การลงทุน vs. คน
กับธุรกิจสตาร์ทอัพ
อยากได้เงินทุนตั้งต้น อยากได้โอกาสเปิดตัวออกสู่ตลาด การเข้าแข่งขันโครงการสนับสนุนสตาร์ทอัพที่มีอยู่ดาดดื่นคือทางออกที่น่าสนใจ
พิชชิ่ง (Pitching) อย่างที่เค้าเรียกกัน โครงการแอกเซลเลอเรเตอร์ (Accelerator) อย่างที่หลายบริษัทใหญ่ก็มีกัน … ด้วยการนำเสนอธุรกิจอย่างรวบรัดภายในเวลาอันสั้น (ไม่เกิน 10 นาที) เรามีลุ้นได้เงินทุนก้อนย่อมๆหรือใหญ่ๆมาใช้อย่างใจหวัง
วันนี้ไม่ใช่เรื่องของเราแต่เป็นมุมมองที่ผมมีต่อการลงทุนด้วยแนวทางนี้ครับ ช่องโหว่ที่ใหญ่ที่สุดของวิธีการนี้คือเราในฐานะผู้ตัดสินใจจะไม่รู้เลยว่าคนที่กำลังพูดอยู่หน้าห้องหรือบนเวทีเป็นคนอย่างไร
แน่นอนเราจะเลือกลงทุนกับโครงการธุรกิจที่น่าสนใจและมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้กับเราในอนาคต มันเป็นไปได้ที่เราจะเข้าใจว่าธุรกิจนี้คืออะไร เราเห็นว่าตลาดนี้ขนาดใหญ่แค่ไหน เราเห็นว่าคู่แข่งเป็นใคร เราเห็นว่าตอนนี้บริษัทนี้มียอดขายเท่าไร และเราคาดคะเนได้ว่าปีหน้าจะขยายตัวกี่เปอร์เซ็นต์ แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่มีทางรู้เลยในเวลาสั้นๆแค่นั้นคือคนๆนี้เป็นคนยังไง ทีมๆนี้ทำงานกันแบบไหน … ไม่มีทางรู้อย่างถ่องแท้ว่า
- เค้าคือใคร
- เค้ามีเป้าหมายชีวิตแบบไหน
- อะไรคือสิ่งผลักดันให้เค้าทำในสิ่งที่ทำอยู่ทุกวัน
- เค้าขยันหรือขี้เกียจ
- เค้าซื่อสัตย์หรือขี้โกง
- เค้าใจเย็นหรือขี้โวยวาย
- เค้าคือผู้นำหรือนักเลียนแบบ
- เค้าประหยัดหรือฟุ้งเฟื้อ
- เค้ารับผิดชอบหรือหนีปัญหา
นั่นแหละครับ เราไม่มีทางรู้ในเรื่องที่เราจำเป็นต้องรู้ บางคนอาจจะคิดว่า
“มันไม่จำเป็นซะหน่อย ฉันลงทุนในธุรกิจและโปรดักท์นะ”
ผิดครับ ผิดมหันต์
“การลงทุนคือการลงทุนไปกับคนและกลุ่มคนที่อยู่ในธุรกิจและโปรดักท์นั้นๆ”
ธุรกิจไม่มีชีวิต โปรดักท์ไม่มีสมอง คนเท่านั้นที่จะสร้างให้มันออกมาดีหรือแย่ คนเท่านั้นที่จะเป็นผู้เปลี่ยนแปลงความคิดที่ล่องลอยให้มาเป็นธุรกิจที่จับต้องได้
ร้อยทั้งร้อยเราลงทุนในคนเสมอ มันจึงเป็นเรื่องแปลกมากที่การตัดสินใจเกิดขึ้นในเวลาไม่เกิน 10 นาทีโดยแทบจะไม่พิจารณาปัจจัยเรื่องคนเลย
มันคือความไม่สมดุลอย่างที่สุด ด้วยการใส่ใจแต่ธุรกิจที่ดูเหมือนจะจับต้องได้ด้วยตัวเลข ตัวเงิน ขนาด และโปรดักท์แต่ไม่สนใจอะไรที่เข้าใจยากอย่างความเป็นปัจเจกบุคคลเลย
ไม่ต้องคิดอะไรมากครับ … ถ้าเราจะสัมภาษณ์คนเข้าทำงานในตำแหน่งสำคัญสักคน เราจะคุยกับเค้าในเวลา 10 นาทีมั้ยละ? ใช่มันมีบ้างที่เราเซย์เยสและโนอย่างรวดเร็วแบบนั้น แต่ 10 นาทีไม่ใช่มาตรฐานในการคัดเลือกคนระดับหัวหน้างานขึ้นไปอย่างแน่นอน ไม่มีทาง
