“ผมเองก็จะเป็น Backend Developer ให้ได้เหมือนกันนะ”

My internship experience as a Backend Intern at Marvelous Studio

เริ่มต้น 1.1

10:30 นาฬิกา⏰ ในเช้าของวันอังคารที่ท้องฟ้านั้นราวกับก้อนเมฆถูกย้อมไปด้วยสีเทา

เป็นเวลาที่ผมบรรจงนิ้วมือลงบนแป้นพิมพ์เพื่อเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่ผมนั้นได้ฝึกงานตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา (โทษทีพี่อินไปหน่อย)

ก่อนอื่นเพื่อไม่ให้เสียมารยาท เราชื่อ เพชร เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ(IT) จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีครับ 555+ จบแล้ว

อ้าวยังไงต่อดี เพิ่งเคยเขียนอะไรแบบนี้เป็นครั้งแรก งั้นน...

เราอยู่ในช่วงเลือกแผนการเรียนของ ปี3เทอม1 โดยมีโจทย์คือ เอ๊งต้องหาที่ฝึกงานให้ได้!!! ถ้าไม่อยากเรียนเทอมนี้ ณ ตอนนั้นเราคิดแบบนั้นอะนะ แล้วจะฝึกอะไรล่ะ

ก่อนหน้านี้เราทำโปรเจค เราทำ Backend งั้นไปฝึก Backend ง่ายมั้ยล่ะ

แต่อีกเหตุผลคือ หลังจากนี้ยังมีโปรเจคจบอีกเลยคิดว่าไปฝึกด้านนี้จะได้เข้มๆ

อยากให้เข้าใจ Feeling กันนน🥴

สัมภาษณ์ 1.2

11.06 นาฬิกา⏰ วันเดียวกันกับ 1.1

เราทำการ Research หาข้อมูลของบริษัทที่จะไปฝึกงาน ทั้งจากที่มหาลัยให้มากับหากันเองกับเพื่อนนั่งดูกันจนถูกชะตาต้องใจกับบริษัทที่หนึ่งโห้ววแค่ชื่อก็เท่แล้ววยื่น resumeเลย

ในที่สุดมาถึงเราได้ email จากทางพี่ๆMarvelous Studio ในการนัดสัมภาษณ์

ว้าวววตื่นเต้นน(ถูมือๆ)

ณ ห้อง video conference …

555+ ผมจำไม่ได้แล้วอะคุยอะไรไปมั้งเอาความรู้สึกแล้วกันเนอะ

ตื่นเต้น ตื่นเต้น ตื่นเต้นนนน จำได้ขอเสื้อ line dev พี่เขาไป

พี่: อยากได้อย่างนั้นหรอกเจ้าหนู พี่มี 4 ตัว

คราวๆ พี่เขาให้ review ตัวเองทำอะไรมา ชอบอะไร ทำอะไรมาบ้าง review งานที่เราทำมาให้หน่อย ซึ่งเป็น First impression ที่เราชอบมากๆ

ผลลัพธ์ 1.3

ลิงได้ไปอวกาศฉันใด ผมก็ได้ไปฝึกงานฉันนั้น

ฝึกงาน 1.4

11.42 นาฬิกา⏰ ผมไปเดินเล่นมากลับมาพร้อมของกิน

ช่วงสัปดาห์แรก พี่ๆอยากให้ผมและเพื่อนๆปรับตัวทำความรู้จักและเข้าใจใน Culture และ Goal ขององค์กร การทำงานของแต่ละฝ่าย และ นั่งเล่นบอร์ดเกม ต่อเลโก้ สนุกมากก ซึ่งพี่เป็นกันเองมากๆ แบบรุ่นพี่รุ่นน้องกันเลยย

ลักษณะการทำงานของเรา จะเป็นแบบ Hybrid โดยจะแบ่งการทำงานคือ 3วันเข้า office และ 2 วัน Work from Home มีการ Stand-up meeting ในทุกเช้าเวลา 10.00น. ซึ่งวันที่ไปทำงานที่office พี่เลี้ยงข้าวตลอดเลยอร่อยมากๆเลยครับ

พื้นที่โฆษณา

บริษัท มาร์เวิลลัส สตูดิโอ จำกัด เป็นบริษัทที่นำเทคโนโลยีมาช่วยส่งเสริมการศึกษา (EdTech) โดยเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า “เรียนวิธีคิด ผ่านวิธีโค้ด by CodingThailand” เป็นแพลตฟอร์มส่งเสริมการเรียนรู้วิชาวิทยาการคำนวณให้กับเยาวชนไทย ผ่านทางเว็บไซต์ www.codingthailand.app ในขณะเดียวกันยังคงทำหน้าที่เป็น Software House รับออกแบบและพัฒนาระบบตามความต้องการของลูกค้าอีกด้วย ภายในบริษัท มาร์เวิลลัส สตูดิโอ

