การรับรู้
หนึ่งในคำที่ใช้กันมากในวงการการตลาดคือ “การรับรู้” หรืออะแวเนส (Awareness) หลายต่อหลายบริษัทพยายามอย่างยิ่งที่จะสร้างการรับรู้ให้เกิดขึ้นกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
การรับรู้ในแบรนด์ การรับรู้ในบริษัท การรับรู้ในสินค้า การรับรู้ในบริการ ทั้งหมดคือจุดมุ่งหมายสำคัญของการลงทุนทางการตลาดของบริษัททั่วไป ดูผิวเผินก็ไม่มีอะไรผิดที่เราอยากให้คนวงนอกรู้ว่าเรามีตัวตนอยู่ตรงนี้ แต่ลองสังเกตดูสักนิดว่าการรับรู้เหล่านั้นมันเป็นการพูดถึงตัวเองฝ่ายเดียวรึเปล่า
- แบรนด์ของฉัน
- บริษัทของฉัน
- สินค้าของฉัน
- บริการของฉัน
ศูนย์กลางคือคนพูดไม่ใช่คนฟัง ศูนย์กลางคือคนขายไม่ใช่คนซื้อ ศูนย์กลางคือผู้สร้างไม่ใช่ผู้ใช้ มันดูน่าเบื่อจัง
ถ้าลองคิดจินตนาการคำว่าการรับรู้เสียใหม่ว่ามันคือการรับลูกของลูกค้า ถ้าเราลงทุนเพื่อสร้างสภาพแลดล้อมที่กระตุ้นให้ลูกค้ารับรู้ถึงตัวเองมากขึ้น … มันจะเกิดอะไรขึ้น?
- เมื่อเราช่วยให้ลูกค้ารู้ว่ามันมีวิธีการที่ดีกว่าในการจัดการกับปัญหาและความท้าทายตรงหน้า
- เมื่อเราพูดเป็นนัยแบบสุภาพว่า “คุณกำลังเจอปัญหาในการทำงานอยู่นะ”
- เมื่อเรากระชิบที่ข้างหูพวกเค้าว่า “และผมอยู่ตรงนี้เพื่อช่วยเหลือคุณ”
เมื่อเราตั้งใจจะปรับมุมมองที่มีต่อการรับรู้ให้เป็นเรื่องของลูกค้า เราจะสร้างแนวทางการตลาดที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ เช่น เราจะให้ความรู้กับลูกค้าของเรา เราจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าได้สำรวจตัวเอง เราจะปลูกภาพอนาคตที่ดีกว่าให้ลูกค้าเห็น และทั้งหมดนี้จะทำได้โดยการที่เราไม่โฟกัสว่าเราทำอะไรและขายอะไรแต่เราจะสื่อสารว่าเราเป็นใครและมีเป้าหมายระยะยาวแบบไหน
การรับรู้ในรูปแบบนี้เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ถูกต้อง ด้วยการได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย ด้วยการให้ความสำคัญกับเรื่องของลูกค้ามากกว่าเรื่องของตัวเอง ด้วยการกระซิบมากกว่าตะโกน และมันจะเป็นความสัมพันธ์ในระยะยาวที่เริ่มต้นด้วยการให้ก่อนการรับ