Hardcore Intern @jitta
ช่วงปี 2018 ที่ผ่านมา มีโอกาสได้มาฝึกงานและสหกิจที่ Jitta เป็นเวลา 7 เดือนเต็ม เป็นช่วงเวลาที่สนุกและท้าทายมาก เลยอยากมาแชร์ประสบการ์ว่า ผมไปทำอะไรบ้างที่ Jitta และได้เรียนรู้อะไรบ้าง
ก่อนที่จะมีฝึกงานผมได้ติดต่อผ่านทางพี่ Jirat Ki. เพื่อติดต่อขอฝึกงาน ผ่านเข้ามา Interview จนมีโอกาสได้เข้ามาฝึกงาน
ตำแหน่งที่ได้รับคือ Software Engineer ทีม Engineer ของที่นี่ ไม่มีการแบ่ง Frontend, Backend จะเปรียบทุกคนเป็นทีมทำ Software จึงมีโอกาสได้เรียนรู้ในทุกภาคส่วน และที่ Jitta เปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้อย่างเต็มที่ถ้าเรามีความตั้งใจในการเรียนรู้ ผมมีโอกาสได้ทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Frontend, Backend, Infra หรือแม้แต่ ประชุมรับ Requirement จากทีม Bussiness ที่ Jitta ก็เปิดโอกาสให้เราสามารถเข้าร่วมได้
มาพูดถึง Culture กันบ้าง ที่ Jitta ตำแหน่งทำงานจะค่อนข้างเป็น flat organization ทุกคนสามารถคุยกันได้ และเท่าเทียมกัน คนนึงสามารถทำได้หลาย role
เวลาเข้าออกงาน flexible มากกกกกๆ ไม่ใช่เพราะไม่เข้ม แต่ทีม Engineer เชื่อใจกันว่า ทุกคนสามารถ delivery งานออกมาอย่างมีประสิทธิภาพได้โดยไม่ใช้เวลาเข้างานเป็นตัวแปร (แต่ถ้ามีนัดประชุมก็ต้องตามนั้น)
ที่ Jitta วัดผลความสำเร็จด้วย OKRs จึงเน้นการทำงานที่สามารถวัดผลได้ และมี value จากผลงานจริงๆ
The Top 5 Things I Learned in Jitta
1. Engineering Skills
การจะออกแบบระบบในแบบ Engineer ในโลกแห่งความเป็นจริงตัวแปรไม่ใช่แค่การออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่านั้น แต่เราออกแบบระบบตามทรัพยากรที่เรามีอยู่อย่างจำกัดให้คุ้มค่า สร้าง Value ให้กับผู้ใช้ และธุรกิจจริงๆ
Jitta เปิดโอกาสให้เราได้มีส่วนร่วมในการออกแบบระบบจาก Requirement จริง และนำไปใช้จริง จึงมีหลายอย่างที่ต้องคิดมากกว่าการทำให้ระบบทำงานได้
2. Software Development Skills
- Work with team เป็นสิ่งที่สำคัญมากในโลกการทำงาน เราควรจะทำงานเป็นทีมกันอย่างไรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- Manage Multiple Projects in Deadline-Driven Environments เราไม่ได้ทำงานแค่อย่างเดียว แต่ใน Startup นั้นมีสิ่งที่น่าสนใจ และต้องทำเยอะมากๆ ที่ล้วนสร้าง Impact ให้กับผู้ใช้ และธุรกิจ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมี Deadline หรือกำหนดการ Release ที่ชัดเจน ดังนั้นสกิลการ Manage งานนั้นสำคัญมากในการทำงานจริง
- Understand Software Engineering Best Practices ที่ Jitta เรามีการ Review code อยู่ตลอด และการ Maintain Code นั้น ยากกว่าการ Create Code หลายเท่า การเขียนโค๊ดให้มีคุณภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง
3. Self improvement
ที่ Jitta มีให้ 10% ของงานใน OKRs ให้เรามีโอกาสได้พัฒนาตัวเองเรื่องๆ และการทำงานภายใต้ OKRs ก็ทำให้เราได้มี Objective ที่จะพัฒนาตัวเอง อย่างชัดเจน
4. Communication skills
ที่ Jitta มีอาหารกลางวันฟรี มีแม่บ้านทำอาหารอร่อยๆ ให้ทานร่วมกันทุกวัน ทำให้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับทีมอื่นๆตลอด เป็นการช่วยเพิ่มไอเดียในหลายๆมุม และยังมีกิจกรรมอีกหลายอย่างมากก ที่ทำให้เกิดโอกาสได้เจอกับลูกค้า รับ Feedback จากงานที่ตัวเองทำ ทำให้สามารถพัฒนา Product ได้อยู่ตลอดเวลา
5. Investment skills
อยู่ที่ Jitta ทำให้เข้าใจแนวทางการลงทุนตามแบบ VI อย่างลึกซึ้ง สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://library.jitta.com แอบขายของเลย และเข้าใจถึงวิธีการลงทุน สามารถนำไปต่อยอดในอนาคตได้
หลังจากฝึกงานเสร็จ ผมได้ทำ Senior project กับ Jitta ต่อ คงมีอะไรสนุกๆเกิดขึ้นอีกมากแน่นอน และยังคงต้องเรียนรู้ต่อไปอีกเรื่อยๆ ขายของขนาดนี้ ถ้าใครสนใจจะสมัคร Intern, Fulltime ก็สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://www.jitta.com/careers หรือ ส่งเมลมาได้ที่ hr@jitta.com
