[Review] ภาพยนตร์ — เรื่อง Christopher Robin 2018 (8.5/10)
เมื่อพูห์และพวกพ้องต้องจากกับเด็กน้อย และกลับมาพบกันอีกครั้ง
จากการ์ตูนและนิยายที่เป็นขวัญใจของใครหลายคนในวัยเด็ก กลายมาเป็นภาพยนตร์ที่แฝงความคิดและให้ความน่ารักอย่างอบอุ่น
ก่อนจะมาเป็นภาพยนตร์เรื่อง Christopher Robin
เมื่อพูดถึงหมีพูห์เราจะนึกถึงหมีเสื้อแดงตัวสีเหลืองที่ชอบน้ำผึ้งยิ่งกว่าอะไร แบบนี้
พูดถึงอดีตซักนิด ซึ่งเจ้าพูห์ของเราเกิดขึ้นมาได้นั้น เป็นเพราะ A.A. Milne (Alan Alexander Milne) นักเขียนหนังสือและบทกลอน เค้าเป็นผู้แต่งเรื่องราวของ “Winnie the Pooh” โดยมีแรงบันดาลใจจากตุ๊กตาหมีที่ชื่อว่า Winnie ของลูกชายเค้าเองที่ชื่อว่า Christopher Robin โดยคำว่า Pooh นั้นได้มาจากชื่อของหงส์ที่อาศัยอยู่ในบริเวณฟาร์มของเขาเอง
หากท่านผู้อ่านอยากทราบประวัติเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น ทำไมตุ๊กตาหมีถึงชื่อว่า Winnie ? แล้วชื่อ Winnie ที่แท้จริงมาจากอะไร ? แล้วตุ๊กตาหมีที่ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ? สามารถอ่านต่อได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
จากนั้นก็มีการนำมาสร้างเป็นการ์ตูนอย่างที่เห็น คือ หมีเหลืองเสื้อแดง นั่นเอง
ส่วนเรื่องภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ มีภาพยนตร์เรื่อง Goodbye Christopher Robin ที่เกี่ยวกับ Winnie the pooh กับ Christopher Robin แต่จะเป็นการนำเสนอเรื่องราวของชีวิตจริงของครอบครัว Christopher Robin ไม่เหมือนกับหนังเรื่องนี้ที่จะเกี่ยวกับนิยายผสมกับชีวิตจริง
ความประทับใจ
การเกริ่นนำ
ในภาพยนตร์จะเป็นการนำเสนอตอนที่ Christopher Robin นั้นโตแล้ว แต่จะทำให้คนดูได้เข้าใจความเป็นมาก่อนหน้า ก็ต้องมีการเล่าเรื่องเกริ่นนำ ซึ่งตรงจุดนี้ส่วนตัวแล้วชอบมาก เพราะนอกจากจะใช้เวลาไม่มากแล้ว ยังเล่าได้เข้าใจอีกด้วย(อาจเพราะไม่ได้ซับซ้อนมาก) และยังใช้ภาพของหนังสือนิยายประกอบ ทำให้มีความรู้สึกที่เข้ากันของตัวหนัง
การดำเนินการเล่าเรื่อง
ตั้งแต่ช่วงเริ่มไปจนถึงช่วงปลายเรื่อง มีการดำเนินเรื่องที่ไม่น่าเบื่อ ไม่ยืด บางช่วงสั้นแต่ก็ไม่ทำให้ความเข้าใจหรือความรู้สึกของหนังหรือตัวละครสูญเสียไป ช็อตที่สำคัญ ๆ ที่มีความสัมพันธ์ของบางช่วงก็ไม่ต้องนึกนาน เพราะไม่ได้ถูกช็อตอื่น ๆ มากลบ (เช่น ถึงช่วงปลายเรื่องแล้ว แต่ก็ยังจำได้ว่าต้นเรื่อง Christopher แต่งงานกับภรรยาได้อย่างไร เจอกันที่ไหน)
บุคลิกของตัวละคร
ตรงจุดนี้ส่วนตัวแล้วชอบมากอีกจุดนึง นอกจากตัวละครหลัก ๆ อย่างพูห์ หรือคริสโตเฟอร์ ที่จะเห็นบุคคลิกที่ชัดเจนมาก ๆ เช่น
- การเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ การเป็นคนที่มีความจริงจัง การเป็นคนที่มีความเป็นห่วง หรือขี้เกรงใจของคริสโตเฟอร์
- การเป็นคนที่ชอบมองโลกในแง่ดี การเป็นคนที่รักเพื่อน การเป็นคนที่ใจเย็นของพูห์
แต่ตัวเรื่องยังแสดงบุคลิกของตัวละครรองให้ได้เห็นให้จำได้ในเวลาอันสั้น เช่น ความขี้กังวลของพิกเลต ความร่าเริงไม่คิดอะไรมากของทิกเกอร์ หรือแม้กระทั่งความจุกจิก ของคนข้างบ้านของคริสโตเฟอร์ !!!