กับการลงทุนที่เรากำลังต้องเสี่ยงด้วยเงินหลักล้าน เงินที่จ่ายไปแล้วอาจจะไม่มีวันได้คืนกลับมา … เรากลับแทบที่จะไม่สนใจคนที่กำลังพูดอยู่บนเวทีเลย มันจึงเป็นเรื่องแปลกประหลาดอย่างมาก
ผมกลับมานั่งนึกๆเปรียบเปรยดูนะว่า ถ้าผมเป็นนักลงทุนที่กำลังจะต้องควักเงินตัวเอง (ย้ำว่าเงินตัวผมเอง ไม่ใช่เงินจากบริษัทที่ผมเป็นลูกจ้างอยู่ หรือเงินภาษีประชาชน) ผมจะกล้ามั้ย? ฟังการนำเสนองานห้านาทีและตัดสินใจทันทีว่า
“เจ๋งหวะไอ้น้อง มาเอาเงินพี่ไปเลยสองล้าน”
ไม่มีทางหรอกครับ เงินสองล้านผมหามาด้วยความยากลำบาก คนที่จะมารับมันไปต้องพิสูจน์ตัวเองมากกว่านี้อีกเยอะมาก
และผมเองก็เคยอยู่ในสถานการณ์ทั้งสองรูปแบบมาแล้ว ทั้งประเภทที่ขึ้นเวทีเพื่อพูดอย่างรวดเร็วและถูกตัดสินแบบทันทีทันใด — ส่วนใหญ่ผมตกรอบ ฮ่าๆ
และก็ประเภทที่ว่านั่งคุยกันแบบตัวต่อตัวใช้เวลาหลายชั่วโมงและหลายรอบ ผมคุยกับกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ผมแลกเปลี่ยนอีเมล์กับเค้าอีกนับไม่ถ้วน และผมต้องใช้เวลาเกินครึ่งปีกว่าจะได้เงินก้อนแรกมา — นั่นคือของจริง (ในมุมมองของผมนะ)
ผมกำลังคุยกับนักลงทุนไทยท่านหนึ่งอยู่ นี่ก็ผ่านมาเกินครึ่งปีแล้วเช่นกัน และเรื่องราวกำลังจะได้ข้อสรุป — นั่นคือของจริง (ในมุมมองของผมนะ)
การลงทุนคือการเรียนรู้ซึ่งกันและกันของทั้งสองฝ่าย ผมต้องการอะไร นักลงทุนต้องการอะไร ผมมีอะไรในมือ นักลงทุนจะช่วยสนับสนุนอะไรได้บ้าง เป้าหมาย วิสัยทัศน์ แนวทางการบริหารงาน เยอะมาก … มันจะสรุปกันลงตัวภายใน 10 นาทีได้อย่างไร?
การมีส่วนร่วมกับการหาเงินทุนทั้งสองแบบนั้นสนุกและได้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันไปครับ แต่ถ้าเลือกได้จริงๆ … ผมขอเลือกแบบที่สอง แบบที่ใช้เวลานานๆแต่ได้เนื้อเน้นๆจะดีกว่า ไม่เร่งรัด ไม่กดดันกันจนเกินไป
เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้องและอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจร่วมกันที่ดีที่สุด
คิดและเขียนคือสิ่งที่ผมชอบ แบ่งปันคือสิ่งที่ผมรัก เพราะแบบนี้ทุกวันผมเขียนเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวจากชีวิตจริง จากประสบการณ์ จากแนวคิด จากอนาคตที่ดีผมมองเห็น และทุกอย่างที่ผมประยุกต์ใช้เพื่อสร้างให้อินเท็นติกเป็นบ้านที่น่าอยู่ บ้านที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเล็กๆที่สร้างความแตกต่างในสังคมได้ — มันน่าภูมิใจที่ผมรู้ว่า … ไม่ใช่มีแค่ผมคนเดียวที่อยากเห็นการพัฒนา :)
Inthentic On Facebook | Inthentic On Twitter | Inthentic On Instagram