชว์เกี่ยวกับ API ของ LINE จากคุณตี๋กันอีกหนึ่งเซสชั่นก่อนสอบ

แต่ถ้าหวังว่าจะฟังแค่อบรมแล้วทำข้อสอบได้เลย ก็อยากจะเตือนกันนิดหนึ่งว่ามันไม่พอนะ เพราะโครงการนี้เป็นการรับสมัครผู้เชี่ยวชาญมาช่วยเผยแพร่ความรู้แทน LINE ดังนั้นวิทยากรเลยคาดหวังว่าผู้สอบจะรู้พื้นฐานมาอยู่แล้ว เนื้อหาที่อบรมจึงจะเน้นแค่ประเด็นหลัก ๆ และจุดที่ผู้ใช้งานประสบปัญหาบ่อย ๆ เท่านั้น ตัวผู้สอบเลยต้องมีความรู้ และประสบการณ์ในการใช้โปรดักส์ต่าง ๆ การเรียกเก็บเงิน รวมทั้งวิธีแก้ปัญหาการใช้งานมาบ้างแล้วระดับหนึ่ง

ถึงจุดนี้ หลายคนอาจจะแอบท้อนิดหน่อย แต่เราคิดว่าถึงจะสอบข้อเขียนไม่ผ่านก็ไม่เป็นอะไรเลย แค่ได้มาฟังเทคนิค กรณีศึกษา และอัพเดทความรู้ก็คุ้มค่ามากแล้ว แถมหลังเซสชั่นการอบรมก็ยังมีโอกาสให้เราได้คุยกับทีมที่ดูแลโปรดักส์ต่าง ๆ ของ LINE ได้โดยตรงอีก ยังไม่รวมที่เราได้มาทดสอบความรู้ และท้าทายตัวเองไปอีกขั้นด้วยนะ

สถานีต่อไป…การสอบสัมภาษณ์ (โปรดติดตามตอนต่อไปกันนะคะ)