MVP on LINE
เมื่ออธิบายว่าทำไมถึงไม่ควรจะต้องสร้าง Mobile app ในบทความ “ไม่ต้องมี App กันแล้ว” ก็จะมีคำถามว่า แล้วควรจะต้องทำยังไงเพื่อให้สามารถสร้าง ช่องทาง ให้คนสามารถรับข้อมูลและบริการผ่าน web และ LINE กันได้
ซึ่งก่อนจะตอบคำถาม เราจะแบ่งเป็นสองกรณีก่อนคือ
- กรณีที่ให้บริการอยู่แล้วบนช่องทางปกติ (ที่ไม่ใช่ Mobile)
- กรณีที่ยังไม่เคยให้บริการใดๆ แต่กำลังจะเริ่มให้บริการ
สำหรับกรณีแรกนั้น สิ่งที่เราควรจะทำเพื่อเพิ่ม ช่องทาง คือ ถามผู้ใช้บริการ ว่า ช่องทางเดิมมีปัญหาอะไรไหม และถ้าจะมีช่องทางใหม่บน web หรือ LINE อยากให้ทำอะไรก่อน เพื่อให้รู้ว่าส่วนไหนของบริการที่เป็นปัญหาอยู่ และถ้าจะเพิ่มช่องทางบริการ อะไรเป็นสิ่งแรกที่ต้องทำให้เสร็จ
ส่วนสำหรับกรณีที่สอง สิ่งที่เราต้องทำคือ สำรวจตลาด ก่อนว่า บริการที่เราจะทำนั้น มีความต้องการจริงหรือไม่ ถ้ามีความต้องการจริง จะมีขนาดตลาดสักเท่าไร เพื่อที่จะสามารถตัดสินใจว่าจะทำอะไรบ้างได้
เมื่อเราได้ข้อมูลแล้ว เราถึงค่อยเริ่มวางแผนและลงมือทำ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องเรียนรู้ให้มากที่สุด ยอมผิดพลาดให้เจ็บตัวน้อยที่สุด เพื่อให้เราสามารถหาแนวทางที่เหมาะสมที่สุดได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราต้อง fail-fast เพราะเมื่อเราผิดพลาด ผลกระทบจากการผิดพลาดก็จะไม่มากเกินเงินทุนและเวลาที่เราจ่ายไปแล้ว ซึ่งถ้าเราผิดพลาดเร็ว เงินทุนและเวลาที่ใช้ไปก็จะยิ่งน้อย ก็จะทำให้เรายังมีเงินทุนและเวลาไปหาทางแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด หรือทดสอบช่องทางอื่นๆได้เพิ่มขึ้น
วิธีการที่จะทดสอบว่า ช่องทาง LINE สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดหรือเปล่า ได้อย่างรวดเร็ว และเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดคือ
- จ้างคนมาตอบคำถามผ่าน LINE และบริหารจัดการด้วยมือไปก่อน อย่าเพิ่งสร้าง bot หรือระบบที่ยังไม่จำเป็น พอมีจำนวนผู้มาใช้บริการและข้อมูลการโต้ตอบและการใช้บริการที่เพียงพอแล้วค่อยสร้าง bot และระบบสำหรับช่วยตอบโต้อัตโนมัติ
- ใช้เครื่องมือสร้างเวปและส่วนประกอบอื่นๆที่ง่าย และรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องมีความสามารถเยอะ เช่น ใช้ google sites สร้างเวป และใช้ facebook เป็นช่องทางให้สร้างและตอบกระทู้
ซึ่งสินค้าหรือบริการที่มีความสามารถน้อยที่สุดที่ใช้งานได้นั้นเราเรียกว่า Minimum Viable Product หรือเรียกย่อๆว่า MVP (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ “MVP แนวคิดประหยัดต้นทุน ทดสอบไอเดียของคุณก่อนทำธุรกิจจริง”) และเนื่องจากมันมีความสามารถน้อย ดังนั้นเวลาและเงินทุนที่จะสร้างก็น้อยไปด้วย
เมื่อเราทำการทดสอบตลาดด้วย MVP นี้แล้ว และได้ผลยืนยันความคิดของเราแล้ว เราค่อยสร้างระบบและเครื่องมือเท่าที่จำเป็นขึ้นมาใช้งานและให้บริการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างสิ่งที่สมบูรณ์ตั้งแต่แรก ซึ่งจะทำให้เราเจ็บตัวน้อยที่สุด และมีโอกาสสำเร็จมากขึ้น
และถ้าจะต่อยอดไปที่ร้านค้า ขายของ ทั้งขายออนไลน์ ส่งของถึงมือลูกค้าเลย หรือ ขายคอร์ส ให้ลูกค้ามาเรียนกันทีหลัง จริงๆก็มีตัวช่วยทำ MVP อยู่ คือ My Shop ของ LINE ที่สามารถ:
- สร้างหน้าเวปแสดงสินค้าได้ง่ายๆ
- มีระบบข้อมูลจำนวนสินค้า
- รับ order ผ่าน LINE ได้
- แจ้งช่องทางการรับเงินผ่านการโอนแล้วให้ส่งหลักฐานมาทาง LINE เพื่อตรวจสอบ
- ส่งข้อความยืนยันการรับเงิน
- tracking order สำหรับส่งของได้ด้วย
โดยที่ว่ามาทั้งหมดนี่ ฟรี!
ใครสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ลองไปอ่าน “ขายของออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเมื่อคุณใช้ LINE My Shop” หรือดู “สอนตั้งค่า และใช้งาน LINE MY SHOP เปิดร้านค้าออนไลน์” หรือจะให้ไปช่วยสอนก็ติดต่อหลังไมค์มาได้เช่นกัน
แน่นอนว่าถ้าคิดว่าความสามารถที่ My Shop เตรียมไว้นั้นเพียงพอต่อธุรกิจอยู่แล้ว จะใช้ยาวๆไปเลยก็ได้ แต่ถ้าคิดว่าไม่รู้จะพอหรือเปล่า ให้มองว่ามันเป็น MVP เพื่อทดสอบตลาด และเรียนรู้ว่าสิ่งที่ต้องการเพิ่มเติมคืออะไร แล้วค่อยไปสร้างสิ่งต่างๆเหล่านั้นมาเพิ่ม ก็จะช่วยลดเวลาที่ใช้สร้างเครื่องมือในการเรียนรู้ไปได้เยอะ
อาจจะมีข้อเสียนิดหน่อยคือ ในตอนนี้ My Shop ยังไม่สามารถใช้ bot จัดการรับ order ให้ได้ ทำให้ต้องมีคนคอยจัดการ order ทำให้ลูกค้าได้รับของช้าลง แต่อาจจะมองว่าเป็นงานที่ต้องใช้คนตรวจสอบอยู่แล้วก็ได้ ซึ่งคาดว่าในอนาคต จะสามารถที่จะเชื่อมต่อ bot กับ My Shop เพื่อจัดการข้อมูล order ได้อัตโนมัติ
ถึงแม้ว่าเป้าหมายสุดท้ายเราจะต้องการบริการหรือเครื่องมือที่ดี แต่เนื่องจากบริการและเครื่องมือที่ดีนั้น มีค่าใช้จ่ายและใช้เวลาในการสร้าง ดังนั้นเราควรที่จะเริ่มให้บริการในกลุ่มเล็กๆ ด้วยบริการหรือเครื่องมือที่จำกัด เพื่อยืนยันความต้องการของลูกค้า ไม่ให้เราสร้างสิ่งที่เกินไปจากความต้องการ ที่ทำให้มีราคาแพง และส่งมอบได้ช้าลง
