แนะนำหนังสือที่เทรดเดอร์ทุกคนควรอ่าน

Tom Jakkarin
investic
Published in
2 min readJun 13, 2022

“ระบบเทรดนี้ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 30% ติดต่อกัน 20 ปี”
“ระบบเทรดนี้มีความแม่นยำ 80% และผ่านการทดสอบมาอย่างดี”

คำพูดเหล่านี้ หลายคนอาจเคยเห็นกันผ่านโฆษณาเกี่ยวกับการลงทุน คำพูดชวนเชื่อต่างๆ ที่ทำให้ทุกคนชวนฝันได้ว่า ระบบเทรดขั้นเทพมีอยู่จริง แต่รู้หรือไม่ว่า

ต่อให้ระบบเทรดที่แม่นยำถึง 80% หรือมีการทดสอบในอดีตมาดีแค่ไหน ก็พานักลงทุนแพ้ยับจนถึงขั้นหมดตูดได้ !

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ ?

เพราะระบบเทรดมันไม่ได้มีเพียงแค่สัญญาณซื้อขาย แต่มันยังประกอบไปด้วยเรื่องสำคัญอีกมากที่เราไม่ได้นึกถึงกัน ทั้งการออกแบบเป้าหมายให้เหมาะสมกับตัวเอง บริบทในชีวิตเลือกสไตล์การเทรดที่ใช่ เช่น ระบบเทรดที่ดีสำหรับนาย A อาจจะไม่ได้เหมาะสมกับนาย B หรือคนอื่นๆเสมอไปก็ได้ และเรื่องสำคัญที่สุดอย่างขนาดการเทรด (Position Sizing) ระบบที่ใช้การโยนเหรียญมั่วๆ อาจสามารถทำเงินได้อย่างต่อเนื่องได้ด้วยซ้ำ ถ้าออกแบบปัจจัยเหล่านี้ให้ดีพอ

นี่คือ สิ่งที่หนังสือ “ความลับระบบเทรด (TRADE YOUR WAY TO FINANCIAL FREEDOM)” จะมาเบิกเนตรให้กับทุกคนได้รับรู้

หนังสือที่เราจะมารีวิวกันในบทความนี้มีชื่อว่า…

Trade Your Way to Financial Freedom
ผู้เขียน: Van K. Tharp
ผู้แปล: ลภัสรดา เพ็ญสุข CFTe (แอดมินสาวสวยของเพจ วัคซีนหุ้น ที่รู้จักกันเป็นอย่างดี)

Trade Your Way to Financial Freedom

หนังสือเล่มนี้มีความหนาทั้งหมด 624 หน้า 15 บท (อ่านกันจนตาแฉะเลยทีเดียว) เนื้อหาข้างในมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยดีกว่าครับ

1. ตำนานแห่งจอกศักดิ์สิทธิ์
2. อคติที่มีผลต่อการตัดสินใจ (Judgmental Biases)
3. ตั้งเป้าหมายของคุณ
4. ขั้นตอนในการพัฒนาระบบ
5. เลือกใช้หลักการที่มีประสิทธิภาพ
6. กลยุทธ์การเทรดที่สอดคล้องกับภาพใหญ่
7. กุญแจ 6 ดอกที่จะนำไปสู่ระบบเทรดชั้นยอด
8. ใช้หน้าเทรดที่จะทำให้ระบบเทรดของคุณก้าวกระโดด
9. การเข้าซื้อหรือการจับจังหวะตลาด
10. รู้ว่าเมื่อไหร่ควรถอย: วิธีการป้องกันเงินทุนของคุณ
11. การขายทำกำไร
12. มีเงินให้สำหรับทุกคน
13. ประเมินระบบของคุณ
14. ขนาดการเทรด-กุญแจที่จะทำให้บรรลุถึงเป้าหมายในการเทรด
15. บทสรุป
รายชื่อหนังสือแนะนำ
เกี่ยวกับผู้เขียน

เราจะพาทุกคนไปชมตัวอย่างเนื้อหาที่น่าสนใจในหนังสือเล่มนี้กันครับ

“คุณไม่ได้เทรดหรือลงทุนกับตลาด แต่คุณเทรดหรือลงทุนตามความเชื่อของคุณเกี่ยวกับตลาดเท่านั้น”
Van K. Tharp

