Phuanan Wannasuttipong
IT@KMUTNB
Published in
1 min readMar 14, 2017

--

10 วิธีในการทดสอบความคิดStartupของคุณอย่างรวดเร็ว

บทความนี้ แปลและเรียบเรียงมาจาก https://www.productplan.com/lean-market-validation-10-ways-rapidly-test-startup-idea/ มีข้อผิดพลาดประการได้ ขออภัยมา ณ ที่นี้

เป้าหมายของการพูดคุยของผมคือความเรียบง่าย : เพียงไม่กี่เคล็ดลับที่จะเป็นประโยชน์ให้สำหรับผู้ประกอบได้อย่างตรวจสอบความคิดของตนได้อย่างรวดเร็ว ผมยังต้องการที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจว่าครั้งแรกที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จมันไม่ใช่ขั้นตอนที่ง่าย (และมักจะฟรี)

หลังจากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์หลายชิ้น , รวมไปถึง ProductPlan , ฉันได้ค้นพบว่ามีกระบวนการที่เหมาะสมแม้ผู้ประกอบการที่ไม่มีประสบการณ์ก็สามารถนำผลิตภัณฑ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจให้กับตลาดกับผู้ซื้อรู้สึกตื่นเต้นในวันแรกได้

นี่คือเคล็ดลับของการใช้เพื่อยืนยันการตรวจสอบว่ามีตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์คุณ / มีตลาดที่พอดีกับความต้องการลูกค้า โดยเพียงแค่ทำให้พวกเขามีส่วนร่วมและถามคำถามเพื่อยืนยันว่าความคิดของคุณสามารถแก้ไขปัญหาของผู้ซื้อได้จริง และในท้ายที่สุดเพื่อให้รู้ว่ามีตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของคุณจริง

1.เขียนแนวคิดสินค้าของคุณ

แค่การเขียนตัวอย่างง่ายๆ เพื่อให้คุณได้จดจำสิ่งที่คิดไว้ก่อนหน้านี้ ผมไม่ได้พูดถึงเกี่ยวการเขียน “แผนการธุรกิจ” (สำหรับ startups, แผนธุรกิจไม่ใช่การใช้เวลาที่ดีที่สุดและจะมีการเปลี่ยนแปลงที่เร็วที่สุดเมื่อคุณเริ่มต้นพูดคุยกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย)

ผมกำลังพูดถึงคำถามที่สำคัญบางอย่างที่คุณสามารถออกไปและการทดสอบสมมติฐานของคุณเหล่านี้ และไม่ช้าก็เร็วคุณจะสามารถทดสอบกับพวกเขา เพื่อความเสี่ยงที่น้อยกว่าที่คุณจะได้เมื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของคุณ

คุณสามารถเริ่มต้นด้วยคำถามด้านล่างหรือใช้เครื่องมือ เช่น Business Model Canvas เพื่อเป็นแนวทางสำหรับความคิดของคุณ

เขียนลงสมมติฐานพื้นฐานบางอย่างที่คุณสามารถนำออกไปทดสอบ

  • ลูกค้าของคุณคือใคร ?

ถ้าคุณพูดว่า “ ทุกคน ” คุณกำลังทำให้ตัวเองตกที่นั่งลำบาก คุณต้องแน่ใจว่าคุณได้เจาะจงลูกค้ากลุ่มใด ตัวอย่างเช่น ถ้าลูกค้าของคุณเป็นธุรกิจ คำตอบ : เป็นธุรกิจประเภทใด ? มีขนาดเล็ก หรือ ใหญ่ เป็นธุรกิจทั่วไปไหม ? หรือเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม ? และชื่อของผู้ซื้อ ?

  • อะไรเป็นปัญหาที่คุณต้องแก้ไข ?

สิ่งที่ผู้ประกอบการจำนวนมากมักคิดว่าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แรก — พวกเขากังวลเกี่ยวกับfeatures , การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ , และสงสัยว่าทำไมผลิตภัณฑ์ของพวกเขาจึงมีปัญหา คำแนะนำของผมคือการเริ่มต้นที่ปัญหาครั้งแรก สิ่งนี้คือความหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับปัญหาที่ผลิตภัณฑ์ของคุณจะต้องแก้ไข และตรวจสอบว่าลูกค้ายังพบปัญหาเหล่านี้อีกไหม และที่สำคัญว่าลูกค้าต้องคิดว่ามันคุ้มค่ากับการแก้ปัญหา

  • ผลิตภัณฑ์ของคุณแก้ปัญหาเหล่านั้นหรือไม่อย่างไร ?

