ฝึกงาน Infra ที่ KBTG เป็นเวลา 10 เดือน นอกจากเรื่องเทค ได้อะไรบ้าง?

ฝึกงานที่ KInfra ตำแหน่ง System Engineer ถึง 10 เดือนเลยเหรอ?! ได้อะไรบ้าง วันนี้จะมาเล่าให้ฟังค่ะว่าฝึกงาน FinTech ที่ KBTG ดีจริงไหม

สวัสดีนะคะทุกคน ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อน เราชื่อแซนด์ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 เข้ามาฝึกงานในโครงการ KBTG Internship Bootcamp 2023 และฝึกสหกิจศึกษาค่ะ สำหรับหลายคน การฝึกงาน 10 เดือนอาจจะดูยาวนาน แต่เมื่อเข้ามา จะพบเจอกับความทรงจำและประสบการณ์ที่ดีมากมาย ทำให้การฝึกงาน 10 เดือนผ่านไปไวมากๆ เลยค่ะ ^^

KInfra?

KInfra อยู่ในกลุ่มบริษัท KBTG หรือ กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลในส่วนของ Infrastructure ด้านไอทีทั้งหมดให้กับธนาคารกสิกรไทยและวางรากฐานให้กับ KBTG นอกจากนี้ยังมีการดำเนินการของระบบที่จะมีทีมต่างๆ คอยดูแลอยู่ เช่น ทีม Application Development, System and Platform Management, IT Support, Business Intelligence และอื่นๆ อีกมากมาย

System Engineer?

หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อตำแหน่งนี้มาบ้าง แต่ไม่แน่ใจว่าตำแหน่งนี้ทำอะไร จริงๆ แล้วตำแหน่งนี้เรียกได้ว่าเป็น “หัวใจ” ของสายงานไอทีเลย เพราะเป็นคนที่คอยดูแลและรับผิดชอบภาพรวมของระบบทั้งหมด ให้สามารถทำงานได้อย่างเสถียรและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

โดยคนที่จะทำตำแหน่งนี้ได้ต้องมีความรู้เกี่ยวกับ Hardware, Software และ Network เป็นหลัก รวมถึงสกิลอย่างทักษะการแก้ไขปัญหา ข้อนี้สำคัญมากก เพราะเราสามารถเจอปัญหาได้แทบทุกวัน 😅 และอันดับสองรองลงมาคือทักษะการสื่อสาร เพราะเราต้องพูดคุยและทำงานร่วมกับหลายทีม

ทำไมถึงเลือกฝึกงานที่ KBTG?

โดยส่วนตัวเราศึกษาเกี่ยวกับองค์กรมาพอสมควร ว่าเค้าทำอะไรและให้คุณค่ากับเรื่องอะไรเป็นหลัก นอกเหนือจากสายงานเทคที่เรียนมา เราก็อยากจะฝึกงานอย่างมีความสุขกับบริษัทที่มีแต่คนเก่งๆ รวมถึงเป็นบริษัทที่ดีสำหรับเด็กฝึกงาน Gen Z อย่างเรา ส่วนเรื่องความเก่งนี่ ไม่ต้องสงสัยเลยกับบริษัทเทคอันดับต้นๆ ของประเทศไทย (จนถึงตอนนี้ก็รู้สึกว่าเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่ได้ฝึกงานที่นี่ 💖) ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราตัดสินใจฝึกงานที่ KBTG เป็นเพราะ KBTG ให้ความสำคัญกับคนค่ะ

“สาขาที่เรียนไม่ใช่ตัวบ่งบอกทักษะของเรา Passion เกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีและความพยายามในการ Reskill ต่างหากที่สำคัญ”

หลายครั้งที่รู้สึกได้ว่า KBTG เปิดโอกาสให้ “ทุกคน” จริงๆ จากข้อความข้างต้นนี้ เราจะเห็นว่าแม้คนที่ไม่ได้จบสายเทค ก็สามารถก้าวเข้ามาทำงานในสายไอทีที่ KBTG ได้ เรารู้สึกว่าองค์กรมองเห็นคุณค่าในตัวแต่ละคนและให้โอกาสได้แสดง Passion ในเรื่องที่ตัวเองสนใจจริงจัง สิ่งนี้ได้สร้างความประทับใจให้กับเรา จนนำไปสู่การเลือกฝึกงานที่นี่ค่ะ

ตึก KBTG ย่านเมืองทองธานี

วันแรกของการฝึกงานเป็นยังไงบ้าง?

