ตามติดชีวิตเด็กทุนของ KBTG in London — Ep.1 วันๆทำอะไรบ้าง

szmania
KBTG Life
Published in
3 min readMay 23, 2020

Alright, mate — ทักทายกันแบบชาวเกาะบริเตน ผู้ดีอังกฤษ

ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเองสักนิด ชื่อแมนครับ ตอนนี้ทำงานเป็น... อืม เรียกว่าเป็นไรดี เป็นพนักงานก็ไม่เชิง นักเรียนก็คงใช่ พนักงานทุนก็แปลกๆ เขาน่าจะเรียกว่า นักเรียนทุน ละมั้ง

ก่อนหน้านี้ผมเป็น UX/UI Designer ที่ KBTG สมาชิกทีมผู้รังสรร Application มากมาย อาทิ K PLUS, CU NEX, ขุนทอง งานเขาดีๆทั้งนั้นครับ (Tie In ก็มา ฮ่าา)

หลังจากที่ได้ทุนจาก KBTG ก็มาเรียนต่อปริญญาโทด้านการออกแบบที่ประเทศอังกฤษ ชื่อโปรแกรมว่า Global Innovation Design เป็น Dual Degree ของสองมหาวิทยาลัย ระหว่าง Royal College of Art และ Imperial College London จบมาก็จะได้ทั้ง Master of Art & Master of Science เดี๋ยวสัก Ep จะมาเล่าความแฟนตาซีของโปรแกรมนี้ให้ฟังกัน

เข้าเรื่องดีกว่าครับ ว่าชีวิตความเป็นอยู่ ว่าเป็นยังไงบ้าง สุขสบายดีมั้ย อย่างไรบ้างมาเริ่มกันเลย

เดิน เดิน แล้วก็เดิน

หอพักอยู่ย่าน Earl’s Court เป็นย่านฝั่ง West London ถือเป็นย่านที่ดีมากครับ ของกินเพียบ การเดินทางสะดวก ใกล้มหาลัยสุดๆ เดินเพียง 20 กว่านาทีเองครับ สิ่งที่พบคือฝรั่งเขาเดินไปเรียนกัน ไปไหนก็เดินเอา ซึ่งการที่เราเป็นคนไทย (หรืออาจจะเราคนเดียว) เดิน 20 กว่านาทีเป็นอะไรที่เหนื่อยอยู่นะ แล้วก็หนาวมากด้วย ลอนดอนก็ฝนตกตลอด เราเลยเลือกนั่งรถบัสไปเรียนแทน นั่งรถเมล์ 2 ต่อ ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงพอๆกับการเดิน ดังนั้นเก็บแรงไว้เรียนดีกว่าา รูปของมหาลัยที่ผมเรียนออกแบบสวยงามครับ ตามรูปเลย

Imperial College London (Credit)
Royal College of Art, Kensington Campus

ในแต่ละวันก็คือเดินจริงๆ ด้วยความที่เรียนสองมหาลัยที่เป็นเพื่อนบ้านอยู่ใกล้ๆกัน เลยสามารถเดินไปมาหาสู่กันได้โดยใช้เวลาเพียง 10 นาที

ชีวิตก็จะประมาณว่าตอนเช้ามีเรียนที่ Royal College of Art (ขอเรียกว่า RCA แต่ไม่ใช่ผับแถวพระราม 9 นะ) ตอนบ่ายมีเรียนที่อิม หรือ Imperial College อาหารกลางวันก็ทานระหว่างที่เดินไปนี่แหละครับ สบายดี บ่ายแก่ๆกลับไปทำงานกลุ่มที่ Studio RCA ตอนเย็นๆมีย้อนไป Tutorial ที่อิมอีก หนึ่งวันก็เดินได้หลายกิโลอยู่เหมือนกัน

ข้อดีของการเดินก็มีอยู่นะ คือที่อิมจะเป็นแบบมหาลัยเปิด คนเดินเข้ามาได้ ไม่มีรั้วกั้นแบ่งเขตชัดเจน และมีถนนตัดกลางมหาลัย ชื่อ Exhibition Road ทั้งเส้นนี้จะเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ดังๆทั้งหมด ใครที่มาลอนดอน และชื่นชอบงานแนวสถาปัตยกรรม ย่านนี้ห้ามพลาดครับ อย่าง Natural History Museum, Science Museum หรือ V&A Museum ซึ่งเข้าฟรีด้วย เวลาเดินกลับบ้านไปขึ้นบัสก็จะได้ชมสถาปัตยกรรมต่างๆ วันไหนที่ฝนไม่ตกจะดีมากก กลับบ้านพร้อมท้องฟ้าแบบวานิลลาสกาย ☁️ อิจฉาผมกันอยู่ใช่มั้ยครับ