หลังจากเอาปัญหาที่เขียนไว้ไปใส่ในผลิตภัณฑ์ จากที่นี่คุณค่าของผลิตภัณฑ์ของคุณจะอยู่ที่การแก้ไขปัญหาของลูกค้า , วิธีแก้ไขปัญหาทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้น ? , มันจะสามารถทำเงินให้เขาได้ไหม ? , ดูดีกว่าไหม ?

  • อะไรคือคุณสมบัติที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ ?

features ต้องมีมากกว่าคำว่า เจ๋ง -พวกเขาต้องการที่จะแก้ปัญหาเฉพาะ และปริมาณมากขึ้น ( เช่นการประหยัดเวลา , การทำเงิน)ที่ดีกว่า ผมแนะนำให้คุณคิดขั้นต่ำของผลิตภัณฑ์และข้อจำกัดของfeatures ที่ผลิตภัณฑ์สามารถทำงานที่กำหนดได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ (คุณจำเป็นต้องให้ความคุ้มค่าเพียงพอสำหรับลูกค้าบางรายที่จะซื้อ)

2. ตัดสิน

ที่ Startup weekend 54 ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว แนวคิดเดียวกันถือเป็นจริงสำหรับ startups ในโลกแห่งความจริงเวลาและทรัพยากรจะไม่เพียงพอ ไม่มีเวลาที่จะใดที่จะเจ็บปวดไปมากกว่ารายละเอียดในท้ายที่สุดอาจจะไม่สำคัญ

เพราะฉะนั้น ทีมที่ประสบความสำเร็จต้องได้รับข้อมูลที่เพียงพอและนำข้อมูลไปตัดสินใจแล้วเอาไปทำมัน. ผมชอบที่จะยึดติดกับกฎ 80% ที่ต้องได้รับข้อมูลที่พอเพียงสำหรับการตัดสินใจ จากการสัมภาษณ์ลูกค้าและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ในท้ายที่สุดแล้วคุณจะไม่มีทางได้ความเชื่อมัน 100% และการทำให้เสร็จจะกินเวลาไปจำนวนมาก

3. ที่สุดของสิ่งสมมติฐานที่คุณเขียนคืออะไร

สิ่งใดที่พาเรามาถึงข้อที่3 : ทั้งหมดที่คุณเขียนและการพิจารณา(การอภิปราย)ที่คุณมีเป็นของสมมุติฐาน ทีมมักจะคิดว่าการพิจารณาเหล่านี้ (และสิ่งที่อยู่ในหัวของพวกเขา) เป็นจริงแต่แท้จริงมันเป็นเพียงสมมติฐานที่จะต้องมีการทดสอบ

ผมชอบที่จะคิดตามวิธีทางวิทยาศาสตร์เพื่อตรวจสอบความคิด -ว่ามันผ่านการทดสอบได้ไหม?

ฉันมักจะเห็นทีมถกเถียงกันเรื่องรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และเสียเวลาอันมีค่าจำนวนมากกับการคาดเดา(การตัดสินใจชั่วคราว), และจากนั้นนำออกไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงเพื่อทดสอบว่ามันเป็นความคิดที่ถูก มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเริ่มต้นจากการคาดเดา เพราะสมมติฐานของคุณจะผิด และคุณจะต้องใช้เวลาอันมีค่ามาถกเถียงสิ่งที่ไม่สำคัญในครั้งแรก

4. ค้นหาความจริงด้วยการออกไปทดสอบสมมติฐานของคุณ

ทันทีที่คุณได้ทำการตัดสินใจเรื่องพื้นฐานบางอย่างและเขียนลงสมมติฐานของคุณ คุณต้องออกไปทดสอบมันเพื่อดูผลตอบรับจากลูกค้าที่มีศักยภาพ

พวกคุณควรจะสัมภาษณ์กับผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพของเขา นอกจากนี้คุณยังสามารถทดสอบสมมติฐานของคุณโดยการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ ตัวอย่างเช่น นักวิเคราะห์สำหรับอุตสาหกรรม , ผู้ที่ได้รับการว่าจ้างจากอุตสาหกรรม , ที่ปรึกษา , ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีวิธีการบางอย่างที่ดีในการทดสอบความคิดในรูปแบบดิจิตอลผ่านทางlanding pagesและโฆษณาราคาถูก

