คนที่ซื้อเพลงใน iTunes “โง่” จริงหรือ?

Pol.Cpl.Zakariya Wohya
Daily Lifestyle
Published in
3 min readSep 22, 2013

--

เปิดประเด็นแรงครับ สำหรับบทความนี้ ก่อนอื่น ตัดเรื่องอาชีพของผม และเรื่องกฎหมายออกไปก่อนอ่านนะครับ เพราะผมไม่ได้จะสื่อถึงเรื่องนี้

แต่ในฐานะที่เป็นคนหนึ่งที่ซื้อเพลงใน iTunes มาฟัง และเคยโดนประชดประชันจากคนรอบข้าง (บางคน) ว่า “โง่จัง เพลงฟรีมีให้โหลดเยอะแยะ ซื้อทำไม?” ก็เลยต้องมาเขียนบทความนี้ เพื่อทีจะให้เห็นถึง “ข้อดี” ของการซื้อเพลงใน iTunes ว่ามันดีอะไร ทำไมผมถึงต้องซื้อ และมันเป็นการ “โง่” จริงๆ หรือ?

iTunes Store เป็นร้านขายเพลงออนไลน์ของ Apple ที่มีเพลงให้เลือกซื้อเยอะมาก และเปิดให้บริการในหลายประเทศ รวมถึงในประเทศไทย วิธีการซื้อเพลงใน iTunes ก็ง่ายๆ ครับ แค่มี

  • Apple ID
  • บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตที่สามารถทำธุรกรรมออนไลน์ได้
  • Internet (แรงๆ หน่อยก็ดีครับ)
  • คอมฯ หรือ iDevice สำหรับฟังเพลง (อุปกรณ์ยี่ห้ออื่น ผมไม่แน่ใจว่าจะฟังเพลงที่ซื้อใน iTunes ได้หรือไม่ บางคนบอกได้ บางคนบอกไม่ได้ อันนี้บอกไม่ได้จริงๆ ครับ)

ทำไมต้องซื้อเพลง ?

หน้าตาของ iTunes Store บน iPhone ที่มีเพลงให้เลือกซื้อได้ตามต้องการ

เพราะมันง่ายครับ เข้า iTunes Store เลือกเพลงที่ต้องการ กดซื้อ จบ ไม่ต้องไปนั่ง Search หา แล้วต้องหาอีกว่าจะเอาอันไหน ขนาดเท่าไหร่ จากแหล่งไหน คุณภาพเท่าไหร่ ฯลฯ

โดยใน iTunes Store จะมีเพลงแนะนำ อัลบั้มแนะนำ ชาร์จเพลง เพลงใหม่ และอีกเพียบ เราสามารถค้นหาเพลงเองก็ได้ คือมันง่ายมากครับ ผมเองก็เคยโหลดเพลงมาฟัง กว่าจะได้มา มันยากครับ บางเพลงได้มา คุณภาพไม่ดีอย่างที่คนอัพโหลดเขียนไว้อีก ขั้นตอนและเวลาในการหาเพลง 1 เพลง ถ้าเทียบกับการกดซื้อใน iTunes มันช่างแตกต่างจนเห็นได้ชัดครับ

ราคาแพงมั้ย ?

ราคาเพลงใน iTunes เริ่มต้นที่ 0.69$ หรือประมาณ 20กว่าบาท

แพงครับ สำหรับคนที่เคยแต่โหลดเพลง แต่สำหรับคนที่ซื้อซีดีมาฟังเป็นประจำ บอกได้เลยว่า “ไม่แพง”

เพลงใน iTunes Store เริ่มต้นที่เพลงละ 0.69$ หรือประมาณ 20 กว่าบาท (แล้วแต่อัตราแลกเปลี่ยนขณะนั้น) ถ้าซื้อทั้งอัลบั้ม จะยิ่งได้ราคาที่ถูกกว่า ผมเคยเดินดูตามร้านขายเพลง อัลบั้มที่ผมอยากได้ ก็ขายในราคาใกล้เคียงกับใน iTunes Store เลย บางอัลบั้ม ใน iTunes ถูกกว่าด้วยซ้ำ

