ลงทุนโดยใช้ Data Science 101: ตอนที่ 2 .1- รวมวิธีดึงข้อมูลหุ้น แบบไม่เสียเงิน !
ถ้าใครมีข้อมูลอยู่แล้ว ก็ยิ้มได้เลยครับ Export มาได้เลย แต่ใครไม่มี ใช้ Python ดึงเองได้เลยครับ โดยเราจะใช้วิธีแรก เราจะใช้ colab และ python ส่วนวิธีที่สอง เราจะใช้ excel
เริ่มแรกกับวิธีที่แอดฯ ชอบที่สุด
เปิด colab ขึ้นมาและ login ให้เรียบร้อยครับ
เราจะสามารถเขียน python เข้าไปบนนี้ได้เลยครับ
(อัพเดท 2022 yahoo API แก้เรียบร้อยครับ สามารถดึงหุ้นไทยได้ตามปกติ)
เริ่มแรกต้อง ลง library yahoo finance ก่อนครับซึ่งเอาไว้ดึงข้อมูล
!pip install yfinance
ต่อมาเราก็ไปดู ticker ใน yahoofinance.com ยกตัวอย่างเราจะดึงข้อมูล PTTGC จะเห็นว่าเค้าเติม .BK ไว้ข้างท้าย
import yfinance as yf
data = yf.download("PTTGC.BK", start="2017-01-01", end="2017-04-30")
เท่านี้ก็จะได้ข้อมูลของ PTT มา ดังรูป
ซึ่งโคตรจะง่ายครับ เท่านี้เราก็ได้ข้อมูลออกมาแล้ว
แต่ถ้าใคร เขียนโปรแกรมไม่เป็น ยังไม่อยากเขียน เรามาทำแบบ บ้านๆ ครับ
เราจะวิเคราะห์อะไรไม่ได้เลย ถ้าไม่มีข้อมูล ดังนั้นเริ่มแรก ไปหาข้อมูลกัน
วิธีหาง่ายๆนะครับ พิมพ์ชื่อ หุ้น กองทุน ที่เราอยากได้เข้าไปใน Google พร้อม สิ่งที่อยากได้ เช่น PTTGC ราคา
เรามาหาดึงข้อมูลกัน วิธีง่ายที่สุดคือ copy paste ใส่ excel ดื้อๆเลยครับ สำหรับการฝึกฝน แต่ใครที่มี e-finance, aspen, bisnews, setsmart, bloomberg, metastock, morningstar (กองทุน) , AIMC (กองทุน) หรือ startup อื่นๆ เช่น jitta, investorz, amibroker, wealthmagik (กองทุน) ที่ขาย data ก็ดึงมาเลยครับ
เริ่มแบบง่ายที่สุดกับ www.set.or.th และ www.settrade.com ครับ
เวลา copy paste จากเว็ปใส่ excel แนะนำให้คลิ๊กขวา paste special แล้วเลือกเป็น unicode text เสร็จแล้วก็ save เป็น CSV file นะครับ สำหรับ import เข้า R หรือ Python ต่อไป
แต่ได้ Data มาแล้ว อย่าลืมเช็ค
- มีราคา เต็มเลย ใช้อันไหนดี? — ใช้ราคาปิด
- มันอาจรวมวันหยุด หรือไม่รวม ดูดีๆ
- มันอาจขาดๆหายๆ ไม่เท่ากัน
- เลวร้ายคือมี N/A ต้องไป clean ต่อ
- เลวร้ายกว่านั้นคือ ไม่ได้ปรับการเพิ่มทุน แจก warrant แตก par ให้
- ถ้าพวกกองทุน NAV จะไม่รวมปันผล เราต้องทำ Total Return Index เอง
เราจะมาทำกลยุทธ์ที่ง่ายที่สุดกันคือ Pair Trade ในตอนที่ 2.2 กันครับ Click → http://bit.ly/2o7HrvN