ความไม่ประทับใจ
เรื่องความไม่ประทับใจ มีแค่เรื่องเดียวคือ ความเร็วของของการดำเนินเรื่องในช่วงปลาย ส่วนตัวรู้สึกว่า อะไร ๆ มันก็เข้าล็อคไปหมดในช่วงท้าย ราบรื่นทุกอย่าง โป๊ะเช๊ะทุกอย่าง ดูง่ายเกินไป
แต่ตรงจุดนี้ อาจจะเป็นเพราะความคิดส่วนตัวของผู้เขียนที่ชอบดูหนังอะไรก็แล้วแต่ ชอบที่จะเหตุผลมา Support ตลอด ซึ่งถ้ามองอีกมุมอาจจะดีด้วยซ้ำที่เห็นหนังทำให้เรารู้สึกสนุกและอิ่มเอมกับความโป๊ะเช๊ะที่ว่า
อย่างไรก็ตาม หากผู้อ่านมีข้อเสนอหรืออยากอธิบายมุมมองให้ทางผู้เขียนได้เข้าใจเพิ่งเติม เชิญได้เลยครับด้วยความยินดี 😄😄
สรุป
- ขอให้คะแนน 8.5/10 ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมา (เสริมอีกนิด ส่วนตัวแล้วชอบตอนที่พูห์เตือนสติด้วยความเชื่องช้า เพื่อหยุดความร้อนรนของคริสโตเฟอร์)
- หนังเรื่องนี้เหมาะสำหรับเด็กโตและผู้ใหญ่ ทุกเพศ
- แนะนำว่าเตรียมทิชชู่เตรียมซับน้ำตาไปด้วย
- แม้ว่าจะไม่ได้ชอบหรือติดตามพูห์มาตลอด ก็สามารถดูและเข้าใจได้
- เป็นหนังอีกเรื่องที่เตือนสติให้กับผู้ที่ทำงานหนักจนลืมโฟกัสสิ่งที่สำคัญอื่น ๆ
- เป็นหนังที่จะมอบความอบอุ่นให้กับคนดูอย่างแน่นอน
จองตั๋ว Christopher Robin
สำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจ สามารถเช็ครอบหนังที่เว็บไซต์ Disney ทั้ง SF CINEMA และ MAJOR CINEPLEX ได้ที่ลิงค์ด้านล่าง
หรือลิงค์นี้สำหรับท่านที่สะดวกในเครือ MAJOR CINEPLEX
หรือลิงค์นี้สำหรับท่านที่สะดวกในเครือ SF CINEMA
สำหรับบทความแรกของการ Review เกี่ยวกับภาพยนตร์ก็จบเรียบร้อยครับ ขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่อ่านจนจบ
หากท่านผู้อ่านมีคำถามหรือข้อสงสัย หรือมีคำแนะนำ ติชม สามารถติดต่อผู้เขียนได้เลยครับ