ทำงานกันเถอะ 1.5

11.55 นาฬิกา กินหมดแล้ว

พูดโดยรวมแล้วกันนะ555

เรา Backend Developer ชื่อดูอาจจะโอเวอร์แต่เหมือนโชเฟอร์ที่ส่งAPI ให้ Frontend Developer โย่วววว🤐

โอเคไม่ติดดลาด เห้ยย ติดตลกแล้ว

เราทำBackend มีหน้าที่คือ

Design Database,

Design & Create API ,

Testing API, Function

เครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ก็จะมี

• NoSQL(Firebase Firestore)
• NoSQL(MongoDB)
• Node.JS (Express.js)
• Nest.JS

ประมาณนี้ครับทุกคนน แต่ แต่ เราจะทำไม่ได้เลยถ้าเราไม่สื่อสารกับทีม frontend เขาในการทำงานเราจะได้คุยหรือทะเลาะดี 555 กับทีม frontend ในการทำความเข้าใจให้ตรงกันว่า endpoint แต่ละตัวที่เขาต้องการนั้นต้องทำอะไรได้บ้าง ส่งข้อมูลแบบไหนรับข้อมูลแบบไหน ฟังดูแล้วเรียบง่าย แต่ error และ bug กระจายเลยค้าบบมันก็เป็นชะตาที่มิอาจเลี่ยงถึงได้มีการทำ test ยังไงล้าาาา มีหลุดบ้าง😜 บางหลายๆที

งานที่ได้ทำ 1.6

12.46 นาฬิกา⏰ ถึงทุกคนอ่านมาถึงตรงนี้คุณเก่งมาก ไม่ว่าวิธีการใดก็ตามที่คุณได้มาอ่านถึงตรงนี้ อีกนิดนึงๆ

The Decoder สุดยอดนักถอดรหัส เป็นงานชิ้นแรกเราได้จับในฐานะเด็กฝึกงานและสิ่งที่เราได้กับโปรเจคคือ endpoint , testing ซึ่งในช่วงที่เราเข้าไปฝึกงานนั้นงานในส่วนของ backend มีการทำไปในระดับหนึ่งแล้วจากพี่ในทีม ทำให้เราได้ทำต่อจากพี่ในทีมซึ่งเป็นครั้งแรกอีกเช่นเดียวกันที่เรามีคนที่ทำงานฝ่ายกับเราทำให้ต้องสื่อสารกับพี่ร่วมทีมซึ่งพี่ในทีมเฟรนลี่มากๆ คุยเล่นกันตลอดงานไม่ทำ ล้อเล่นนนะค้าบบบมีโหมดจริงจัง โหมดเล่นจริงจัง ทำให้เราไม่เบื่อเลย

จริงๆแล้วมีหลายโปรเจคเลยที่เราได้ทำในฐานะ Backend Developer ในแต่ละเดือนโปรเจคไม่ซ้ำกันเลยเช่น ลองสร้าง Dashboard ทำ minigameอีกตัว การ rebuild code platform ในส่วนของ Backend การทำโปรเจตที่มีการใช้ NFT ซึ่งท้าทายเรามากๆ

สรุป 1.7

13.22 นาฬิกา 💕🙈🙉🙊🐵

การฝึกงานที่ Marvelous Studio เป็นการเปิดประสบการณ์ของเราต่อโลกของการทำงานจากที่สิ่งเราเรียนมาตั้งแต่ปี1 เราดีใจที่ได้เจอที่นี่คิดไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าไปฝึกที่อื่นจะเป็นแบบนี้มั้ย พี่ทุกคนเฟรนลี่ พร้อมกับฟังเราตลอด พร้อมเล่นกับเรา พร้อมบ้าบอไปกับเรา พร้อมช่วยเหลือเรา สิ่งที่เราทำได้ถูกนำไปใช้จริง เป็นสิ่งที่ผมประทับใจมากๆ🥰

เขาว่ากันว่าก้าวแรกนั้นสำคัญที่สุด ก้าวแรกของการทำงานคงเป็นก้าวแรกที่ผมโชคดีได้เจอที่นี่ เพราะทำให้ผมได้พัฒนาตัวเองทั้ง ทัศนคติ และ ทักษะในการทำงาน

การฝึกงานจบแล้วผมอยากขอขอบคุณพี่ๆทุกคนเลยที่ค่อยสนับสนุนผมที่ให้โอกาสในการทดลองสิ่งต่างๆ ค่อยช่วยเหลือผมเสมอ

ขอบคุณค้าบบ💕

Internship2022@Marvelous.Studio
#เรียนวิธีคิด ผ่านวิธีโค้ด by CodingThailand