ก่อนฝึกงานหนึ่งสัปดาห์ เราจะได้รับอีเมลจากทาง HR เรื่องของกำหนดการและรายละเอียดการนัด Onboarding ทั้งหมด แจ้งว่าให้เข้ามาทำอะไรบ้าง หลักๆ จะนัดเข้ามาเพื่อเซ็นสัญญา รับแล็ปท็อปสำหรับการทำงาน พร้อมเซ็ตอัพคอมให้แต่ละคน ซึ่งใช้เวลาพักใหญ่เลย ออกจากห้องมาก็เป็นเวลาเที่ยงพอดี ทางบริษัทได้มีการเตรียมข้าวกลางวันไว้ให้ ทานเสร็จก็ไปรับบัตรประจำตัว จากนั้นเป็นอันจบกระบวนการ กลับบ้านได้ 🏡

จุดนัดพบวันแรก ชั้น G

ลักษณะงานที่ได้รับมอบหมาย

งานหลักของเราจะอยู่ในส่วนของการจัดการและดูแลระบบ OpenShift (Enterprise Kubernetes Container Platform) ซึ่งบน OpenShift จะมีด้วยกันหลายแอปพลิเคชัน เราต้องคอยให้การซัพพอร์ตและช่วยแก้ไขปัญหาทั่วไปเมื่อแอปติดปัญหา รวมถึงดูแลและซัพพอร์ตงานอื่นๆ ในระบบ อย่างเช่น

• สร้างและจัดการ Storage บน OCP
• ติดตั้งและใช้งานเครื่องมือ Monitoring (NetObserv, Dynatrace, Prometheus, ELK Stack)
• ควบคุมและจัดการพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล Isilon Storage System
• เขียน Playbook Ansible สำหรับการทำ Automate Provisioning Redis, Kafka และ OpenShift Namespace เพื่อลดเวลา Deployment
• ดึงข้อมูลจาก Zabbix มาแสดงบน Grafana สำหรับ Monitor System Performance

โปรเจคที่ได้ทำ

อย่างที่ได้เกริ่นไปตอนแรกว่าตำแหน่ง System Engineer มีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลระบบโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดภายในองค์กร รวมไปถึงการจัดการทรัพยากรระบบ เช่น CPU, RAM, Storage ต่างๆ การจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพนั้น นอกจากจะทำให้เราใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าแล้ว ยังช่วยให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น โดยไม่เกิดปัญหาทรัพยากรไม่เพียงพอ

หลายๆ ครั้งปัญหาเกิดจากการที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก แม้ปัจจุบันมีการทำ Auto Scaling อยู่ แต่เป็นการ Probe ในระดับ CPU กับ Memory หากการใช้งานไม่ได้เกิน Threshold ของ CPU ที่ตั้งไว้ Pod ก็จะไม่ Scale ดังนั้นกว่าเราจะรับรู้ถึงสาเหตุ ก็เสียเวลาไปมาก จากเดิมเครื่องมือที่มีอยู่อาจจะตอบโจทย์การใช้งานทั่วไป แต่ไม่ตอบโจทย์แอปที่มีความซับซ้อน ทำให้การ Monitor แบบเดิมที่จับ CPU และ Memory เป็นหลักไม่ตอบโจทย์เรา

KEDA Workflow

ปัญหานี้เองนำไปสู่โปรเจคที่เราได้เข้ามาช่วยดู โดยเราพยายามหาทางลด Workload และความซับซ้อนของทีมและการจัดการทรัพยากรที่ทีมดูแลระบบอย่างเราๆ ต้องพบเจอเมื่อต้องปรับขนาดทรัพยากรด้วยตัวเอง ซึ่งการที่ผู้ดูแลระบบต้องเข้ามาทำด้วยตัวเองทุกครั้ง ส่งผลให้กระบวนการมีความซับซ้อนและเสียเวลาเป็นอย่างมาก เราจึงนำเครื่องมืออย่าง KEDA เข้ามาช่วยทีมในมุม Autoscale เพื่อช่วยในการจัดการ Resource ให้เพียงพอต่อความต้องการในช่วงเวลาหนึ่งแบบอัตโนมัติ และตรวจสอบเมตริกเพื่อ Monitor ปัญหา นอกเหนือการตรวจสอบแบบเดิมที่ดูแค่ CPU และ Memory

ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับ

ในตำแหน่งนี้จะมีหลายฝ่ายที่ดูแลแต่ละเรื่องแตกต่างกันไป ด้วยความที่เราฝึกงานนานมากๆ ทำให้เราได้ลองจับ Tool หลากหลาย ตลอดการฝึกงานเรามีใช้ Tool อะไรบ้าง มาดูกันค่ะ

1. Docker

เป็น Software Container ที่ใช้ในการทำงาน โดยหลักการทำงานของ Docker คือมันจะแพ็ค Software ให้อยู่ในรูปของ Container ทำให้เราสามารถย้าย Software ทั้งหมดได้ในครั้งเดียว และสามารถนำ Container นี้ไปรันในอุปกรณ์เครื่องอื่นได้ ซึ่งแอปพลิเคชันหรือซอฟแวร์ที่เราติดตั้งไว้จะสามารถใช้งานได้ตามปกติ

