ดูรถไฟห้อยขา เดินเที่ยวป่าสวยๆ ที่เมลเบิร์น

Chapter 69/2: A Little Adventure in Melbourne

Jint
jwanderlust
4 min readFeb 12, 2024

--

ก่อนจะไปถึงวันคริสต์มาส เราก็โดนจับให้ไปเดินเทรลแบบไม่ตั้งใจ เป็นการเดินเทรลครั้งแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้ เหนื่อยแต่ก็สนุกมากแม้ปลายทางที่อุส่าห์ไปถึงจะเล็กจิ๊วเดียว แต่ก็ถือว่าคุ้มที่มา

เหตุเกิดจากวันนี้เพื่อนจะต้องไปที่เมือง Dandenong เราผู้ซึ่งว่างมากก็เลยขอตามไปด้วย กะว่าจะไปขึ้น Puffing Billy Railway หรือรถไฟห้อยขาสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเมืองนี้ซักหน่อย

ระหว่างที่เพื่อนไปทำธุระในเมือง Dandenong เราก็เปิด Google map ดูไปเจอสวนสาธารณะแห่งนึงอยู่ไม่ไกลเลยลองไปสำรวจดู

ทางเดินไปสวนสาธารณะต้องผ่านป่าเล็กๆ ก่อน

สวนนี้ถึงจะดูห่างไกลชุมชนไปนิดแต่ก็ไม่น่ากลัวเลย เพราะสองข้างทางจะมีบ้านตั้งอยู่ประปราย

ธรรมชาติสองข้างทางสวยมากๆ

เอาจริงๆ เราเป็นคนไม่ชอบป่าเลย ชอบทะเลมากกว่า เพราะป่ามันดูลึกลับน่ากลัวไปหน่อย แต่พอมาเดินป่าที่นี่เราได้พบกับธรรมชาติสวยงามรอบตัวเต็มเลย

สวนสาธารณะเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในป่า

เดินดูต้นไม้ดอกไม้ที่นี่เกือบชั่วโมงเลยเพลินมาก ได้เวลาไป Puffing Billy Railway กันแล้วค่ะ

ด้วยความประมาทไม่จองตั๋วมาก่อนกะไปซื้อเอาหน้างาน ผลปรากฎ…ตั๋วเต็มแล้วอดนั่งเลย แต่ไหนๆ ก็มาถึงแล้วขอไปยลโฉมรถจักรไอน้ำโบราณขบวนนี้หน่อยก็ยังดี

Puffing Billy Railway

Puffing Billy Railway คือเส้นทางรถไฟเก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี อยู่ใจกลางเทือกเขา Dandenong ขับรถจากเมลเบิร์นประมาณชั่วโมงเดียว แต่ถ้าใครไม่มีรถก็สามารถมาที่นี่ได้ด้วยรถไฟจากสถานี Flinders Street มาลงที่สถานี Belgrave ได้เลย

ทางเข้าสถานี Belgrave

Puffing Billy Railway ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นยุค 1900 มีความยาว 29 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในสี่เส้นทางรถไฟที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเปิดทางเข้าสู่พื้นที่ห่างไกล ต่อมาในปี 1953 เกิดเหตุการณ์ดินถล่มอย่างรุนแรงและเกิดปัญหาขาดทุนจนทำให้ต้องปิดเส้นทางรถไฟนี้ไป

จนในปี 1962 กลุ่มอาสาสมัครที่รักรถไฟขบวนนี้กว่า 900 คนได้รวมตัวกันเป็น Puffing Billy Preservation Society และทำการบูรณะฟื้นฟูเส้นทางรถไฟสายนี้ให้กลับมาเปิดใช้งานใหม่ได้อีกครั้งในปี 1998

สถานี Belgrave ที่ยังคงดูคลาสสิกสุดๆ

รถไฟขบวนนี้มีความเก๋ตรงที่ที่นั่งโดยสารที่เค้าออกแบบมาให้เราสามารถหย่อนขาออกมาด้านข้างตัวรถไฟได้ จะได้สัมผัสกับธรรมชาติสองข้างทางได้อย่างเต็มที่

