สรุปหนังสือ Rich Dad’s Cashflow Quadrant, พ่อรวยสอนลูก #2 เงินสี่ด้าน

“Rich Dad’s Cashflow Quadrant” โดย โรเบิร์ต คิโยซากิ สำรวจ 4 ประเภทขอคนในโลกธุรกิจ — พนักงาน, คนทำงานอิสระ, เจ้าของธุรกิจ, และนักลงทุน — และวิธีที่แต่ละ Quadrant ส่งผลต่อการบรรลุอิสรภาพทางการเงิน

“Rich Dad’s Cashflow Quadrant” เป็นหนังสือต่อจาก “Rich Dad Poor Dad” ซึ่งเขียนโดย โรเบิร์ต คิโยซากิ หนังสือเล่มนี้ขุดลึกลงไปในมุมมองเศรษฐกิจที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา โดยเน้นที่การทำให้เงินทำงานให้คุณ ไม่ใช่ทำงานเพื่อเงิน หนังสือแบ่งโลกของการทำงานออกเป็นสี่ Quadrant: E (พนักงาน), S (คนทำงานอิสระ), B (เจ้าของธุรกิจ), และ I (นักลงทุน) คิโยซากิโต้แย้งว่าเพื่อบรรลุอิสรภาพทางการเงิน คุณต้องเข้าใจคุณค่าและข้อเสียของแต่ละ Quadrant และทำงานเพื่อเคลื่อนไปยัง B และ I โดยเน้นว่าการย้ายจาก E หรือ S ไป B หรือ I ต้องการการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและการศึกษาด้านการเงิน ผ่านเรื่องราวส่วนตัวและบทเรียนจาก “Rich Dad” ของเขา คิโยซากิเน้นความสำคัญของการศึกษาด้านการเงินและการลงทุนในสินทรัพย์มากกว่าหนี้สิน

5 Key Takeaways

1. ความสำคัญของการศึกษาด้านการเงิน: การเข้าใจพื้นฐานของการเงินและการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเคลื่อนไปยัง Quadrant B และ I ที่รายได้แบบ passive สามารถเกินค่าใช้จ่ายได้
2. ต้องเปลี่ยนทัศนคติ: การเปลี่ยนจากพนักงานหรือคนทำงานอิสระไปเป็นเจ้าของธุรกิจหรือนักลงทุนต้องการการเปลี่ยนแปลงทัศนคติอย่างมาก โดยเน้นที่การสร้างระบบที่สร้างรายได้
3. ลงทุนในสินทรัพย์มากกว่าหนี้สิน: การลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ (เช่น อสังหาริมทรัพย์หรือหุ้น) ไม่ใช่หนี้สิน (สิ่งที่ดึงเงินออกจากกระเป๋าคุณ) เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเติบโตทางการเงิน
4. พลังของรายได้แบบ Passive: การสร้างรายได้แบบ passive ผ่านการลงทุนหรือการทำธุรกิจเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุอิสรภาพทางการเงิน เนื่องจากมันให้รายได้โดยไม่ต้องทำงานโดยตรงอย่างต่อเนื่อง
5. การจัดการความเสี่ยง: การเรียนรู้การจัดการความเสี่ยงทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จใน Quadrant B และ I ที่การตัดสินใจเรื่องการลงทุนและธุรกิจสามารถมีผลกระทบอย่างมากต่อความมั่งคั่ง

สนใจสั่งซื้อได้ที่

Shopee: https://shope.ee/9zaepDxgaW