Docker มีความคล้ายกับตัว VMware แต่ทำหน้าที่ได้ดีกว่าตรงที่มันสามารถทำงานได้หลาย Service หมายความว่าหากมี Service ไหนเสีย ก็ยังสามารถใช้งานต่อได้ เหมาะสำหรับการทำ Microservice ในทางกลับกัน ถ้าเป็น VMware เมื่อมี Service เสียไปตัวหนึ่ง Service อื่นก็จะเสียตามไปด้วย เหมือนกับการทำงานแบบ Monolithic นั่นเองง

2. Container Orchestration

• Kubernetes เป็นระบบจัดการ Containers ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการ Deploy, Scaling และ Operations ของ Containerized Applications
• OpenShift Container Platform เป็นแพลตฟอร์ม Container และจัดการคลัสเตอร์ ที่พัฒนาโดย Red Hat ซึ่งใช้เทคโนโลยี Kubernetes เป็นพื้นฐาน

3. Monitoring and Observability

• ELK Stack เป็นชุดเครื่องมือสำหรับการรวบรวม จัดเก็บ ค้นหา และวิเคราะห์ Log Data ซึ่งประกอบด้วย Elasticsearch, Logstash และ Kibana
• Prometheus เป็นเครื่องมือที่ใช้ Monitoring เพื่อรวบรวม Metrics จากระบบและแอปพลิเคชันต่างๆ
• Zabbix เป็นระบบที่ใช้ Monitoring เพื่อรวบรวม Metrics, Log Data และ Event Data ต่างๆ จากระบบ และแอปพลิเคชันต่างๆ
• Grafana เป็นเครื่องมือสำหรับการสร้าง Visualization เหมาะสำหรับการทำ Dashboard ที่ต้องดึง Data Source มาจากหลายๆ ที่ เช่น Elasticsearch, Prometheus และ Zabbix เป็นต้น

ความรู้สึกแรกก่อนเริ่มฝึกงาน คาดหวังไว้อย่างไรบ้าง?

คิดว่าฝึกงานที่ KBTG ต้องยากมากแน่ๆ พี่ๆ ทุกคนจะรับฟังความคิดเห็นของเราไหม ด้วยความที่เราเป็นผู้หญิงและเด็กสุดในทีม ทำให้เรามีความกังวลในเรื่องนี้ รวมถึงด้วยลุคของบริษัทเทคที่มีแต่คนเก่งๆ จะต้องมีแต่การแข่งขัน พี่ๆ ทุกคนอาจจะยุ่งจนไม่มีเวลาสอนงาน และอาจเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากรึเปล่า ความคิดมากมายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาก่อนฝึกงาน

แต่ถึงเวลาจริง บอกได้เลยว่า…

เทสที่สร้าง

ร่างที่เป็น

จริงๆ แล้วไม่ใช่แบบนี้นะคะ 555 พี่ๆ ทุกคนเก่งจริง เราได้รับความรู้ตลอดการฝึกงานมาเยอะมากๆ นอกจาก Hard Skill เต็มเปี่ยมแล้ว กำลังใจในการทำงานก็คือที่สุดเลย ที่เป็นรูปนี้เพราะตอนฝึกงานจะมี Session ที่คุยแลกเปลี่ยน Icebreaking กัน และพี่ๆ ตั้งชื่อมีตติ้งว่า Teletubbies Assemble เลยกลายเป็นชื่อแก๊งค์ไปแล้วค่ะ (ดูน่าเกรงขามสุดๆ 😂) เป็นอีกหนึ่ง Session ที่จัดขึ้นทุกวันศุกร์ ฮีลใจมากๆ นอกจากได้ปรึกษาเรื่องงาน ยังมีเล่นเกม เล่นบททดสอบบุคลิกภาพ รวมถึงพูดคุยเรื่องทั่วไป เพื่อผ่อนคลายเรื่องเครียดๆ ประจำสัปดาห์ด้วย

Teletubbies Assemble Members!

เราไม่รู้ว่าพี่เค้าสัมผัสได้ หรือไม่อยากให้เรารู้สึกกังวลรึเปล่า แต่สิ่งที่พี่ๆ คอยพูดอยู่เสมอตอนฝึกงานช่วงแรกๆ

“พี่อยากให้การฝึกงานของเราเป็นความทรงจำที่ดีและมีความสุข มีอะไรคุยได้เสมอ พี่ๆ ยินดีคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด และหากรู้สึกว่าอะไรหนักเกินไป บอกพี่ๆ ได้”

หลังจากตอนนั้น เราก็มีความมั่นใจมากขึ้น แล้วก็กล้าคุยกับพี่ๆ ในหลายเรื่อง เพราะเรารู้สึกอยู่เสมอว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว “เรามีทีม” ที่คอยช่วยเหลือและซัพพอร์ต เวลาที่ติดอะไร ก็ปรึกษาได้

สภาพแวดล้อมการทำงานเป็นยังไง?