แก
Exhibition Road

เข้าห้องเรียน

Dyson School of Design Engineering, Imperial College

ถ้าจะเล่าเรื่องเรียนของโปรแกรมก็น่าจะหลายตอน ขอติดไว้ก่อนครับ แต่โดยรวมการเรียนการสอนของมหาลัยที่นี่เป็นสิ่งที่แปลกใหม่ดีนะ ไม่มีวิชาตายตัวในแต่ละวัน พยายามผลักดันให้เกิดการ Collaboration ข้าม Department ในหลายๆ Module มี Module หนึ่งชื่อ Grand Challenge ทั้ง School of Design จะมาแข่งประกวดออกแบบกัน ซึ่งโจทย์ของปีนี้ก็ล้ำสุดๆไปเลย “Enhancing the Human in 180 years in the Future” มีสปอนเซอร์เป็น Logitech พร้อมเงินรางวัลด้วยนะ ใหญ่โต

ใน 1 ทีมก็จะประกอบไปด้วยนักเรียนจากหลายๆภาควิชา อาทิเช่น Fashion Design, Design Product, Service Design, Innovation Design Engineering, Intelligent Mobility Design, Global Innovation Design ก็คุยกันรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เพื่อนจาก Fashion ก็ชอบตัดเสื้อ อยากวาดรูป เราเองก็อยากได้ไอเดียล้ำๆฝันๆ ส่วนเพื่อนจาก Design Product ก็บอกไม่เอาเพราะฝันเกิน ในขณะที่เพื่อนจาก Service Design โฟกัสที่ทุกอย่างต้องมีระบบ…

กิจกรรมในแต่ละวีคก็จะต่างกันไป และไม่มีการบอกล่วงหน้าให้ตั้งตัวใดๆ เช่น มี Lecturer มาบรรยาย กินข้าวกับคนแปลกหน้า!? เล่นโยคะ !? อารมณ์เป็น Workshop ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ให้สนิทกัน ตลกดีครับ

ในการนำเสนองานแต่ละครั้ง นักเรียนก็จะได้รับ Brief ประมาณหนึ่งทุ่ม แล้วพรุ่งนี้ก็ Pitch เลยบ้าง ก็ลุ้นๆดี แต่ก็ไม่มีอะไรพีคเท่าอันนี้แล้ว คือ การสลับไอเดียของแต่ละกลุ่มแบบสุ่ม! ไอเดียที่กลุ่มเราเริ่มทำมา ประคบประงมอย่างดีตั้งแต่ต้น ถูกส่งไปให้กลุ่มอื่น Develop ต่อ เช่นกันครับ กลุ่มเราก็จะได้ไอเดียจากกลุ่มอื่นมาทำ…. แล้วมีเวลาเพียงเกือบๆ 2 อาทิตย์ในการ Develop จนออกมาเป็นตัวไฟนอล

ช่วงโค้งสุดท้ายของ Module ทุกคนไม่ต้องเรียนอย่างอื่นเลย มาทำอันนี้อย่างเดียว รู้สึกว่าชอบนะ ที่มหาลัยเขาพยายามสร้างความจริงจังให้กับโจทย์ที่ดูฝันมากๆ บวกกับการทำงานเป็นทีม และความตื่นเต้นที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างแต่ละสัปดาห์

ซึ่งทีมของเราได้เข้ารอบด้วยนะ! (ขอขิงหน่อย ฮ่าา) เป็น 1 ใน 22 ทีม จาก 79 ทีม แต่ไม่ได้รางวัลชนะอะไรนะ ได้จัด Exhibition แสดงงานทั้ง 22 ทีม ไอเดียแต่ละทีมก็คือสุดโต่ง Radical มาก ไปให้สุด