หัวรถจักรไอน้ำที่ถูกรักษาไว้อย่างดีและยังใช้งานได้จนถึงทุกวันนี้

จนท. ที่ทำงานที่นี่ล้วนแล้วแต่เป็นอาสาสมัครทั้งนั้นเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นคนขับรถไฟ คนควบคุมราง คนให้สัญญาณ เค้าคือกลุ่มคนที่มีใจรักรถไฟ ต้องการพัฒนาการท่องเที่ยวนี้ให้ยั่งยืนและสร้างรายได้ให้กับเมืองอีกด้วย

จาก Puffing Billy เราเดินข้ามถนนไปเดินเล่นในเมือง Belgrave กันซักหน่อย

เมือง Belgrave

Belgrave เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านขายของที่ระลึกน่ารักๆ พอสมควร เดินแป๊บเดียวก็ทั่วแล้ว

จาก Belgrave เราก็มุ่งหน้าไปที่ Sherbrooke Forest สถานที่ที่เราตั้งใจจะมาเดินเทรลกัน

มีที่จอดรถบริการฟรีด้วย

เราจอดรถที่ Grants Picnic Ground ด้านล่างจากนั้นก็เดินขึ้นเขาไปตามทาง ซึ่งมารู้ทีหลังว่าจอดผิดที่ จริงๆ ควรไปจอดที่ O’Donohue Picnic Ground เพราะจากตรงนั้นจะเดินง่ายกว่ามากกกกก 🥵

Sherbrooke Forest เป็นป่าฝนขนาดใหญ่ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Dandenong Ranges มีระดับความสูงอยู่ที่ 220–500 เมตร

ต้น Eucalyptus Regnans สูงจนถ่ายรูปไม่ถึงยอดเลย

Highlight ของป่า Sherbrooke คือที่นี่มีต้น Eucalyptus Regnans ซึ่งจัดเป็นไม้ดอกที่สูงที่สุดในโลก

นอกจากนั้นก็ยังมีต้นเฟิร์นที่ลำต้นสูงใหญ่สวยมากๆ

ต้นเฟิร์น

ตื่นตาตื่นใจกับที่นี่มากเพราะมีต้นไม้ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเต็มเลย

เดินจนเหงื่อท่วมแต่สนุกมาก

อย่างที่บอกเราไม่ใช่คนชอบป่าเลย ยิ่งเดินยิ่งเหนื่อย ร่ำๆ จะถอยกลับหลายครั้ง แต่พอได้เดินลึกเข้ามาเรื่อยๆ กลับยิ่งได้ความรู้สึกสงบและได้อยู่กับตัวเองอย่างแท้จริง เพราะขณะที่เราเดินอยู่ในธรรมชาติซึ่งมีแต่ความเงียบ เราจะได้ยินแค่เสียงลมหายใจและเสียงก้าวเดินของตัวเองเท่านั้น เหมือนเป็นการฝึกใจให้สงบและอยู่กับปัจจุบันจริงๆ จนเราสามารถเดินต่อไปได้เรื่อยๆ และรู้สึกสนุกกับมัน

ตลอดทางที่เดินจะว่าเปลี่ยวก็ไม่ถึงกับเปลี่ยวเพราะนานๆ ทีก็จะเจอคนเดินสวนเรามาบ้างให้ไม่รู้สึกเหงาเกินไป แล้วจะว่าไปมันก็เป็นความรู้สึกที่ตื่นเต้นดีเหมือนกัน เหมือนเราได้เป็นนักผจญภัยสำรวจเส้นทางเลย อยากจะเห็นว่าปลายทางน้ำตก Sherbrooke ที่เราเดินตามหามันจะเป็นยังไง

ถึงแล้ว !!!