บทที่ 4 ขั้นตอนในการพัฒนาระบบ

เนื้อหาในบทนี้จะนำเสนอขั้นตอนสำคัญที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาระบบที่เหมาะกับคุณ มันจะบอกเล่าถึงสิ่งที่ผู้เขียนได้จากการศึกษาเทรดเดอร์และนักลงทุนที่เก่งที่สุดในโลก ว่าพวกเขาทำงานกันอย่างไร โดยจะมีขั้นตอนทั้งหมด 14 ขั้นตอนด้วยกัน ซึ่งผมจะยกตัวอย่างบางขั้นตอนที่น่าสนใจให้ทุกคนได้อ่านกันดูครับ

สะสมเสบียง
ขั้นตอนสำคัญประการแรกคือ การค้นหาจุดแข็งและจุดอ่อนของคุณ เพื่อให้ประสบความสำเร็จในตลาด คุณจะต้องพัฒนาระบบที่เหมาะกับตัวเอง ซึ่งจะต้องพิจารณาเสบียงของตัวเองอย่างรอบคอบ เสบียงในที่นี้คือ ทักษะ อารมณ์ เวลา ทรัพยากร จุดแข็ง และจุดอ่อนของคุณ หากไม่มีการจัดเตรียมเสบียงต่างๆแล้ว คุณจะไม่สามารถพัฒนาวิธีการที่เหมาะสมกับตัวเองได้เลย

กำหนดไทม์เฟรมสำหรับการเทรด
คุณจะต้องตัดสินใจว่าคุณต้องการใช้ไทม์เฟรมไหนในการเทรด ? คุณต้องการที่จะเป็นเทรดเดอร์ในหุ้นที่ถือสถานะเป็นเวลา 1 ปีหรือนานกว่านั้นหรือไม่ ? หรือว่าคุณต้องการจะเป็นเทรดเดอร์ที่มีส่วนร่วมอยู่ในตลาดตลอดเวลา (เดย์เทรด) ?
โดยเนื้อหาในส่วนนี้จะกล่าวถึงข้อดี-ข้อเสียของการเทรดทั้งแบบระยะยาวและระยะสั้นแบบละเอียดยิบให้ผู้อ่านได้ตระหนักกันครับ

ใช้ขนาดการเทรดเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายของคุณ
การกำหนดขนาดการเทรดถือเป็นส่วนสำคัญที่สุดไม่ว่าจะในระบบไหน เนื่องจากขนาดการเทรดจะเป็นตัวกำหนดว่า คุณจะบรรลุถึงเป้าหมายหรือจะพอร์ตแตก ขนาดการเทรดจะเป็นส่วนหนึ่งของระบบที่จะช่วยให้คุณบรรลุถึงเป้าหมายของคุณได้

มีแผนการทางจิตใจเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
คุณต้องคิดว่าสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่เป็นไปได้สำหรับระบบของคุณคืออะไร และจัดการกับมันอย่างไร ? กำหนดทุกสถานการณ์ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นอันตรายสำหรับระบบของคุณ วางแผนตอบสนองในใจและฝึกซ้อมมันเข้าไว้ เมื่อได้สิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันนั้นเรียบร้อยแล้ว ระบบของคุณก็จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์

สำหรับใครที่อยากรู้ขั้นตอนในการพัฒนาระบบเทรดที่เหลืออย่างละเอียด ผมขอแนะนำว่า อย่าได้ลังเลที่จะไปซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่าน คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้วครับ

บทที่ 4 ขั้นตอนในการพัฒนาระบบเทรด

บทที่ 8 ใช้หน้าเทรดที่จะทำให้ระบบของคุณก้าวกระโดด

ใครที่อ่านมาถึงบทนี้แล้ว ผมขออนุญาตบอกก่อนเลยว่า บทนี้อาจจะขัดแย้งกับความเชื่อของคุณที่มีมาตั้งแต่เริ่มอาชีพเทรดเดอร์เลยก็ว่าได้…

