🐦⬛ ฟีเจอร์ ฟีเจอร์ ฟีเจอร์ ฟีเจอร์
ว่ากันว่าฟีเจอร์มีสี่ประเภท
1️⃣ ฟีเจอร์ที่ออกแนวว่า … ไร้ตัวตน ไม่ได้รับการให้คุณค่า เป็นเหมือนสิ่งที่คนทุกคนคาดหวังไว้แล้ว คล้ายๆกับว่าโรงแรมต้องสะอาด เราเข้าโรงแรมสะอาดก็รู้สึกเฉยๆ (ด้วยราคาที่จ่ายไปมันก็ต้องสะอาดอยู่แล้ว) แต่ถ้ามันไม่สะอาดซิ โวยวายกันลั่น
ข้อนี้เรียกว่า Points of parity — ฟีเจอร์ที่เราก็มีพอๆกับคู่แข่ง หยิบมาโฆษณาอะไรมากไม่ได้
2️⃣ ฟีเจอร์ที่ออกแนวว่า … โดดเด่น เป็นสง่า เหนือว่าใคร ประมาณว่าโรงแรมนี้วิวภูเขาสวยที่สุดในปฐพี ลูกค้าพร้อมจ่ายแพงกว่าเพื่อวิวนี้
ข้อนี้เรียกว่า Points of superiority — ฟีเจอร์ที่ดีที่สุด ฟีเจอร์ที่ต้องโฆษณา ฟีเจอร์ที่ลูกค้าเห็นแล้วปฏิเสธไม่ได้
3️⃣ ฟีเจอร์ที่ออกแนวว่า … เราไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้เลย เราแย่กว่า เราไม่มี ประมาณว่าไอ้วิวภูเขาสวยๆนั้นอะ โรงแรมนี้จะไม่มีไฟฟ้าใช้หลังสองทุ่มนะ
ข้อนี้เรียกว่า Points of inferiority — ฟีเจอร์ที่เป็นข้อเสีย ฟีเจอร์ที่เราแข่งขันไม่ได้
4️⃣ ฟีเจอร์ที่ออกแนวว่า … พูดยากว่ามันเป็นฟีเจอร์ที่ดี เพราะความแตกต่างทางแนวคิดของเรา ของลูกค้า และของคู่แข่ง เหมือนว่า … “ระบบของเรามีแบบเช่ารายเดือนนะครับ” เราอาจจะคิดว่ามันดีเพราะลูกค้าไม่ต้องจ่ายก้อนใหญ่ แต่หลายรายก็รู้สึกว่าไม่ดี อยากจ่ายรอบเดียว ไม่อยากจ่ายยิบจ่ายย่อย
ข้อนี้เรียกว่า Points of dispute — ฟีเจอร์ที่สรุปไม่ได้ว่าดีหรือไม่ดี
วันนี้เราก็คิดทำฟีเจอร์กันอยู่ตลอด … เรารู้มั้ยว่าแต่ละฟีเจอร์มันอยู่กลุ่มไหน? การทำความเข้าใจเรื่องนี้จะช่วยเราได้มากเรื่องการตั้งราคา การขาย การนำเสนอ และการวางแผนพัฒนาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและมีกลยุทธ์