คิดใหม่

ในขณะที่เรามีอาวุธครบมือมากขึ้น — ความรู้ที่หาได้ทั่วไป เครื่องมือที่ราคาไม่แพง ไอเดียที่มีดาษดื่น เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าขึ้น โลกใบนี้ที่แคบลง

เราคิดว่าการทำธุรกิจต้องง่ายขึ้นกว่าในอดีต

ผิด …​ เราอาจจะพูดได้ว่าการ “เริ่มต้นทำ” ธุรกิจในยุคนี้ง่ายกว่าเดิมมาก แต่การที่จะทำธุรกิจ “ให้ประสบความสำเร็จ” นั้นยากกว่าเดิมหลายเท่า

เพราะในขณะที่เราเข้าถึงอาวุธที่หลากหลาย คนอื่นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเรา กลายเป็นว่าเรามีคู่แข่งเพิ่มขึ้นทุกวัน กำแพงแน่นหนาที่คอยปกป้องธุรกิจของเราจากภัยภายนอกนั้นเตี้ยลงทุกนาที

บางครั้งการคิดทำให้ดีกว่าคู่แข่งเพียงเล็กน้อยอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก การคิดแบบค่อยเป็นค่อยไปอาจจะไม่ส่งผลให้เห็นความแตกต่างมากเท่าไร

• ระบบนี้รองรับการทำงานได้ 10 คน ของผมได้ 20 คน — อืม แบบนี้คงไม่มีใครสนใจสินค้าที่เราขาย
• คู่แข่งรายนี้ลดราคา 10% ของผมลดให้เลย 20% — เอ้อ แบบนี้ก็ไม่ยั่งยืน

นี่คือแนวคิดแบบก้าวทีละขั้นบันได … มันช้าไปในโลกยุคนี้ มันไม่ทันกิน และมันจะไม่เป็นที่ต้องการของตลาด

เราต้องพยายามฝึกทักษะการคิดใหม่ ใหม่หมดที่เหมือนเป็นการปฏิวัติ ถ้าพูดว่าธนาคาร … ความผิดพลาดคือความพยายามจะปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงธนาคารในปัจจุบันให้ดีขึ้น ความถูกต้องคือลืมคำว่าธนาคารแบบเดิมๆแล้วคิดใหม่ด้วยจินตนาการว่าธนาคารในอนาคตควรเป็นอย่างไร

อูเบอร์ไม่ได้พยายามทำให้การเรียกแท็กซี่ง่ายขึ้น อูเบอร์ทำให้แท็กซี่ไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไปเพราะคำว่า “คมนาคมขนส่งแบบออนดีมานด์” ไม่ใช่แค่เรื่องของแท็กที่เพียงอย่างเดียว

สตีฟ จ๊อบส์คิดใหม่ให้กับคอมพิวเตอร์และคิดใหม่ให้กับวงการเพลงแล้วก็คิดใหม่ให้กับสมาร์ทโฟน

นี่คือตัวอย่างความพยายามในการคิดใหม่ เราอาจจะคิดใหม่ในเชิงเทคโนโลยี เชิงสินค้าและบริการ เชิงการตั้งราคาและรูปแบบธุรกิจ … ไม่ว่าจะมุมไหน เราสามารถคิดใหม่ได้ทั้งสิ้น

ใหม่ … ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นคนแรกของโลกเสมอไป เราสร้างความใหม่ในตลาดที่เรากำลังมีส่วนร่วมอยู่ได้ เราขายในประเทศไทยเราพยายามคิดใหม่สำหรับตลาดไทย เริ่มต้นแบบนี้ก็ดีเพียงพอแล้ว

“ไม่เป็นไร เราซื้อของฝรั่งมาขายต่อเอากำไรในไทยก็พอแล้ว” — นี่ไม่ใช่คิดใหม่

“ไม่เอาดีกว่า ผมของลองทำเองเริ่มเองจากศูนย์เพราะผมมั่นใจว่าผมจะปฏิวัติเรื่องนี้ได้” — นี่คือจุดเริ่มต้นของการคิดใหม่

คิดใหม่ยาก คิดใหม่โคตรยาก … แต่คิดใหม่คือทางรอดเดียวของสตาร์ทอัพ