เวลาเริ่มงานของเราคือ 09:00–18:00 น. ในช่วงเวลาที่ฝึกงาน เรามีโอกาสได้เข้าประชุมใหญ่ๆ สำคัญๆ ด้วยเช่นกัน เพราะพี่ๆ ในทีมอยากให้เราเข้าใจตำแหน่งและหน้าที่ที่เราต้องทำมากขึ้น ว่าพอต้องทำงานร่วมกับหลายทีม ควรให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหายังไง

นอกจาก Session ทุกวันศุกร์ของแก๊ง Teletubbies Assemble แล้ว ก็จะมีอีกมีตติ้งนึงที่เข้าทุกวันจันทร์ เป็น Session ที่ให้เราได้คุยกับพี่เมนเทอร์โดยเฉพาะ เพื่อ Sync กันว่าอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง ติดอะไรไหม ทำให้รู้สึกว่าได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมอยู่เสมอ รวมถึงทำให้สนิทกับพี่ๆ มากขึ้นด้วย เวลาที่เราเข้าออฟฟิศส่วนใหญ่จะเป็นทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี พี่ๆ จะนัดเข้ามานั่งทำงานด้วยกัน พูดคุย เลี้ยงข้าว เลี้ยงกาแฟ (พี่ๆ เลี้ยงดีมากก 💖) แต่โดยส่วนใหญ่จะมีประชุมค่อนข้างเยอะ บรรยากาศในการทำงานจะแตกต่างจากการคุยกันทาง MS Teams เพราะบรรยากาศที่บริษัทดีมากๆ ช่วยให้มีไฟในการทำงานเพิ่มขึ้นสุดๆ 🔥🔥🔥

บรรยากาศที่นั่งทำงานในออฟฟิศ

และสุดท้ายคำถามที่คนสนใจฝึกงานอาจจะอยากรู้…

ฝึกงานได้เงินเดือนไหม?

ฝึกงานได้เบี้ยเลี้ยงค่ะ ได้ทุกวันที่เข้าฝึกงานเลย เงินเข้าทุกสัปดาห์สุดท้ายของสิ้นเดือน โดยปกติประมาณวันที่ 21–25 แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความรู้และประสบการณ์ที่เราได้นะคะ ^ ^

ฝากถึงคนที่สนใจสมัครฝึกงานที่ KBTG

นอกจากเตรียมความรู้และความพร้อมทั้งกายและใจแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพแวดล้อมและทีมเลย พี่ทุกคนน่ารักมากๆ ยินดีสอนและให้คำแนะนำตลอด มีอะไรถามได้เสมอ โดยนอกจากเรื่องเทคแล้ว สิ่งที่คุณจะได้ก็คือ

• โอกาสที่จะเข้ามาลองจับเครื่องมือระดับ Enterprise
• พี่และเพื่อนร่วมงานที่ดี
• วัฒนธรรมองค์กรตาม 4 Core Value หลัก อย่าง ONE Step Ahead, ONE Goal, ONE Team, Number ONE
• เสื้อ KBTG และของรางวัลจากการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ (บอกเลยว่าคน KBTG เรื่องงานว่าเต็มที่แล้ว กิจกรรมเต็มที่กว่า 😂)

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด อยากจะขอบคุณอาจารย์ เพื่อนๆ และคนรอบตัวทุกคนที่ผลักดัน เป็นกำลังใจที่ดี ทำให้การฝึกงานผ่านไปด้วยดี และขาดไปไม่ได้เลยคือพี่ทุกคนในทีมที่คอยให้ความช่วยเหลืออยู่เสมอ เรียกได้ว่าเป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว คอยสอน ให้คำแนะนำ แชร์ประสบการณ์และความรู้สึกดีๆ ด้วยกันตลอดระยะเวลาฝึกงานที่ผ่านมา รู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของเด็กคนหนึ่งที่มีโอกาสเข้ามาทำบริษัทที่มอบความรู้ ความสนุก มิตรภาพดีๆ ที่มีชื่อว่า KBTG

ยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ KBTG Internship Bootcamp 2023 ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนจากกิจกรรมต่างๆ ที่มาแลกเปลี่ยนความคิด ความฝัน และการฝึกงานในแต่ละตำแหน่ง ยินดีที่ได้รู้จักพี่ๆ และเพื่อนๆ ทุกคนค่ะ ^^

สำหรับใครที่ชื่นชอบบทความนี้ อย่าลืมกดติดตาม Medium: KBTG Life เรามีสาระความรู้และเรื่องราวดีๆ จากชาว KBTG พร้อมเสิร์ฟให้ที่นี่ที่แรก