รีวิวหนังสือที่เทรดเดอร์ทุกคนควรอ่าน EP.2
ในโลกของการเทรด ทุกคนที่เข้ามาสู่เส้นทางสายนี้ล้วนต้องการสิ่งเดียวกัน นั่นคือ “กำไร” แต่อย่าลืมว่าการเทรดย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยง ใครก็ตามที่เปิดรับความเสี่ยงมากเกินไป ก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่เปิดรับความล้มเหลวอย่างเต็มที่
หนทางสู่การเป็นสุดยอดเทรดเดอร์หรือนักลงทุน จึงไม่ได้อยู่ที่เพียงการทำกำไรให้ได้มากที่สุด แต่มันขึ้นอยู่กับว่ากำไรที่ทำได้นั้นมีความยั่งยืนมากน้อยแค่ไหน และนี่คือ แก่นเนื้อหาสำคัญในหนังสือที่เราจะมารีวิวกันในวันนี้ !
หนังสือที่เราจะมารีวิวกันในบทความนี้มีชื่อว่า…
Robust Trading System
ผู้เขียน: ชัยภัทร เนื่องคำมา
หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนโดย ชัยภัทร เนื่องคำมา หรือ Cway Investment เทรดเดอร์ระดับตำนานที่เผยแพร่ความรู้ให้กับคนไทยมานับสิบปี ที่ได้ตกผลึกกรณึศึกษาและหลักคิดสำคัญจากเทรดเดอร์ระดับโลก ตั้งแต่นักเล่นไพ่โป๊กเกอร์มือฉกาจ ไปจนถึงผู้จัดการกองทุนมือฉมัง จนกลายมาเป็น…
31 เคล็ดลับการเทรดเพื่อเอาชนะตลาดให้ได้อย่างยั่งยืน
หนังสือเล่มนี้มีทั้งหมด 31 บท, 163 หน้า
ถ้าจะให้รีวิวเนื้อหากันทุกบทเลยนั้น คาดว่าจากบทความอาจจะกลายเป็นเรียงความไปก่อนได้… ดังนั้น ผมจะพาทุกคนไปชมเนื้อหาที่น่าสนใจแบบคร่าวๆ กันครับ
เคล็ดลับที่ 01 ปรัชญาการเก็งกำไร
คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาในตลาดหุ้น ล้วนมีความต้องการอยากรวย อยากได้ผลตอบแทนที่ดี แต่ความเป็นจริงมันก็ไม่ได้ง่ายเช่นนั้น การเทรดหุ้นที่ต้องเผชิญกับความผันผวนของราคา จัดเป็นงานที่ยากและหินเลยทีเดียว
สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำคือ พยายามทำตัวเองให้แข็งแกร่ง อยู่รอดก่อน เมื่อรากฐานมั่นคงแล้ว กำไรจะค่อยๆเติบโตมาเอง และอย่าลืมแบ่งเวลาศึกษาพัฒนาตนเอง ไม่รู้อะไรก็ศึกษาเพิ่มเติม ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ สิ่งที่ผิดพลาดก็ปรับปรุงแก้ไข สิ่งสำคัญคืออย่าให้ความสำเร็จของคนอื่น มาทำให้เกิดความกดดันและคาดหวังกับตัวเองจนเกินไป
โดยผู้เขียนได้สรุปถึงปรัชญาการเก็งกำไรจากการอ่านหนังสือหลายๆเล่ม ของเหล่าผู้มีประสบการณ์ระดับโลก โดยใจความมี 3 ข้อง่ายๆ ดังนี้
- รักษาเงินต้น รักษากำไรที่ได้มาให้ได้
- สร้างกระแสเงินสด ทำกำไรต่อเนื่อง แน่นอนอย่างยั่งยืน
- ทำซ้ำข้อ 1 และ 2 ไปเรื่อยๆ
ถึงแม้เราจะทำกำไรได้มหาศาลจากการเทรดแค่ 1–2 ครั้ง แต่ถ้าเราไม่สามารถทำให้เกิดความต่อเนื่องได้ ก็เป็นได้แค่ “ดวง” ซึ่งการทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอภายใต้การควบคุมความเสี่ยงที่เหมาะสม นั่นต่างหากคือสิ่งที่เรียกว่า “ทักษะและฝีมือ”