“สิ่งสำคัญที่คุณควรจะได้เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้ก็คือ หน้าเทรดนั้นเป็นเพียงส่วนประกอบแค่ 10 เปอร์เซ็นต์หรือน้อยกว่านั้นในระบบของคุณ คนส่วนมากมักจะเน้นไปที่การหาหน้าเทรดที่สมบูรณ์แบบ แต่แท้จริงแล้วหน้าเทรดเป็นแค่หนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญน้อยที่สุดของระบบ”

โดยในบทนี้จะกล่าวถึงขั้นตอนทั้ง 5 ในการพิจารณาจุดเข้าซื้อ ได้แก่
1. เงื่อนไขที่เหมาะสมกับระบบของคุณ
2. การเลือกตลาด
3. ทิศทางของตลาด
4. เงื่อนไขของหน้าเทรด
5. การจับจังหวะตลาด (Market Timing)

นอกจากนี้ยังเล่าถึงหน้าเทรดแบบต่างๆที่เทรดเดอร์หรือนักลงทุนระดับโลกใช้กัน เช่น หน้าเทรดที่ใช้ในการสะกดรอยตามตลาด โดยจะมีแพทเทิร์นในการเข้าเทรดอยู่ 3 แพทเทิร์นด้วยกัน คือ
หน้าเทรดการทดสอบที่ล้มเหลว (“Failed-Test” Setup)
หน้าเทรดด้วยจุดกลับตัวแบบไคลแมกซ์ (Climax Reversal)
หน้าเทรดการย่อตัวของราคา (Retracement Setup)
และยังได้มีการอธิบายถึง 2 หน้าเทรดที่โด่งดังมากๆ และคาดว่าทุกคนต้องรู้จักอย่างแน่นอน นั่นคือ
หน้าเทรดตามเทรนด์ CANSLIM ของ William O’Neil
และโมเดลการลงทุนเน้นคุณค่าของ Warren Buffet
ซึ่ง 2 ระบบนี้มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร แต่เมื่อทำการเปรียบเทียบหน้าเทรดในระบบทั้งคู่แล้ว ผมคิดว่าคุณจะเข้าใจมันได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้นและสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดสร้างวิธีการของตัวเองได้แน่นอนครับ

ถ้าใครอยากรู้ว่า ทำไมหน้าเทรดมีความสำคัญน้อย ?
ถ้าเป็นเช่นนั้น แล้วอะไรคือสิ่งที่สำคัญกว่า ?
ห้ามพลาดบทนี้เลยครับ !

บทที่ 8 ใช้หน้าเทรดที่จะทำให้ระบบของคุณก้าวกระโดด

บทที่ 14 ขนาดการเทรด-กุญแจที่จะทำให้บรรลุถึงเป้าหมายในการเทรด

ส่วนที่สำคัญที่สุดของการพัฒนาระบบนอกเหนือจากเรื่องของจิตวิทยาก็คือ หัวข้อเรื่องควรจะลงทุนเท่าไหร่ในแต่ละสถานะ โดยเนื้อหาในบทนี้ คุณจะได้เรียนรู้กลยุทธ์การกำหนดขนาดการเทรดที่เหมาะสมต่างๆและมีประสิทธิภาพ บางกลยุทธ์อาจจะเหมาะกับสไตล์ในการเทรดของคุณเป็นพิเศษ บางกลยุทธ์มีประสิทธิภาพมากกว่าถ้าใช้กับตลาดหุ้น ในขณะที่บางกลยุทธ์ก็เหมาะกับตลาดฟิวเจอร์มากกว่า

โดยบทนี้จะกล่าวถึงโมเดลขนาดการเทรดทั้ง 4 โมเดล ได้แก่
1. หนี่งหน่วยต่อจำนวนคงที่
2. หนึ่งหน่วยที่มีมูลค่าเท่ากัน
3. ความเสี่ยงแบบเป็นเปอร์เซ็นต์
4. ความผันผวนแบบเป็นเปอร์เซ็นต์

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นกลยุทธ์ anti-martingale ที่จะอ้างอิงตามเงินทุนที่มี เทรดเดอร์มืออาชีพหลายคนที่ทำงานให้กับธนาคารและบริษัทต่างๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาจะต้องขาดทุนไปเท่าไหร่ก่อนที่งานของพวกเขาจะแขวนอยู่บนเส้นด้าย…