สามารถเลือกซื้อเป็นรายเพลง หรือจะซื้อทั้งอัลบั้มก็ได้

อีกอย่างที่เป็นข้อดีคือ เราสามารถเลือกซื้อเฉพาะเพลงที่เราชอบได้ คือไม่จำเป็นต้องซื้อทั้งอัลบั้ม แต่หากเป็นการซื้อซีดี เราไม่มีทางเลือก ต้องซื้อทั้งอัลบั้ม ทั้งๆ ที่เอาจริงๆ แล้ว เราก็ไม่อยากฟังทุกเพลงในบางอัลบั้ม

หากอัลบั้มไหนที่เราเคยซื้อบางเพลงมาแล้ว เกิดเราอยากซื้อทั้งอัลบั้มขึ้นมา ก็สามารถกดซื้อได้ โดยที่ทาง iTunes Store จะลดราคาให้ (จะมีปุ่ม complete my album ให้กด เพื่อซื้อทั้งอัลบั้ม ในราคาที่หักเพลงที่เราเคยซื้อไว้แล้ว) ข้อนี้ถือว่าดีกว่าการซื้อซีดีมากๆ ทำให้ไม่ขาดทุน (จริงๆ)

อีกข้อๆ คือ เราสามารถฟังตัวอย่างเพลงก่อนซือได้ โดยการกดที่ชื่อเพลง จะมีท่อน hook ให้เราฟัง กี่ครั้งก็ได้ ก่อนตัดสินใจซื้อ

คุณภาพเพลงที่ได้ละ ?

หน้าจอฟังเพลงที่ได้จากการซื้อใน iTunes จะมี info เพลงครบถ้วน

คุณภาพเพลงที่ได้จะอยู่ที่ 256kbps ขนาดไฟล์ประมาณ 8MB ต่อเพลง (มากน้อยก็ขึ้นอยู่กับเพลง) ซึ่งถือว่าเป็นเพลงที่มีคุณภาพพอตัวเลย (เพลงโหลดทั่วๆ ไปจะอยู่ที่ 128kbps ขนาดประมาณ 3-4MB)

นอกจากนี้ เรายังได้ info เพลงที่ครบถ้วน ทั้ง CD Cover, ชื่อเพลงที่ถูกต้อง, ชื่อนักร้อง, ชื่ออัลบั้ม และข้อมูลอื่นๆ

มันสำคัญยังไงหรอครับ? info เพลง สำคัญครับ นึกภาพเวลาฟังเพลง แล้วข้อมูลเพลงขึ้นเป็นภาษาต่างดาว หรือขึ้นข้อมูลที่ไม่ได้เกี่ยวกับเพลง มันคงไม่ค่อยดีนัก ยิ่งตอนค้นหา ในกรณีที่ในเครื่องมีหลายเพลง เราคงปวดหัว เพราะไม่รู้ว่าเพลงที่ต้องการจะฟัง บันทึกด้วยชื่อว่าอะไร

ซื้อแล้ว ถ้าลบไป หรือเครื่องหาย ต้องซื้อใหม่รึเปล่า ?

เพลง/อัลบั้มไหนที่เคยซื้อแล้ว สามารถโหลดมาฟังตอนไหนก็ได้ กีครั้งก็ได้ ไม่ต้องจ่ายซ้ำ

เนื่องจากในการซื้อเพลงใน iTunes Store ต้องใช้ Apple ID เพื่อเป็นการระบุตัวตนเจ้าของเพลง ดังนั้น จะไม่เกิดปัญหา “ซื้อซ้ำ” อย่างแน่นอน (ลืมปัญหา แผ่นหาย แผ่นเป็นรอย เพื่อนยืมไม่คืนไปได้เลย)

แค่ Sign in ด้วย Apple ID ที่เราใช้ซื้อเพลง ก็สามารถกดดาวน์โหลดเพลงที่เราเคยซื้อมาได้ทันที โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติมเลย

โดยเฉพาะใน iOS7 ที่สามารถกำหนดให้ Music ของ iDevice แสดงเพลงทั้งหมดที่เราเคยซื้อ แต่ยังไม่ได้โหลดลงเครื่อง โดยจะมีเครื่องหมายแสดงดังรูป (ก้อนเมฆมีลูกศรชี้ลง) ทำให้เราสามารถโหลดเพลงนั้นๆ หรืออัลบั้มนั้นๆ ลงเครื่องได้ทันที ไม่ต้องเสียบกับคอมฯ ให้วุ่นวาย หรือจะฟังออนไลน์ก็ยังได้ครับ