“สิ่งที่แยกนักเก็งกำไรมืออาชีพออกจากนักพนัน คือ
เรื่องของปรัชญาการเก็งกำไร”
เคล็ดลับที่ 20 ทำไมจึงควรต้องใช้ระบบเทรด
สิ่งที่ยากที่สุดในการอยู่ในตลาดก็คือ การตัดสินใจเทรด (ซื้อ-ขาย) เพราะทุกการตัดสินใจล้วนมีผลกำไรขาดทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง บ่อยครั้งอาจเกิดการตัดสินใจไปตามอารมณ์ ความรู้สึกในขณะนั้น ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพการตัดสินใจเทรดซื้อขายหุ้นของเราออกมาไม่ดี
กระบวนการที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้เรียกว่า ระบบเทรด (Trading System) โดยมีองค์ประกอบอยู่ 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่
1. ส่วนการประมวลผลข้อมูล (Data Processing)
2. กลยุทธ์การวิเคราะห์ข้อมูล (ระดับราคาสำหรับจุดเข้าและออก)
3. การบริหารจัดการเงินทุน รวมถึงกำหนดขนาดความเสี่ยงสูงสุดที่รับได้
โดยระบบเทรดสามารถช่วยลดการใช้อารมณ์ ความรู้สึก และยังช่วยลดอคติต่างๆที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และตัดสินใจในการเทรดให้ดียิ่งขึ้นต่อไปอีกด้วย
“ทุกการตัดสินใจ ล้วนมีผลกำไรขาดทุนเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น”
เคล็ดลับที่ 24 ความเข้าใจกับกำไรที่คาดหวัง
เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ระบบเทรดของเรากำลังทำผลงานได้ดีหรือแย่ในภาวะตลาดปัจจุบัน ดังนั้นการคำนวณค่าทางสถิติที่เรียกว่า “กำไรคาดหวัง (Expectancy)” จึงเข้ามามีบทบาทที่เปรียบเสมือนค่าชี้วัดที่ช่วยให้เราประเมินผลที่เกิดขึ้นได้ โดยสมการคำนวณมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
กำไรคาดหวัง = (%win x average win)-(%loss x average loss)
สิ่งสำคัญในการประเมินค่า Expectancy คือจำเป็นอย่างมากที่ควรจะมีการเก็บข้อมูลผลการเทรดให้มากพอ ถ้าเป็นกรณีของการทดสอบย้อนหลัง (Back testing) ผลของการเทรดควรจะมากกว่า 75–100 ครั้ง เพื่อให้ได้ค่าเฉลี่ยของกำไรและขาดทุนที่ดีพอ แล้วยังช่วยให้สามารถหาค่าความน่าจะเป็นที่มีความน่าเชื่อถือทางสถิติได้อีกด้วย
โดยการประเมินผลระบบเทรดของเราด้วยค่า Expectancy นี้ จะแตกต่างจากการดูแค่ผลกำไรขาดทุนเพียงอย่างเดียว ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการเอนเอียงหรืออคติได้
“มันไม่สำคัญที่เราจะต้องเทรดให้ได้กำไรทุกครั้ง แต่สิ่งสำคัญคือ เมื่อโอกาสทองเข้ามาหาเรา เราจะต้องทำกำไรให้คุ้มค่ากับความเสี่ยง”
เคล็ดลับที่ 29 แนวทางการอยู่รอดในตลาดอย่างยั่งยืน