ซึ่งหนังสือเล่มนี้จะอธิบายละเอียดยิบถึงวิธีการคำนวณ การนำไปใช้ ข้อดี ข้อเสียของแต่ละโมเดลด้วยกัน สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้ขนาดการเทรด (Position sizing) แบบไหนดี หรืออยากศึกษาเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งถึงที่มาที่ไป ควรอ่านบทนี้เป็นอย่างยิ่งครับ

บทที่ 14 ขนาดการเทรด-กุญแจที่จะทำให้บรรลุถึงเป้าหมายในการเทรด

“ในความคิดของผม ส่วนที่สำคัญที่สุดของการออกแบบระบบเทรดคือ ส่วนที่เกี่ยวกับเรื่องของการกำหนดว่า จะลงทุนเท่าไหร่ในแต่ละสถานะ”

ผมขออนุญาตแนะนำเลยว่า หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ควรอ่านซ้ำเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวกับจิตวิทยาและความเชื่อเป็นส่วนใหญ่ คนส่วนมากจึงมักจะกรองในสิ่งที่ไม่ตรงกับความเชื่อของตัวเองออก ทำให้มองข้ามรายละเอียดบางอย่างไป หากคุณอ่านหนังสือเล่มนี้หลายๆรอบ จะทำให้คุณสามารถนำข้อมูลต่างๆไปปรับใช้กับระบบเทรดของคุณได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว…

อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วคุณจะได้อะไร

  1. ได้เรียนรู้ถึงวิธีพัฒนาระบบการเทรดที่เหมาะกับความเชื่อของคุณ ซึ่งจะทำให้คุณค้นพบระบบเทรดที่ใช่สำหรับตัวคุณเอง
  2. ได้ตระหนักถึงองค์ประกอบทั้งหมดในระบบเทรด ว่าเราควรโฟกัสกับสิ่งไหนมากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้คุณลดระยะเวลาในการลองผิดลองถูกได้มากทีเดียว

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับใคร

  1. เหมาะกับเทรดเดอร์ทุกคน ไม่ว่าคุณจะมือใหม่ มือเก๋า สาย VI, สายเทคนิค, สาย Hybrid, etc. อ่านกันได้ทุกคนจริงๆครับ ผมมั่นใจเลยว่าถ้าคุณอ่านจบแล้ว คุณจะได้ไอเดียใหม่ๆ เคล็ดลับใหม่ๆ ไปใช้พัฒนาหรือปรับปรุงระบบเทรดของคุณได้แน่นอน
  2. เหมาะกับคนที่กำลังคิดจะสร้างระบบเทรดของตัวเอง หรือสร้างมาสักพักแล้ว แต่ยังหลงทาง จับต้นชนปลายไม่ถูกสักที หนังสือเล่มนี้จะเปรียบเสมือนเข็มทิศที่คอยนำทางคุณให้ไปสู่จุดหมายปลายทางได้ครับ

หนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะกับใคร

  1. ไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ไม่เปิดใจ หรือไม่พร้อมรับฟังมุมมอง ทัศนคติ หรือความเชื่ออื่นๆ ดังที่ผมกล่าวไปในข้างต้นว่า เนื้อหาหลายอย่างในหนังสือเล่มนี้จะขัดกับความเชื่อดั้งเดิมของคุณอย่างมาก แต่ทุกเนื้อหาจะมีทฤษฎีหรือข้อมูลรองรับหมด
    ถ้าคุณไม่พร้อมเปิดใจ ก็อาจทำให้หนังสือดีๆเล่มหนึ่งกลายเป็นกระดาษเปล่าได้
  2. ไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการรวยเร็ว รวยข้ามคืน หรือรวยทางลัด

“คุณจะสร้างระบบเทรดที่เหมาะสมกับตัวเองขึ้นไม่ได้เลย จนกว่าคุณจะรู้จักตัวเองดีพอ” Van K. Tharp

สามารถซื้อหนังสือได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือจาก www.investing.in.th

“การลงทุนในความรู้ คือการลงทุนที่ดีที่สุด”

Investic

--

--