เมนูการตั้งค่าให้ Music ใน iOS7 แสดงรายการเพลงทั้งหมดที่เราเคยซื้อและตั้งให้ดาวน์โหลดเพลงอัตโนมัติในกรณีที่มีเรามีหลายเครื่อง

จากรูป ในสี่เหลี่ยมสีแดง คือเมนูสำหรับตั้งค่าให้ Music ใน iOS7 แสดงรายการเพลงทั้งหมดที่เราเคยซื้อ อย่างที่กล่าวไปข้างต้น

ส่วนอีกรูป ในสี่เหลี่ยมสีน้ำเงิน จะเป็นการตั้งค่าให้ดาวน์โหลดเพลงอัตโนมัติ ในกรณีที่เรามีหลายเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น คอมฯ, ไอโฟน, ไอพอด, ไอแพด ถ้าเปิดไว้ ไม่ว่าเราจะซื้อเพลงจากเครื่องไหน เครื่องที่เหลือ (ที่ใช้ Apple ID เดียวกัน) จะดาวน์โหลดเพลงนั้นมาให้ทันที นึกภาพง่ายๆ เรากดซื้อเพลงขณะกำลังเดินทางบนรถ เมื่อกลับถึงบ้าน เปิดคอมฯ มา ใน iTunes บนคอมฯ ของเราก็จะมีเพลงที่เราซื้อเมื่อกี้ให้ฟังทันที ไม่ต้องเชื่อม ไม่ต้องอะไรให้มากความ

ไรท์ลงแผ่นได้มั้ย ?

คงเป็นคำถามที่หลายๆ คนสงสัย ว่าเพลงที่ซื้อมาอย่างถูกลิขสิทธิ์ จะสามารถไรท์ลงแผ่น เพื่อเอาไปฟังบนรถ หรือฟังกับเครื่องเล่นได้หรือไม่?

ได้ครับ แต่มีข้อแม้ว่า ต้องไรท์เป็น Audio เท่านั้น ไม่สามารถไรท์เป็นแผ่น mp3 เหมือนเพลงทั่วๆ ไปได้ครับ

ผมมองว่าเป็นข้อดีนะ เพราะปกติ 1 แผ่น ก็ประมาณไม่เกิน 20 เพลงอยู่แล้ว เหมาะสุด มากเพลงก็ใช่จะฟังหมด และหาเพลงลำบาก :)

ผมก็พอจะสรุปได้คร่าวๆ เท่าที่เขียนไป อย่างที่บอก ไม่ได้จะชูประเด็นเรื่องผิดไม่ผิดกฎหมาย แต่เอามาเขียนเพื่อให้เห็นถึงข้อดีในการซื้อเพลงมาฟัง และอยากให้คนที่คิดว่าคนซื้อเพลงมาฟังนั้น เขาไม่ได้โง่ครับ เพียงแค่เขาต้องการความสะดวกสบาย และสนับสนุนการสร้างผลงานดีๆ ให้เราได้ฟังเพลงดีๆ ต่อไป ก็เท่านั้นเองครับ

ก่อนจบ ผมมีอย่างหนึ่งเป็นข้อสังเกต คือ ตอนทีผมโหลดเพลงมาฟัง ก็โหลดๆ ไม่สนใจเพลงเท่าไหร่ สักแต่โหลดไว้ก่อน ฟังไม่ฟังค่อยว่า Library เพลงผมรกมาก แต่มาซื้อเพลง กว่าจะตัดสินใจกดซื้อแต่ละเพลง คิดแล้วคิดอีก ลองฟังแล้วลองฟังอีก ทำให้ได้เพลงที่ชอบจริงๆ เท่านั้น ตอนนี้ใน Library มีแต่เพลงที่ “ฟังได้” จริงๆ :)

ข้อแนะนำอีกอย่างครับ

“ลบเพลงโหลดให้หมด แล้วเริ่มซื้อเพลงทีละเพลงๆ เรื่อยๆ จะเกิดผล ”

ป.ล. อารมณ์ของการซื้อ CD มาสะสม มันคนละเรื่องกันนะครับ อันนั้นคือสุดยอดของนักฟังเพลงตัวจริง :)

--

--

Pol.Cpl.Zakariya Wohya
Daily Lifestyle

Royal Thai Police | Blogger | iPhoneographer | Movie&Music | Satit PSU'32 | MGT PSU'27 | Twitter: @ZakCop