5. เริ่มต้นด้วยเครือข่ายของคุณ

ฉันมักจะถามทีมถึงวิธีง่ายที่สามารถหาคนที่มีโอกาสเป็นลูกค้าแล้วพูดคุยกับเขา ผมขอแนะนำให้ทำงานร่วมกับเครือข่ายของคุณเองและเครือข่ายของเพื่อนพี่เลี้ยงนักลงทุนและอื่นๆ ในการเข้าถึงลูกค้าที่มีศักยภาพ

ข้อเสียของการสัมภาษณ์คนที่อยู่ในเครือข่ายของคุณคือพวกเขาเป็นมิตรกับปัญหาของคุณ ซึ่งหมายความว่าคุณกำลังเริ่มนำบางอคติเข้าไปในการเรียนรู้ของคุณ แต่ทัศนคติของฉันคืออคติบางอย่างก็ยังดีกว่าไม่ได้สัมภาษณ์ทุกคนและการใกล้ชิดกับความจริง

6. สัมภาษณ์พวกเขา

เมื่อผมพูดถึงการสัมภาษณ์ , ผมไม่พูดถึงเกี่ยวกับการสนทนาคร่าวๆ (การสำรวจ) และเริ่มต้นด้วยรายการของคำถาม แต่เบี่ยงเบนไปจากคำถามขณะที่คุณเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติม. วิธีการสนทนากับความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับปัญหาของลูกค้าและความต้องการ และคุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกบางส่วนที่มีคุณค่าจริงๆ

7. ถามว่า “ทำไม?”

“ทำไม?” คือคำถามที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถถามไปได้ไกล กับมันคุณสามารถได้ใกล้ชิดกับความจริงจากลูกค้า แต่น่าเสียดายที่คำถามนี้ไม่ได้ใช้บ่อยมากพอ คนจำนวนมากถามคำถามแล้วเอาคำตอบที่อยู่ตรงหน้า มันเป็นโอกาสที่พลาดที่จะเข้าใจแรงจูงใจและตรวจสอบสิ่งที่คนจริงๆจะทำอย่างไร

The Five Whys เป็นเทคนิคที่ดีเพื่อที่จะได้เหตุผลพื้นฐานที่แท้จริงที่อยู่เบื้องหลังแรงจูงใจของลูกค้า

8. ค้นหาคุณค่า

ผมขอแนะนำให้ผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับfeatures ให้น้อยลง และเพิ่มการอธิบายการนำเสนอคุณค่าของผลิตภัณฑ์ของพวกเขาให้มากขึ้น คุณค่าที่เป็นกำไรที่คาดว่าลูกค้าจะได้รับจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณ

ตัวอย่างเช่น มันสามารถประหยัดเวลา , ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น หรืออาจจะมีผลประโยชน์ทางสังคม อะไรก็ตามคุณค่าของมันจะเชื่อมกับปัญหาที่คุณได้ค้นพบก่อนหน้านี้

9. การชอบความคิดของคุณจะไม่เหมือนกับการซื้อสินค้าของคุณ

น่าเสียดาย , การตรวจสอบความคิดของผลิตภัณฑ์กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นสิ่งที่เกี่ยวกับจิตใจ ไม่มีคำตอบที่เป็นสีดำและสีขาว ในความเป็นจริง เพราะคนมักจะมีความสุขและต้องการที่ให้คุณพอใจ (โดยเฉพาะเพื่อนนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ Startup Weekend) คุณจะต้องระมัดระวังเกี่ยวกับการยอมรับคำตอบของพวกเขาโดยไม่คิดให้ดี

เมื่อมีคนบอกคุณอย่างจริงใจว่า “มันฟังดูดี” หรือ “ว่าเป็นความคิดที่น่าสนใจ” ปฏิกิริยาแรกของคุณควรถามกับว่า “ทำไม?” มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเข้าใจว่าคนที่ชื่นชอบความคิดของคุณจะไม่เหมือนกับการซื้อสินค้า ความท้าทายของคุณอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ และเอาสิ่งที่เป็น “ผลบวกที่ไม่เป็นจริง” เหล่านี้ออกไปให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

10. กระโดดออกจากหน้าผาและมีความสนุก

Startup Weekend เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการใหม่ที่จะใช้โอกาสเอาความคิดของพวกเขาไปวางอยู่ตรงหน้าของคนแปลกหน้า, ฟอร์มทีม ,และได้เพื่อนใหม่ และหลายคนไปในที่ที่จะสร้างความคิดเริ่มต้นของพวกเขาและนำมันไปยังตลาด

คำแนะนำของกลุ่ม (และผู้ประกอบการทั้งหมด) คือการใช้ความเสี่ยง, กระโดดลงมาจากหน้าผาและมีความสนุกสนานกับประสบการณ์

--

--