Grand Challenge 2020 Exhibition, Hockney Gallery, Royal College of Art

เวลาที่รอคอย ข้าวกลางวัน

ใครว่าอาหารอังกฤษไม่อร่อย ก็จริงไม่เถียง แต่อยู่ๆไปก็ชินเอง กินเพื่ออยู่ ที่ Canteen ใน RCA ก็มีอาหารเพียงหนึ่งร้านเท่านั้น คนที่นี้กิน Vegan กันจริงจังมาก จึงมีเพียงมังสวิรัติกับไม่มังสวิรัติ 2 เมนูเท่านั้น (แล้วช้านเลือกอะไรได้ไหม) ราคาก็ประมาณ 5–7 ปอนด์ หรือประมาณ 200–280 บาทต่อมื้อ แพงอ่ะ ของขึ้นชื่อที่นี่หนีไม่พ้น Fish and Chip ก็อาหารประจำชาติเขาอะนะ รสชาติจืดมาก ต้องจิ้มน้ำจิ้มไก่ บางวันมีแกงเขียวหวานไทยด้วย กินแล้วก็ได้แต่ยิ้มแห้ง แหะๆ คิดถึงอาหารที่ไทยมากครับ

Fish and Chip — อาหารประจำชาติ น้ำจิ้มไก่อร่อย
แกงเขียวหวาน คู่กับเกี๊ยวซ่า — ราคาเท่ากับดราม่าเขียวหวานปลากรายที่ไทย ส่วนความอร่อยลืมไปได้เลย

Let’s Party

ประเทศอังกฤษเป็นประเทศที่ผู้คนไปผับบาร์กันตั้งแต่เที่ยง กินเบียร์หน้าร้านดูบอลกัน Pub Culture ก็เกิดมาจากที่อังกฤษนี่แหละครับ ดังนั้นในมหาลัยของเราเลยมีบาร์อยู่ในตึกเลยจ้า ชื่อ Art Bar ให้ฟีลมหาลัยศิลปะ แบบชื่อนี้เลยละกันง่ายดี ที่อิมก็มีเหมือนกัน อยู่ใต้หอเลย ไม่ต้องไปไหนไกล ช่วยกันหมุนเวียนเงินขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ มหาลัยมีจัดปาร์ตี้บ่อยมาก ทั้งมหาลัยจัดเอง เพื่อนจัดเอง ครูจัดให้ กลับมาหอพักก็มีอีก ปาร์ตี้ฝรั่งอารมณ์หา Connection มากกว่า ยืนคุยกันมีแต่ Drinks & Snacks จุดที่ทึ่งมากๆคือเพื่อนฝรั่งสามารถไปบาร์ได้เลย โดยไม่ต้องทานข้าวเย็นรองท้องใดๆ กิจกรรมใน Party ยอดฮิตก็คือ Beer Pong โยนลูกปิงปองให้ลงแก้วเบียร์อีกฝ่าย ถ้าลง ฝ่ายนั้นก็หมดแก้วไปซะ

แสดงความแม่นยำในการเล่น Beer Pong

อีกกิจกรรมก็คือแนะนำตัวเองกับเพื่อนใหม่ พูดประโยคเดิมทุกวัน ซ้ำไปซ้ำมา

“Hi, I’m Taratorn from Thailand”

เพื่อนๆส่วนมากเจอชื่อเราก็จะงงๆไป ยิ่งนามสกุลไม่ต้องพูดถึง ซับซ้อนเกินกว่าจะออกเสียงกันได้

“Well, just call me Man. I know it’s literally weird… [blah blah]”

เพื่อนต่างชาติก็คือคิ้วชนกัน งงในงง ไอ้หมอนี่ชื่อ Man ว่ะ แรกๆก็ยอมรับว่าเวลาเพื่อนต่างชาติพูด Hey Man! Oh Man! นึกว่าเขาเรียกเรา อ้าว ไม่ใช่ เป็นสรรพนามเรียกคนข้างๆ สำคัญตัวผิดไป

แต่ก็ถือเป็น Ice Breaking ที่ดี เพื่อนฝรั่งทุกคนไม่มีใครลืมชื่อเราแน่นอน…

เลิกเรียนก็ไป Art Bar, Royal College of Art
ระเบียง Art Bar & RCAfe’ ติดกับ Royal Albert Hall — สถานที่ไว้รับปริญญา ของจริงวิวดีไม่จกตา http://www.wrightandwright.co.uk/projects/archives-libraries/royal-college-art-library

กิจวัตรก็ประมาณนี้ครับ ยังมีเรื่องอีกเยอะเลย เดบิวต์ Ep แรกประมาณนี้ก่อนครับ

“Have a lovely day” — เขาชอบพูดกันตอนบ๊ายบาย

--

--

szmania
KBTG Life

UX/UI Designer at KBTG. Currently, Master Student at Royal College of Art & Imperial College London