ผู้เขียน (พี่ชัยภัทร) มีโอกาสได้ฟังบทสัมภาษณ์ของ Meb Faber ผู้บริหารกองทุนและนักกลยุทธ์แห่ง Cambria Investments นอกจากนี้เค้ายังเป็นผู้ตีพิมพ์บทความวิจัยเรื่อง Quantitative Approach to Tactical Asset Allocation ที่มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 200,000 ครั้งบนเว็บไซต์ของ SSRN ในการสัมภาษณ์สดนั้น Faber ได้พูดถึงการอยู่รอดในตลาดหุ้นไว้พอสมควร ผู้เขียนจึงมีแนวคิดดีๆหลายเรื่องที่อยากนำมาถ่ายทอดให้ศึกษากันครับ
- ไม่มีใครซื้อหุ้นที่ราคาจุดต่ำสุดหรือขายหุ้นที่ราคาจุดสูงสุดได้
- รู้จักผิดให้เป็น
- ขจัดอารมณ์
- วางแผนสร้างความสำเร็จระยะยาว
สิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนควรทำคือ การเทรดไปตามพฤติกรรมราคาที่เกิดขึ้น ดีกว่าการพยายามไปเดาดักทางตลาด เลิกฝันหาเครื่องมือวิเศษศักดิ์สิทธิ์ (Holy Grail) ที่ไม่มีอยู่จริง และรู้จักประเมินความเสี่ยง เตรียมแผนจัดการความเสี่ยงก่อนเข้าไปเทรดเสมอ
ถ้าใครพูดว่าหาเงินจากตลาดหุ้นได้ง่ายกว่าทำงานประจำ แปลว่าผู้นั้นไม่เคยได้เข้ามาซื้อขายหุ้นในตลาดจริงๆ…
อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วคุณจะได้อะไร
- ได้เรียนรู้เคล็ดลับทั้งหมดที่แทบจะเรียกได้ว่าครบถ้วนและสมบูรณ์ที่สุดในการอยู่รอดในตลาดได้
- ได้เรียนรู้คำสอนจากเทรดเดอร์ระดับโลกนับสิบคนที่ถูกกลั่นกรองและสรุปมาจากพี่เอก ชัยภัทร (Cway Investment) เทรดเดอร์ระดับตำนานในเมืองไทย ซึ่งเปรียบเสมือนอาจารย์ของหลายๆคน รวมถึงผมเองด้วย
หนังสือเล่มนี้เหมาะกับใคร
- เหมาะกับเทรดเดอร์ทุกคนจริงๆ ไม่ว่าจะเทรดด้วยกลยุทธ์ใดอยู่ก็ตาม ถ้าอยากอยู่รอดในตลาดให้ได้ในระยะยาว ควรอ่านอย่างยิ่งเลยครับ
- เหมาะกับเทรดเดอร์ที่กำลังสร้างระบบเทรดเป็นของตัวเองหรือสร้างมาสักพักแล้ว แต่ยังติดขัดอะไรสักอย่างอยู่ ผมมั่นใจว่าหนังสือเล่มนี้ มีคำตอบให้คุณแน่นอน
หนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะกับใคร
- อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับกับนักลงทุนสาย Pure VI สักเท่าไหร่ ด้วยแนวคิดหรือ Mindset ที่แตกต่างกันกับ Trader ซึ่งอาจทำให้ไม่ค่อยอินกับเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ แต่ถ้าอยากศึกษาหาความรู้ถึงวิธีคิด หลักการของเทรดเดอร์ที่ทุกคนต้องมี ก็สามารถอ่านได้ครับ
- ไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการรวยเร็ว รวยข้ามคืน แน่นอนครับ ตามที่ในหนังสือเล่มนี้บอก “การพยายามไปเดาดักทางตลาดให้ถูกตลอดเวลา ก็เปรียบเสมือนการหา Holy Grail ที่ไม่มีอยู่จริง” ควรโฟกัสที่ระบบเทรดของเราดีกว่าครับ
สามารถซื้อหนังสือได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือจาก www.investing.in.th
“การลงทุนในความรู้ คือการลงทุนที่ดีที่สุด”
Investic
