Is It Worth It?

Piyorot
Inthentic Inc
Published in
1 min readMay 22, 2016

“มันคุ้มค่าที่จะทำมั้ย?” — ไม่ได้พูดถึงแค่การลงทุนที่คิดเป็นตัวเงิน การซื้อหุ้นแบบหมดหน้าตัก หรือการเลือกทำธุรกิจประเภทใดประเภทหนึ่ง

การตอบคำถามข้างบนได้นั้นมันขึ้นกับปัจจัยสองด้านเสมอ … เชิงปริมาณ (Quantitative) และเชิงคุณภาพ (Qualitative) เช่น จากการวิเคราะห์ทุกมุมมองในเชิงปริมาณ นี่คือคนที่เราควรเลือกเป็นพาร์ทเนอร์มากที่สุด ทั้งสถานะความมั่นคงของบริษัท ความเข้มแข็งของโปรดักท์ ความเป็นมืออาชีพของพนักงาน ความเฉลียวฉลาดและกล้าได้กล้าเสียของทีมผู้บริหาร แต่ไม่ว่าตัวเลขจะออกมาดูดีน่าดึงดูดแค่ไหนก็ตาม ก่อนจรดปากกาลงนามสัญญาอะไร เราต้องถามตัวเองก่อนอยู่แล้วว่า

“เอาจริงๆเลยนะ นี่มันถูกต้องใช่มั้ย?” … “เค้าคือคนที่เรามองหาอยู่จริงๆหรอ?” … “มันคุ้มค่าที่จะเสี่ยงแน่ๆใช่มั้ย?”

ไม่ว่าตัวเลขจะเป็นอย่างไร … สัญชาตญาณของผู้นำสำคัญเสมอ สำคัญในระดับเดียวกันหรือมากกว่าตัวเลขเหล่านั้นด้วยซ้ำ

ทุกวันนี้มันมีเรื่องให้เราต้องตัดสินใจมากมาย

  • สกรัมคือปัจจุบันและอนาคตของเรา
  • ยูเอ็กซ์ (UX) คือเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญ
  • เทสดริฟเว่นดีเวลลอปเม้นท์ (TDD) คือสิ่งที่เราต้องการในตอนนี้
  • โปรดักท์ โอนเนอร์ของเราต้องเก่งเรื่องทางเทคนิคด้วย
  • นี่คือกลยุทธ์การกำหนดราคา (Pricing Strategy) ที่ควรจะเป็น
  • การให้อิสระในการทำงานกับทีมงานอย่างเต็มที่จะช่วยเพิ่มโปรดักทิวิตี้ได้
  • จิร่า (Jira) ดีที่สุด สแลค (Slack) ยังสำคัญอยู่ แต่เทรลโล่ (Trello) และบิตบั๊กเก็ต (BitBucket) เริ่มไม่จำเป็นแล้ว

คนเป็นผู้นำต้องตอบคำถามที่ว่า “พวกมันคุ้มค่าที่จะทำมั้ย?” ทุกวัน — มันคุ้มมั้ยที่จะทำสกรัมต่อไป ยูเอ็กซ์มันช่วยเราได้มากแค่ไหน ถึงเวลาที่เราต้องเริ่มทีดีดีแล้วรึยัง?

ผมก็เช่นกันที่ต้องถามและค้นหาคำตอบพวกนี้ให้กับตัวเองแทบทุกวัน มันยังคุ้มอยู่มั้ย มันยังถูกต้องอยู่ใช่มั้ย ผมเริ่มต้นอะไรใหม่บ่อยๆและหยุดการทำอะไรเก่าๆอยู่เรื่อยๆ

ผมทำเรโทรสเปกทีฟ มีตติ้งกับตัวเองอย่างต่อเนื่องในสมองในความคิดและในหัวใจแบบไม่ต้องใช้ข้อมูลและสถิติอะไร

มันเป็นจุดที่ผมให้ความสำคัญกับความรู้สึกมากกว่าตัวเลข … ไม่ว่าเรื่องอะไรผมแค่ถามตัวเองว่า “มันยังใช่อยู่มั้ย? มันยังให้ความรู้สึกที่ถูกต้องและเป็นบวกอยู่รึเปล่า?”

ถ้าคำตอบออกมาว่า “ใช่” — ก็แค่นั้น เดินหน้าต่อไป

ถ้าคำตอบออกมาว่า “ไม่ใช่” — ก็แค่นั้น หยุด ยกเลิกและหาสิ่งอื่นมาทดลองต่อไป

ผมเห็นมาหลายต่อหลายครั้งที่ความก้าวหน้าไม่เกิดเพราะการไม่มีแอคชั่น … เพราะการรอคอยข้อมูล เพราะการรอคอยเครื่องพิสูจน์อะไรบางอย่าง เช่น

“ผมไม่เชื่อว่าสกรัมคือสิ่งที่เหมาะสมกับบริษัทของเรา” — ผมประกาศกลางห้องประชุม

“คุณมีตัวเลขหรือสถิติมาสนับสนุนคำพูดของคุณมั้ยครับ? ความเร็วในการทำงานของเราเป็นยังไง (เค้าถามหาเวโลซิตี้) คุณภาพแย่ลงหรอ (เค้าอยากรู้จำนวนบั๊กที่ตรวจเจอในทุกเฟส) ลูกค้าไม่แฮปปี้รึเปล่า (เค้าคงอยากให้เราออกไปทำเซอร์เวย์กับลูกค้าทุกคน)” — ผู้มีอำนาจกำลังสงสัยในข้อสรุปจากสัญชาตญาณของผม

เวลาสามเดือนที่หมดไปในการค้นหาหลักฐานคือเวลาแห่งการไม่มีแอคชั่นและนั่นส่งผลกระทบในแง่ร้ายกับการพัฒนาอย่างชัดเจน … จริงๆแล้วเราไม่ต้องการข้อมูลอะไรพวกนั้นเลย … เราขอแค่ใจเป็นกลาง ความตั้งใจดี การยึดถือหลักการที่แน่วแน่ และการกล้าตัดสินใจด้วยความรู้สึกและสัญชาตญาณ

“มันยังคุ้มค่าที่จะทำอยู่มั้ย?” — คือคำถามเชิงคุณภาพที่ผู้นำทุกคนควรตอบได้โดยไม่ต้องพึ่งพาข้อมูลเชิงปริมาณที่ละเอียดยิบ

คิดและเขียนคือสิ่งที่ผมชอบ แบ่งปันคือสิ่งที่ผมรัก เพราะแบบนี้ทุกวันผมเขียนเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวจากชีวิตจริง จากประสบการณ์ จากแนวคิด จากอนาคตที่ดีผมมองเห็น และทุกอย่างที่ผมประยุกต์ใช้เพื่อสร้างให้อินเท็นติกเป็นบ้านที่น่าอยู่ บ้านที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเล็กๆที่สร้างความแตกต่างในสังคมได้ — มันน่าภูมิใจที่ผมรู้ว่า … ไม่ใช่มีแค่ผมคนเดียวที่อยากเห็นการพัฒนา :)

Inthentic On Facebook | Inthentic On Twitter | Inthentic On Instagram

--

--

Piyorot
Inthentic Inc

A member of Mutrack and Inthentic. I lead, learn, and build with vision, love and care. https://piyorot.com