Future of Education by Google| bett Asia 2023

Tann Hiranyawech
sparkeducation.co
Published in
2 min readOct 10, 2023

🎓 Google มองอนาคตของการศึกษาอย่างไร?
3 Trends driving the future of Education
โดย Scott Wong, Google for Education (Asia Pacific)

Spark Education ได้มีโอกาสไปเข้าร่วมงาน bett asia 2023 เป็นงานสัมมนาวงการการศึกษาระดับ Asia Pacific โดยในปีนี้จัดที่ประเทศไทย โดยภาพรวมของทั้งงานมีการพูดถึง AI เยอะมากๆ จนแทบจะเรียกได้ว่า อนาคตของการศึกษา คือการนำ AI มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับผู้สอนและผู้เรียนสูงสุด (อย่างมีวิจารณญาณ และรู้เท่าทัน)

ใน session นี้พูดถึง 3 Trends ที่ขับเคลื่อนอนาคตของการศึกษา
(บทความนี้เป็นการสรุป session และมีความเห็นส่วนตัวรวมอยู่ด้วย)

1. Making Learning Personal 🤓

ตราบใดที่เราเชื่อว่า เด็กแต่ละคนมีการเรียนรู้ มีความสนใจที่แตกต่างกัน การที่เราสาารถสร้าง Personalize Learning Content ให้กับผู้เรียน ก็ย่อมทำให้ผู้เรียนมีความสนใจในการเรียนรู้มากขึ้น

ทุกวันนี้สามารถทำ personalize ได้ง่ายขึ้น จากการเข้ามาของ AI ที่จะทำให้ผู้สอนสามารถปรับบทเรียนตามความสนใจของผู้เรียนได้อย่างแท้จริง (ง่ายขึ้นจากต้องเสียเวลาเป็นวันๆ หรือดูจะเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ เหลือแค่เพียงแค่ห้าถึงสิบนาทีเท่านั้น)

โดยความแตกต่างนี้ไม่ได้หมายถึงเป้าหมาย (Goal) ของการเรียนรู้ที่แตกต่างไประหว่างบุคคล แต่หมายถึงวิธีการสอน (Method) ที่แตกต่างกันตามความสนใจของผู้เรียน, การประเมินที่แตกต่างกัน, การให้ feedback ที่ต่างกันระหว่างแต่ละคน ไม่ใช่แค่ผิด หรือถูก แต่พร้อมด้วยเหตุผล และแนวทางการพัฒนาต่อของแต่ละคน

2. Re-evaluating students progress 🧐

เด็กหลายต่อหลายคนที่ไม่ชอบการเรียน เพราะสอบตก เพราะเก่งไม่เท่าเพื่อนคนอื่น เพราะอายที่ได้คะแนนสอบไม่ดี อาจจะถึงเวลาของการเปลี่ยนรูปแบบการประเมิน

หากการสอบหรือการประเมิน คือการวัดทักษะว่าผู้เรียนสามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้ เพื่อที่จะได้รู้ว่าจะสนับสนุน หรือส่งเสริมต่ออย่างไร การสอบก็ควรจะเป็นการให้เค้าได้ลองทำไปเรื่อยๆ จนเขาทำได้แล้วจึงผ่าน ไม่ใช่ให้เขาเตรียมตัวมาเพื่อการทดสอบเพียงครั้งเดียว แล้วตัดสินผลลัพธ์นั้นตลอดไป

https://services.google.com/fh/files/misc/foe_part1.pdf

ในหลายประเทศเริ่มมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการประเมิน เป็นให้ทำไปเรื่อยๆ โดยใช้พลังของ AI (อีกแล้ว) ในการคิดโจทย์ใหม่ๆขึ้นมา เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกทำไปเรื่อยๆ จนทำได้ (ไม่ใช่จำคำตอบได้) เช่น ถ้าฝึกการบวก ก็ให้ AI Generate โจทย์ขึ้นมาเยอะๆ ถ้าพลาดก็ให้ทำใหม่ ทำไปเรื่อยๆ จน percent การพลาดลดลงอยู่ในระดับที่ผ่านการประเมิน แล้วจึงได้รับ Badge หรือผลการประเมินว่าผ่าน ผู้เรียนอาจจะใช้เวลามากกว่าเพื่อน แต่ไม่ได้แปลว่าฉลาดน้อยกว่าเพื่อน

3. Shift to lifelong learning mindset 😎

การมี lifelong learning mindset เป็นสิ่งที่สำคัญของคนทุกคน เพราะในโลกแห่งอนาคตความรู้มีอยู่ในโลกออนไลน์ทั้งหมดอยู่แล้ว เหลือเพียงว่าผู้เรียนจะสามารถเข้าถึงความรู้เหล่านั้นได้หรือไม่เท่านั้นเอง นั่นจึงเป็นเหตุผลของการที่การศึกษาในอนาคตอาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณครูที่คอยป้อนและสอนให้ แต่เป็นการมีหัวใจที่อยากเรียนรู้ และเข้าหาแหล่งความรู้ได้ด้วยตัวเอง

Google — Future of Education

โดยทั้งหมดนี้ คุณ Scott ก็นำมาจากรายงาน Future of education ที่ทาง google ทำ research ไว้ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://edu.google.com/future-of-education/

หากมีเวลาและโอกาส จะสรุปรายงานเล่มเต็มมาให้อีกครั้งนะครัชช

--

--

Tann Hiranyawech
sparkeducation.co

Passionate about bridging gaps in digital education through technology, psychology, and a deep love for learning. 🤓