ถึงจุดหมายจนได้ เพื่อที่จะพบว่า…

Sherbrooke Falls

น้ำตกมันเล็กจึ๋งเดียวเอง 🫠

หลังจากชื่นชมน้ำตกน้อยๆ อันนี้เสร็จ เราก็ออกมานั่งพักเหนื่อยตรงเก้าอี้หน้าทางเข้าน้ำตก ได้เห็นสีหน้าของนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่เดินออกมาหลังจากได้เห็นน้ำตก ทุกคนได้แต่มองตากันแล้วก็หัวเราะให้กันโดยไม่ต้องมีคำพูด เพราะตอนนี้พวกเรามีความรู้สึกเดียวกันเลยคือ “ทำไมน้ำตกมันเล็กอย่างนี้ฟระ” 🤣

แต่เอาจริงถึงปลายทางจะไม่ได้เป็นแบบที่คิดไว้ แต่ก็รู้สึกคุ้มค่าที่ได้มา ถือเป็นประสบการณ์ที่สนุกสำหรับเราเลย เพราะนอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้ว ยังได้ฝึกความอดทน ฝึกสมาธิ และที่สำคัญได้เห็นอะไรแปลกใหม่เยอะแยะเลย ใครที่ชอบเดินป่าแนะนำ Sherbrooke Forest ค่ะ ทางดี เดินง่าย ไม่เปลี่ยว ไม่อันตราย แต่จุดหมายอาจจะดูเล็กไปนิด 😄

จาก Sherbrooke Forest เราก็กลับบ้านอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวไปดูคอนเสิร์ต Carols by Candlelight ที่เค้าจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันที่ 24 ธ.ค. หรือวัน Christmas Eve นั่นเอง

Carols by Candlelight เป็นงานระดมทุนของ Vision Australia ที่จะนำเงินรายได้ทั้งหมดจากกิจกรรมนี้ไปช่วยเหลือครอบครัวและเด็กที่ตาบอดหรือมีความบกพร่องทางการมองเห็น

งานจัดขึ้นที่ Sidney Myer Music Bowl ซึ่งเป็นสถานที่แสดงคอนเสิร์ตกลางแจ้งในเมลเบิร์น และก็เป็นโชคดีของเรามากที่คืนวันนี้…ฝนตก 😭

บรรยากาศสนุกสนานมาก

ทุกคนที่มางานคอนเสิร์ตนี้สามารถเอาเก้าอี้ เสื่อ หมอน ผ้าห่มมาปูนอนกันได้ตามใจชอบเลย ใครจะนั่งตรงไหนก็ได้ น่ารักดี เสียแต่วันนี้ดันต้องใส่เสื้อกันฝนด้วยแต่ก็ไม่มีใครถอย

คนเยอะมาก

ในงานก็จะมีการร้องเพลงสลับกับการแสดงของดารานักร้องที่มีชื่อเสียงของออสเตรเลียมากมาย เราผู้ซึ่งไม่รู้จักใครซักคนแต่ก็ยังรู้สึกสนุกไปด้วยเพราะส่วนใหญ่เค้าร้องเพลงคริสต์มาสที่เคยได้ยินมาแล้วทั้งนั้น

มีจอมอนิเตอร์ให้ดูด้วย

บางทีมองไม่เห็นก็อาศัยมองเอาจากจอมอนิเตอร์ใกล้ๆ ก็สนุกไปอีกแบบ

เราอยู่ในงานคอนเสิร์ตกันหลายชั่วโมงเลย จนฝนเริ่มเทลงมาหนักขึ้นๆ ตัวงี้เปียกซ่กไปหมด อากาศก็เย็นลงๆ ได้เวลากลับบ้านกันแล้วจ้า

นี่ก็เป็นกิจกรรมอีกวันของเราในเมลเบิร์นสนุกดีเหมือนกัน ไม่นึกว่าในหนึ่งวันจะได้ทำอะไรตั้งหลายอย่าง เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากที่ปกติเคยอยู่แต่ในเมืองก็ได้ออกไปสัมผัสกับธรรมชาติบ้าง ใจฟูดีค่ะ 😄

Blog หน้าจะพาไปเที่ยวที่ไหนอีกอย่าลืมติดตามกันนะคะ สำหรับ Blog นี้ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ 😊

--

--

Jint
jwanderlust

หวัดดีค่ะ เราชื่อจิ๊น เราอยากให้ Blog นี้เป็นพื้นที่ที่เราได้แชร์เรื่องราวการเดินทางของเรา อยากให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านได้มีความสุขกับ Blog นี้นะคะ